'เช่นนั้นเอง'ของขลังยอดนิยมพุทธทาส | คมชัดลึก

               หลวงปู่พุทธทาสเคยกล่าวว่า “พระเครื่องหรือเครื่องรางของขลังมาห้อยคอ ไม่อาจคุ้มครองเราจากความทุกข์ได้ ...แต่หากใครแขวน “เช่นนั้นเอง” ไว้ในใจอย่างถูกต้อง จะมีความทุกข์น้อยลงและแก้ปัญหาได้ทุกเรื่อง
 

               ...และคำว่า “เช่นนั้นเอง” จึงเป็นแรงบันดาลใจให้ คนหนุ่มรุ่นใหม่ อย่างนายชัยพัฒน์ ทองคำบรรจง ในวัย 30 ปี เจ้าของนามปากกา ชยจิต นักเขียนและเจ้าของสำนักพิมพ์ A Thing Book ได้สร้างสรรค์หนังสือการ์ตูนธรรมะ “สงสัยมั้ย ? ธรรมะ พุทธทาส  ฉบับ เช่นนั้นเอง” ซึ่งมีการจัดงานเปิดตัวหนังสือเล่มนี้ขึ้น เมื่อเร็วๆ นี้ ที่หอจดหมายเหตุพุทธทาสอินทปัญโญ หรือ สวนโมกข์กรุงเทพฯ โดยมีพระครูใบฎีกามณเฑียร มัณฑิโร ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดธารน้ำไหล สวนโมกขพลาราม เดินทางมาร่วมงานพร้อมแสดงปาฐกถาธรรม

               นายชัยพัฒน์ ทองคำบรรจง หรือ ชยจิต นักเขียนหนุ่มผู้เคยบวชเรียนและได้พบว่าแม้ว่าจะมีเงินมากมายแค่ไหนก็ยังไม่ใช่ความสุขที่แท้จริง ได้เปิดใจเล่าถึงที่มาของการสร้างสรรค์หนังสือการ์ตูนธรรมะ “สงสัยมั้ย ? ธรรมะ พุทธทาส ฉบับ เช่นนั้นเอง” ว่า 

               “ผมได้ฟังซีดีธรรมะเทศนาชุด ทุกอย่างเป็นเช่นนั้นเอง ของหลวงปู่พุทธทาส  รู้สึกว่าเป็นธรรมะที่ลึกซึ้ง มีคุณค่าทันยุคทันสมัย ตรงกับใจคน ที่ไม่มีใครชอบความทุกข์ แต่ทำไมถึงทุกข์กันนัก ก็เพราะว่าเรามัวแต่ไปคิดว่า ทำไมถึงต้องเป็นแบบนี้ ทำไมจึงไม่เป็นแบบนั้น แต่หลวงปู่พุทธทาสบอกว่า จะทุกข์ไปทำไม ในเมื่อมันก็เช่นนั้นเอง ทุกเรื่องเป็นไปตามผลที่เกิดจากเหตุ เราทำเหตุอันใดไว้ก็จะได้ผลแบบนั้น คนเราส่วนใหญ่มักทุกข์ไปกับสิ่งที่ผ่านไปแล้ว หรือไม่ก็ทุกข์กับสิ่งที่ยังมาไม่ถึง เพราะไม่ยอมรับในสิ่งที่เกิดขึ้น อยากให้เป็นไปตามที่เราต้องการ ก็เลยเป็นทุกข์ …”

               โดย ชัยพัฒน์ ได้ยกตัวอย่างเปรียบเทียบให้เห็นตามอย่างง่าย ๆ ในความเป็นเช่นนั้นเอง ว่า “สมมุติว่าเราปลูกต้นมะม่วง ย่อมมีผลมะม่วงที่ดีบ้างแย่บ้าง ต่อให้เราใส่ปุ๋ยรดน้ำพรวนดินดีแค่ไหน  ต้นมะม่วงก็ย่อมมีทั้งลูกมะม่วงที่ดีบ้างและไม่ดีบ้าง ซึ่งเรื่องนี้เราก็เข้าใจได้ ในทางกลับกัน ตัวเราเองต่อให้ทำดีที่สุดก็ย่อมมีผลลัพธ์ที่ดีบ้างไม่ดีบ้างเกิดขึ้นกับตัวเรา ถ้าเราไม่เข้าใจว่ามันเป็นเช่นนั้นเอง เราก็จะต้องทุกข์ต่อไป ทุกข์เพราะความคิด อยากหยุดทุกข์ก็ต้องหยุดคิด ต้องใช้เช่นนั้นเองมาแขวนไว้ที่คอที่ใจ”

               เมื่อถามถึงกลุ่มเป้าหมายของหนังสือ “สงสัยมั้ย ? ธรรมะ พุทธทาส ฉบับ เช่นนั้นเอง” ชัยพัฒน์ ได้เปิดใจว่า “ตั้งใจทำให้กับเยาวชนคนรุ่นใหม่ ไปจนถึงคนวัยเริ่มทำงาน แต่จริง ๆ แล้วก็อ่านกันได้ทุกวัย  สำหรับวัยรุ่นยังเจอความทุกข์ไม่มาก  ผมก็อยากให้พวกเขาได้เริ่มศึกษา ความเป็นเช่นนั้นเอง ไว้ก่อน เพราะเด็กรุ่นใหม่คือผู้ที่จะเติบโตเป็นกำลังหลักในอนาคต ถ้าปลูกฝังเสียแต่วัยรุ่น ธรรมะน่าจะเข้าถึงเขาได้เร็วกว่าตอนที่เขาผ่านชีวิตไปมากแล้ว ซึ่งเมื่อถึงตอนนั้นเขาอาจมีความยึดมั่นถือมั่นมากมายแล้ว ใช้ชีวิตมามาก ตัวตนมากขึ้น การเข้าถึงธรรมะก็อาจยากขึ้น”

               ชัยพัฒน์ ขยายความต่อว่าทำไมจึงต้องเป็นการ์ตูนธรรมะ “เพื่อตอบโจทย์ให้ตรงกับไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตของคนรุ่นใหม่และคนทั่วไปที่ไม่ชอบอ่านหนังสือธรรมะหนัก ๆ ผมจึงเลือกนำเสนอเนื้อหาธรรมผ่านการ์ตูนเพื่อช่วยในการอ่าน และให้ผู้อ่านเกิดความเข้าใจได้ทันที ”

               โดยหนังสือเล่มนี้ ได้คู่พ่อลูกนักเขียนการ์ตูนมือรางวัล ฟู-เรืองศักดิ์ ดวงพลา และเดอะดวง-วีระชัย ดวงพลา มาร่วมกันสร้างสรรค์ภาพประกอบที่โดดเด่น สีสันสะดุดตา น่าสนใจ ด้วยลายเส้นการ์ตูนที่สื่อความหมายแห่งธรรมะ “เช่นนั้นเอง” ได้อย่างแจ่มแจ้ง โดย เดอะดวง - วีระชัย กล่าวว่า “สำหรับตัวผมการที่จะต้องมาถ่ายทอดธรรม “เช่นนั้นเอง” มันเป็นเรื่องที่ฟังง่าย แต่ทำไม่ง่าย แต่ถ้าน้องๆได้ลองอ่านดู และลองเปิดใจ ก็จะเข้าใจ แถมเรายังได้ซึมซับธรรมโดยไม่รู้ตัว เหมือนกับผมเช่นกันครับ”  ทางด้าน ฟู-เรืองศักดิ์ ดวงพลา กล่าวว่า “แม้ว่าผมจะเคยอ่านธรรมะมาบ้าง แต่ก็ยังมีกิเลสอยู่ การตีความธรรมะจากการทำงานนี้ ทำให้ผมได้ข้อคิด ถึงความมันเป็นเช่นนั้นเอง และมีสติมากขึ้นด้วยครับ”

               หนึ่งในแขกรับเชิญของงานเปิดตัวหนังสือการ์ตูนธรรมะ “สงสัยมั้ย ? ธรรมะ พุทธทาส ฉบับ เช่นนั้นเอง” คือหนุ่มน้อยวัย 25 ปี เจ้าของคลินิกแพทย์แผนไทยประยุกต์ ธรรมรักษา-ศูนย์สร้างเสริมสุขภาวะองค์รวม และได้อ่านหนังสือธรรมบรรยายของหลวงปู่พุทธทาสมาแล้วไม่ต่ำกว่า 50 เล่ม ได้เปิดใจว่า...“ธรรมะให้ประโยชน์ทุกอย่างในชีวิต  ยิ่งในสังคมสมัยใหม่ที่เป็นวัตถุนิยม การได้ศึกษาธรรมะจะช่วยให้เราได้มองเห็นธรรมชาติความเป็นจริง หรือ เช่นนั้นเอง ซึ่งจะช่วยคุ้มครองให้เราไม่ต้องตกเป็นทาสทางวัตถุ เช่น มือถือรุ่นใหม่เข้ามาเราก็ไม่ต้องตกเป็นทาส หรือไปติดมัน รู้สึกว่าคนอื่นมีแล้วเราไม่มีไม่ได้  เราจะเริ่มเข้าใจธรรมชาติความจริงว่า  มันก็เป็นเช่นนั้นเอง”

               ท้ายสุด ชัยพัฒน์ ได้สรุปแก่นธรรมของหนังสือ “สงสัยมั้ย?ธรรมะ พุทธทาส ฉบับ เช่นนั้นเอง”  ว่า  “ คำว่า เช่นนั้นเอง ของหลวงปู่พุทธทาส ก็คือ สิ่งที่เกิดขึ้นมันไม่ได้ทุกข์หรือสุข มันเป็นไปตามผลที่เกิดจากเหตุ เป็นไปตามเรื่องที่มันควรจะเป็น เพราะศาสนาพุทธสอนให้เรายอมรับและเข้าใจความเป็นจริงในสิ่งที่เกิดขึ้น เพื่อที่จะไม่ทุกข์ ดังคำว่า “เช่นนั้นเอง” ของหลวงปู่พุทธทาส อินทปัญโญ”

               ...คนรุ่นใหม่ที่หมั่นฝึกพิจารณาธรรมะหรือกฎธรรมชาติ “เช่นนั้นเอง” ข้อนี้ จะไม่เพียงหลีกพ้นจากความทุกข์ แต่ยังสามารถนำไปแก้ปัญหาทุกเรื่องได้ด้วย

               สำหรับผู้สนใจ สามารถติดตามเนื้อหาหนังสือการ์ตูนธรรมะ “สงสัยมั้ย?ธรรมะ พุทธทาส ฉบับ เช่นนั้นเอง ได้ที่ร้านหนังสือชั้นนำทั่วประเทศ