พระเครื่อง

วิเคราะห์...เจาะลึก'พระขุนแผนเคลือบ'กรุวัดอัมพวัน

วิเคราะห์...เจาะลึก'พระขุนแผนเคลือบ'กรุวัดอัมพวัน

30 พ.ค. 2556

วิเคราะห์...เจาะลึก'พระขุนแผนเคลือบ'กรุวัดอัมพวัน : พระกรุ อยุธยา โดยมโนมัย อัศวธีระนันท์ (pinprapa.com)


             กำลังเป็นที่ฮือฮาในสังคมวงการพระเครื่อง เกี่ยวกับ พระขุนแผนเคลือบ ที่ขึ้นจากกรุวัดอัมพวัน ต.บางด้วน อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี มีกระแสวิพากษ์วิจารณ์กันไปต่างๆ นานา แตกต่างกันไป ซึ่งผู้เขียนได้รับฟังข้อคิดเห็นจากหลายๆ ฝ่าย พอประมวลได้ดังนี้

             ๑.กลุ่มที่คิดว่าเป็นพระยุคเดียวกับพระขุนแผนเคลือบ กรุวัดใหญ่ชัยมงคล จ.พระนครศรีอยุธยา

             ๒.กลุ่มที่คิดว่าเป็นพระแท้แน่นอน แต่เป็นพระยุคหลัง พระกรุวัดใหญ่ชัยมงคล
 
             ๓.กลุ่มที่คิดว่าเป็น “พระผียัดกรุ” หรือ “เซียนสร้างเรื่อง เพื่อขายพระ”

             ทั้งนี้ทั้งนั้น จากการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกัน ผู้เขียนได้ให้ความสำคัญกับผู้ชำนาญ พระขุนแผนเคลือบ (ตัวจริง) พบเห็นและผ่านตา พระขุนแผนเคลือบมามากจนเกิดความชำนาญหลายๆ ท่าน และอิงกับข้อเท็จจริงที่สัมผัสได้ คือ การส่องพิจารณาวิเคราะห์จากองค์พระเป็นหลักใหญ่

             พระขุนแผนเคลือบ กรุวัดอัมพวัน ผู้เขียนได้ผ่านตามาเป็นจำนวนร่วมร้อยองค์ และได้เป็นธุระในการล้างคราบกรุออก จึงพอจำแนกลักษณะของพระได้ดังนี้

             ๑.พระกลุ่มที่อยู่ในไห ที่ขึ้นจากกรุมานานพอสมควร และไม่ได้ลงยางไม้ไว้ เรียกกันว่า “กลุ่มไหบก” พระส่วนใหญ่จะคมชัด

             ๒.พระกลุ่มที่ได้จากในน้ำ ซึ่งมีการลงยางไม้รักษาสภาพพระไว้ สันนิษฐานว่า อาจมีการนำพระขุนแผนวางในไห แล้วเทยางไม้ทับเข้าไป เซียนพระส่วนใหญ่ยังไม่ทราบว่า คราบ “ตะกรัน” สีดำๆ แข็งๆ ที่เข้าใจว่าเป็นคราบดินก้นไห คือ ยางไม้ ล้างออกได้ยาก เว้นแต่จะใช้น้ำยาลอกสีลอกรักล้างออกเท่านั้น พระในกลุ่มนี้มีจำนวนมากที่สุด และมีความคมชัดต่างกัน มีการตัดพิมพ์ที่แตกต่างกัน ไม่ตายตัว หากจำแนกละเอียดก็สามารถจำแนกได้อีกเช่นกัน แต่จะพยายามเน้นถึงรายละเอียดที่มีคนถามกันมามากๆ เป็นจุดใหญ่ก่อน

             ๓.พระที่ขึ้นมาจากกรุนานมากๆ แล้ว เป็นพระไม่ได้ลงยางไม้ไว้ พบว่ามีสภาพผ่านการใช้มานาน พระกลุ่มนี้ผู้เขียนทราบว่า มีจำนวนน้อยมาก องค์พระจะเขื่องกว่าปกติ และมีความหนามากกว่า น้ำเคลือบจะหนากว่า ๒ กลุ่มข้างต้น มีความคล้ายคลึงกับ พระขุนแผนเคลือบ กรุวัดใหญ่ชัยมงคล มากที่สุด
ความแตกต่างระหว่าง พระขุนแผนเคลือบ กรุวัดอัมพวัน กับ พระขุนแผนเคลือบ กรุวัดใหญ่ชัยมงคล

             ๑.ข้อแตกต่างที่เห็นได้ชัดเจนของพระกรุนี้ คือ พระพิมพ์เหมือนวัดใหญ่ แต่หากเทียบขนาดโดยรวม จะมีขนาดเล็กกว่า จึงตัดขาดจากวัดใหญ่ไม่ได้ ทำให้พระกรุนี้ถูกนำไปเปรียบกับวัดใหญ่ตลอดเวลา
ถึงแม้ว่าพระกรุวัดใหญ่บางองค์จะมีขนาดเล็กกว่าวัดอัมพวัน ก็เป็นส่วนน้อย (พิมพ์ต้อ) แต่ดูเหมือนสัดส่วนพระไม่ได้เล็กตามเหมือนวัดอัมพวัน

             ๒.องค์พระบางกว่า วัดใหญ่มีหนามีบาง แต่วัดอัมพวันส่วนมากจะเป็นพระที่กดพิมพ์มาค่อนข้างบาง ที่หนาจะพบจำนวนน้อย

             ๓.น้ำเคลือบบางกว่าวัดใหญ่ ซึ่งในที่นี้ผู้เขียนสันนิษฐานว่า น้ำเคลือบของทางวัดใหญ่มีความเข้มข้นมากกว่า เวลาทาเคลือบจึงติดผิวพระได้หนาแน่นมากกว่า ทำให้น้ำเคลือบของวัดใหญ่โดยมากจะเกาะบนเนื้อพระสม่ำเสมอกันมากกว่าของวัดอัมพวัน

             ความโปร่งแสงของน้ำเคลือบโดยรวมแล้วของวัดใหญ่จะมีมากกว่า  ซึ่งพระของวัดอัมพวันส่วนใหญ่น้ำเคลือบค่อนข้างทึบ แต่ในทางกลับกัน วัดใหญ่กลับมีพระที่น้ำเคลือบเสีย ที่เรียกกันว่าน้ำเคลือบตาย มากกว่าวัดอัมพวัน แต่ทั้ง ๒ วัด น้ำเคลือบมีคุณสมบัติตรงกัน

             ๔.เข้าใจกันว่าพระขุนแผนเคลือบ กรุวัดอัมพวัน มีขึ้นมาพิมพ์เดียว คือ พิมพ์ลึกฐานสูง ไม่หลากหลาย จะต่างกันตรงการตัดขอบบ้าง ถึงแม้ว่าจะมีความแตกต่างในรายละเอียดพอจะจำแนกได้ แต่ไม่แตกต่างทางรูปแบบโดยชัดเจน จนคนเข้าใจว่ามีพิมพ์อยู่รูปแบบเดียว

             ๕.พระลึก และเรียบร้อยมากเกินไป คือ กดพิมพ์มาดีมาก ไม่เหมือนวัดใหญ่ ที่มีรอยพระติดบล็อก พระตื้น พระบิดเบี้ยว ทำให้พระกรุนี้เกิดความรู้สึกว่า ดูดี เรียบร้อยจนเกินไป หากนำไปเทียบกับวัดใหญ่ฯ

             ความหลากหลายต่างๆ แม้มีมาก แต่ไม่ชัดเจน หากเทียบกับพระกรุวัดใหญ่ที่แตกจากกรุวัดบ้านกลิ้งแล้ว ทางบ้านกลิ้งมีความหลากหลายที่ชัดเจนมากกว่ากันมาก แม้ช่วงแรกๆ จะถูกต่อต้านบ้าง แต่เมื่อนำพระวัดบ้านกลิ้งมาเอาคราบกรุออก แล้วส่งประกวดงานใหญ่ๆ ก็ติดที่ ๑ เสมอ และติดรางวัลกันหลายองค์ จนปัจจุบันจะหาผู้ที่แยก พระขุนแผนเคลือบ ที่ขึ้นวัดบ้านกลิ้งออกจากวัดใหญ่ฯ ก็แทบไม่มีแล้ว

             ส่วนพระขุนแผนเคลือบ ที่เคยขึ้นที่ จ.นนทบุรี ในอดีต เช่น วัดเชิงท่า และวัดโบสถ์ แท้ที่จริงมีความแตกต่างเรื่อง พิมพ์ทรง กับทางวัดใหญ่ฯ อยู่พอสมควร แต่ก็ไม่ได้มีการวิเคราะห์ถึงความแตกต่างนั้น จนพระที่ขึ้นจาก จ.นนทบุรี ถูกเล่นหากันจนกลมกลืนไปกับวัดใหญ่ฯ ไปแล้วเช่นกัน

             อนึ่ง พระขุนแผนเคลือบ ที่มีความคมชัด จนหนังสือพระเครื่องหลายๆ เล่ม ยกขึ้นมาเป็น “องค์ครู” ในการพิจารณา  พระขุนแผนเคลือบ กรุวัดใหญ่ฯ กลับกลายเป็นพระที่ขึ้นทาง จ.นนทบุรี โดยที่ผู้เขียนเองไม่ทราบก็มี

             แต่สำหรับพระขุนแผนเคลือบ กรุวัดอัมพวัน ไม่เหมือน กับกรุวัดบ้านกลิ้ง หรือพระที่ขึ้นทาง จ.นนทบุรี ก่อนหน้านี้ เพราะไม่ว่าจะล้างจะใช้มาอย่างไร ในอนาคตเซียนพระก็ยังรู้ว่าเป็นพระกรุวัดอัมพวัน อยู่ดี

             ส่วนเรื่องเนื้อพระกรุวัดอัมพวัน ก็มีความแตกต่างกัน คือ มีทั้งเนื้อเหมือน และไม่เหมือนกับพระกรุวัดใหญ่ เนื้อพระกรุวัดอัมพวัน จะดูแกร่งกว่าเป็นส่วนใหญ่ และบางองค์จะมี “เม็ดแร่ทองคำ” ละลายอยู่ใต้น้ำเคลือบอย่างชัดเจน

             สำหรับเรื่องราวของการแตกกรุ ไม่ขอยกมากล่าวถึง เพราะยังไม่แน่ใจในข้อเท็จจริง ทำให้ยังสันนิษฐานไม่ถูก

             จุดเด่นของ “พระขุนแผนเคลือบ กรุวัดอัมพวัน”

             ๑.น้ำเคลือบ ใครจะบอกว่า น้ำเคลือบพระกรุนี้ไม่ดี ไม่ถึง การแตกลายงาไม่ได้ ฯลฯ แต่ส่วนตัวผู้เขียนแล้ว จากประสบการณ์ที่ผ่าน พระขุนแผนเคลือบ กรุวัดใหญ่ กรุวัดบ้านกลิ้ง มาแล้วมากมาย ทุกสภาพ น้ำเคลือบตาย น้ำเคลือบบาง หรือแม้แต่ถูกใช้มาจนแทบไม่มีน้ำเคลือบเลย ก็ผ่านมือมาแล้ว ทำให้พูดได้เต็มปากว่า ยังไม่เคยเห็นพระขุนแผนเคลือบของเกจิสำนักใดๆ หรือ พระขุนแผนเคลือบเก๊ จากค่ายไหนๆ ทำได้ใกล้เคียงกับของกรุวัดใหญ่เลย นอกจากพระขุนแผนเคลือบ กรุวัดอัมพวัน นี่แหละ ที่ทำได้ใกล้เคียงมากๆ มีคุณสมบัติของน้ำเคลือบที่ตรงกับหลักการที่ใช้ในการพิจารณาเช่นเดียวกัน เพียงแต่พระส่วนใหญ่น้ำเคลือบค่อนข้างโปร่งแสงน้อยกว่าพระกรุวัดใหญ่ฯ น้ำเคลือบค่อนข้างจาง และบางไปหน่อย

             ๒.ลักษณะการกดพิมพ์ พระกรุวัดอัมพวัน เป็นการกดพิมพ์ด้วยมือ ไม่ได้ใช้เครื่องจักรแบบ พระขุนแผนเคลือบเก๊ ส่วนใหญ่ แม้พระกรุนี้จะมีขนาดไล่เลี่ยกัน แต่ก็แตกต่างกันชัดเจน วิธีการกดพิมพ์เหมือนกับพระกรุวัดใหญ่ฯ มาก ด้านหลังเรียบ มีรอยอุ้งมือจางๆ ไม่เป็นหลุมเป็นบ่อ

             ๓.การเผา มีการเผาแบบเดียวกับพระกรุวัดใหญ่ฯ คือ ส่วนใหญ่จะมีรอยกะเทาะตอนดึงพระออกจากเตาที่บริเวณด้านหลังขอบล่าง แม้ไม่ชัดเจนแบบพระกรุวัดใหญ่ แต่ลักษณะของน้ำเคลือบที่บางกว่า ทำให้รอยกะเทาะมักจะมีน้อยกว่า พระที่ไม่มีรอยกะเทาะมีเป็นส่วนน้อย ซึ่งข้อนี้ตรงกันกับพระกรุใหญ่ฯ
พระกรุวัดอัมพวัน หลายองค์พบว่าเรียงพระในเตาเผาผิด คือ เรียงหันหน้าเข้าผนังเตา เมื่อเผาเสร็จตอนนำพระออกจากเตาจึงเกิดรอยกะเทาะบริเวณด้านหน้า แทนที่จะเป็นด้านหลัง ซึ่งพระขุนแผนเคลือบกรุวัดใหญ่ฯ ผู้เขียนก็เคยพบพระที่มีลักษณะหันหน้าผิดด้านเช่นเดียวกัน

             พระขุนแผนเคลือบ กรุวัดอัมพวัน บางองค์ ยังมีตำหนิที่เกิดจากการเผาเช่นเดียวกับ พระขุนแผนเคลือบ กรุวัดใหญ่ฯ คือ มีเม็ดผดขึ้นบริเวณผิวพระ บ้างก็ว่าเกิดจากการปะทุของน้ำเคลือบขณะเผา บ้างว่าเป็นเศษขี้เถ้าฟุ้งขึ้นมาติด เป็นธรรมชาติที่ดีของ พระแท้ ที่เผาจากเตาเผาแบบโบราณ ไม่ใช่ เตาเผาไฟฟ้าแบบพระขุนแผนยุคใหม่

             ทำไมถึงคิดว่า “พระขุนแผนเคลือบ กรุวัดอัมพวัน เป็นพระแท้”

             (โปรดอ่านต่อ...ฉบับวันพฤหัสบดีที่ ๖ มิถุนายน ๒๕๕๖)