พระเครื่อง

เหรียญหลวงปู่ไข่
อมตะแห่งค่านิยมเหรียญพระสงฆ์

เหรียญหลวงปู่ไข่ อมตะแห่งค่านิยมเหรียญพระสงฆ์

09 มิ.ย. 2552

เหรียญพระสงฆ์ ที่ได้รับความนิยมเทียบเท่า หรือสูงกว่าเหรียญเบญจภาคีพระสงฆ์ที่เคยจัดลำดับไว้ในอดีต เช่น เหรียญหลวงพ่อดิ่ง วัดบางวัว ฉะเชิงเทรา เหรียญหลวงพ่อคง วัดซำป่าง่าม ฉะเชิงเทรา เหรียญหลวงพ่อรุ่ง วัดท่ากระบือ เหรียญหลวงพ่ออี๋ วัดสัตหีบ และเหรียญสมเด็จพ

  แต่มีเหรียญหนึ่งที่ถือว่าแพงสุดๆ ในบรรดาเหรียญพระสงฆ์ทั้งหมด และก็ไม่ได้จัดอยู่ในชุดเบญจภาคีเหรียญพระสงฆ์ด้วย เหรียญนั้นคือ เหรียญหลวงปู่ไข่ วัดบพิตรภิมุข หรือวัดเชิงเลน กทม. สร้างปี ๒๔๗๓  สันนิษฐานว่าสร้างไม่เกิน ๗๐ เหรียญ
 
 ชื่อเสียงของ หลวงปู่ไข่ วัดเชิงเลน นั้นโด่งดังมาหลายทศวรรษแล้ว เพราะเป็นพระเกจิอาจารย์ผู้สร้าง พระปิดตา เนื้อผงคลุกรัก ที่มากด้วยพุทธคุณ และ เหรียญรูปเหมือน มีค่านิยมสูงในวงการพระเครื่อง
นอกจากนี้ยังมีพระอรหัง กลีบบัวเคลือบ และไม่เคลือบ เครื่องราง เช่น ตะกรุด ผ้าประเจียด และรูปถ่าย
แม้หลวงปู่ไข่ ไม่ได้มียศถาบรรดาศักดิ์ เป็นเพียงพระหลวงตาประจำวัด แต่การปฏิบัติ และกิตติคุณของท่าน เป็นที่เลื่องลือว่าทรงวิทยาวรคุณ เป็นพระวิปัสสนาที่มีชื่อเสียง และมีคุณธรรมสูง เป็นที่ยอมรับในหมู่นักปฏิบัติธรรม เมื่อครั้งที่ท่านยังมีชีวิตอยู่ นอกจากจะเป็นผู้เคร่งครัดในการปฏิบัติแล้ว ท่านได้สร้างพระแจกให้ลูกศิษย์ และผู้ที่มานมัสการท่าน เพื่อนำไปบูชาให้เกิดสิริมงคลอีกด้วย

 ปรากฏว่าวัตถุมงคลที่ท่านแจกไปนั้น เป็นที่ยอมรับกันทั่วไปว่าเด่นในด้านเมตตา คงกระพัน มหาอุด และดีพร้อมไปเสียทุกอย่าง
 
 หลวงปู่ไข่ เป็นผู้ที่ตั้งมั่นอยู่ในคุณพระรัตนตรัย มีจิตสุขุมเยือกเย็น ประกอบด้วยเมตตากรุณา มีจริยาวัตรอัธยาศัยเรียบร้อย เคร่งครัดในทางสัมมาปฏิบัติ เป็นที่เคารพนับถือแก่บรรดาศิษย์ และผู้ที่รู้จักคุ้นเคยทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด เป็นอันมาก

 หลวงปู่ไข่เป็นพระที่สมถะใฝ่สันโดษ เจริญวิปัสสนากรรมฐานเป็นนิตย์ ไม่ยุ่งเกี่ยวกับใคร บรรดาศิษย์ของหลวงปู่ไข่เจ็บไข้ได้ป่วยก็มาหา หลวงปู่ไข่ก็จะแนะนำให้ไปซื้อยามาเสกให้กิน เมื่อมีเวลาว่าง หลวงปู่ไข่ก็จะสร้างพระ ตะกรุด ธง และเหรียญออกแจกจ่ายแก่บรรดาศิษย์ ท่านมรณภาพลงเมื่อวันที่ ๑๖ มกราคม ๒๔๗๕ ด้วยวัย ๗๔ ปี พรรษา ๕๔ นับถึงปัจจุบันนี้ก็เป็นปีที่ ๗๗ แล้ว แต่ความเชื่อความศรัทธาในบารมีแห่งตัวท่าน ผ่านวัตถุมคลของท่าน ยังคงอยู่ในความทรงจำ และความรู้สึกของลูกศิษย์อยู่เสมอ

 นายอรรถวัติ ศิริสิทธิธงไชย หรือ บอย ท่าพระจันทร์ ผู้เชียวชาญด้านเหรียญพระคณาจารย์ของสมาคมพระเครื่องพระบูชาไทย อธิบายให้ฟังว่า ปกติแล้ว ถ้าเป็นเหรียญวงรีรูปทรงไข่ การสร้างเหรียญตั้งแต่ปี ๒๔๖๐- ๒๔๘๐ ประมาณ ๙๘% จะเป็นเหรียญชนิดหูเชื่อม แต่ความพิเศษของเหรียญหลวงปู่รุ่นนี้ แม้จะสร้างในปี ๒๔๗๓ กลับเป็นเหรียญหูในตัว เข้าใจว่าจำนวนการสร้างที่น้อย ประมาณการว่ามีการสร้างเหรียญรุ่นนี้เพียง ๗๐ เหรียญเท่านั้น (สร้างตามอายุ)

 ในกรณีการสร้างเหรียญปั๊มข้างกระบอก ส่วนใหญ่จะเป็นเหรียญที่มีการสร้างในหลักร้อยเหรียญขึ้นไป
 การผลิตเหรียญรุ่นนี้ เป็นเป็นเหรียญข้างเลื่อย ชนิดหูในตัว (เหรียญที่เลื่อยเผื่อหูสำหรับเจาะรูภายหลัง โดยเหรียญและหูเชื่อมทำมาพร้อมๆ กัน)

 ในอดีตนักเลงพระบอกต่อๆ กันมาว่า เป็นเหรียญหูเชื่อม (เหรียญกับหูเชื่อมทำคนละครั้ง มาเชื่อมต่อกันภายหลัง) สันนิษฐานว่า เซียนไม่อยากเปิดเผยจุดสำคัญ

 ส่วนหนึ่งอาจจะเป็นได้ว่า เซียนต้องการซื้อเก็บไว้เอง ขณะเดียวกันอาจจะมีความรู้เรื่องเหรียญมากพอ
 ส่วนเหตุผลที่ทำให้เหรียญรุ่นนี้มีค่านิยมสูงมาตั้งแต่อดีตนั้น บอย ท่าพระจันทร์ บอกว่า เนื่องจากได้รับการถ่ายทอดจากนักเลงพระยุคก่อนๆ ว่า “เป็นเหรียญในตำนาน ใครได้ครอบครองถือว่า เป็นสุดยอดของคนเล่นพระเหรียญ”

 อย่างไรก็ตาม เป็นเรื่องที่แปลกมาก แม้ว่าไม่มีใครกล่าวถึงประสบการณ์ การรวมทั้งการเช่าซื้อ ก็เกือบจะไม่มีข่าวในวงการเลย ครั้งสุดท้ายมีการเช่าซื้อกันเมื่อปลายปี ๒๕๕๑ ในราคาสูงถึง ๕ ล้านบาท

 ส่วนที่เช่ามาโดยตรงนั้น แม้ว่าเป็นเหรียญที่ผ่านการใช้งานมาชนิดที่เรียกว่ามองหรือแยกไม่ออกว่าเป็นเหรียญหลวงปู่ไข่ ราคาขายไปประมาณ ๓ แสนบาท

 เหตุผลหนึ่งที่มีคนกล้าเช่าในราคาสูง เพราะถ้าเป็นคนเล่นเหรียญพันธุ์แท้ ต้องมีเหรียญหลวงปู่ไข่ด้วย
 "การทำปลอมนั้น มีทั้งหูในตัว หูเชื่อม แต่ฝีมือการทำปลอมยังห่างไกลมาก เพราะไม่มีเหรียญแท้ไปเป็นแบบ เรียกว่าเก๊ดูง่าย ตลอดเวลาที่อยู่ในวงการพระมานาน เคยเห็นเหรียญหลวงปู่ไข่ที่หมุนเวียนอยู่ในตลาดพระเครื่อง และหนังสือพระเพียง ๔ เหรียญเท่านั้น

 นอกจากเหรียญหลวงปู่ไข่ รุ่นแรก ซึ่งเป็นรุ่นเดียวนั้น ยังมี พระปิดตาหลวงปู่ไข่ ที่มีการแสวงหาในหลักล้านบาท แต่ก็เป็นเรื่องแปลก สำหรับ พระอรหังกลีบบัวหลวงปู่ไข่ ค่านิยมอยู่ในหลักพันปลายๆ เท่านั้น เข้าใจว่าจำนวนการสร้างมีมากนั่นเอง" บอย ท่าพระจันทร์ กล่าว

 ด้าน นายพยัพ คำพันธุ์ นายกสมาคมผู้นิยมพระเครื่องพระบูชาไทย บอกว่า จริงๆ แล้วเบญจภาคีพระปิดตาเนื้อผงคลุกรัก แพงทุกองค์ คือ

 ๑.พระปิดตา หลวงพ่อแก้ว วัดเคลือวัลย์ จ.ชลบุรี ๒.พระปิดตาหลวงปู่เอี่ยม วัดสะพานสูง จ.นนทบุรี ๓.พระปิดตาหลวงปู่ไข่ วัดเชิงเลน (วัดบพิตรพิมุข) กทม. ๔.พระปิดตาหลวงปู่ยิ้ม วัดหนองบัว จ.กาญจนบุรี  และ ๕.พระปิดตาหลวงปู่จีน วัดท่าลาด จ. ฉะเชิงเทรา

 หลวงปู่ไข่ท่านเป็นพระที่สมถะ รักสันโดษ มีความเมตตาต่อสานุศิษย์ทุกคน แม้กระทั่งเหล่าเจ้าขุนมุลนายในสมัยนั้น ก็ได้ฝากตัวเป็นศิษย์กับท่าน

 เหตุที่พระปิดตาหลวงปู่ไข่ได้สร้างไว้น้อยมาก และหายากมากตั้งเล่นพระมากก่า ๓๐ ปี มีพระปิดตาหลวงปู่ไข่ผ่านมือไม่เกิน ๑๐ องค์ โดยล่าสุดได้เช่ามาในราคากว่า ๒ ล้านบาท ส่วนพุทธคุณของพระปิดตาหลวงปู่ไข่ นั้นเมตตามหานิยม โชคลาภ และคล้วคลาด

 อย่างไรก็ตาม แม้ว่าเหรียญหลวงปู่ไข่ และพระปิดตาหลวงปู่ไข่ จะขึ้นชื่อว่าสุดยอดของความแพง คืออยู่ในหลักล้านบาท แต่ยังมีพระดีราคาถูก ที่มีพุทธคุณไม่แพ้กัน คือ พระกลีบบัวอรหัง ซึ่งเป็นเหรียญที่หลวงปู่ไข่สร้างไว้เมื่อประมาณ พ.ศ.๒๔๗๐ ซึ่งสร้างพระกลีบบัวอรหังไว้แจกโดยตรง เป็นว่าพระใช้งาน จำนวนมากหน่อย ปัจจุบันยังพอหาได้ไม่ยากนัก สวยๆ ก็อยู่ที่หลักหมื่น แต่ส่วนใหญ่จะอยู่ในหลักพันเท่านั้น

 

 เรื่อง - ภาพ... "ไตรเทพ ไกรงู"