
ยันต์๕แถวอ.คมจอมขมังเวทเมืองสุพรรณบุรี
ยันต์๕แถวอ.คมไตรเวทย์ ฆราวาสจอมขมังเวทแห่งเมืองสุพรรณบุรี : เรืองและภาพ ไตรเทพ ไกรงู
สำนักสักยันต์ของ "อ.คม ไตรเวทย์" ตั้งอยู่ในบริเวณวัดบางกุ้งใต้ ต.บางกุ้ง อ.เมือง จ.สุพรรณบุรี โดยท่านได้ศึกษาเวทมนตร์คาถาต่างๆ ควบคู่ไปกับการเข้าฌานฝึกพลังจิต กระทั่งมีวิทยาอาคมแก่กล้า ปลุกเสกวัตถุมงคลเข้มขลังของจริง จนกลายเป็นที่ยอมรับนับถือของบรรดาลูกศิษย์ไทยและต่างประเทศ ปัจจุบันมีสื่อเริ่มค้นหาท่านและลงประวัติอย่างมากมายตามหนังสือ และโทรทัศน์ ถึงกับถูกยกให้เป็น "ฆราวาสผู้เรืองวิทยาอาคมแห่งเมืองสุพรรณบุรี"
สำนักสักยันต์ อ.คม จะมีรูปแบบลายยันต์ต่างๆ มากมายหลายร้อยยันต์ แต่ทุกยันต์ อ.คม จะแนะนำตามความเหมาะสมของศิษย์แต่ละคนด้วย พร้อมกับจะจัดวางลายยันต์ในตำแหน่งที่เหมาะสมและดูสวยงามแบบไม่มีใครเหมือน ลายยันต์ยอดนิยมที่ลูกศิษย์ลูกหานิยมสักที่สำนักสักยันต์ ได้แก่ ยันต์เสริมดวง ยันต์มหาลาภ ยันต์เก้ายอด ยันต์ปู่ฤๅษี ยันต์หนุมาน ฯลฯ ยันต์เสน่ห์ ได้แก่ ยันต์จิ้งจกสะดุ้ง ยันต์กวางเหลียวหลัง ยันต์เพชรพญาธร ฯลฯ
ส่วนยันต์ ๕ แถว นั้น อ.คม บอกว่า ได้รับอานิสงส์จากความมีชื่อเสียง "ยันต์ ๕ แถว หนุนดวง" ของ อ.หนู กันภัย เจ้าสำนักสักยนต์อันโด่งดังแห่งเมืองปทุมธานี แต่จะเรียก "ยันต์ ๕ แถว" เท่านั้น โดยยันต์ที่เขียนทั้ง ๕ แถวไม่เหมือนกันเลยสักตัว ทั้งนี้หากนำยันต์ ๕ แถวของสำนักอื่นมาเปรียบเทียบกัน ก็จะไม่เหมือน ยันต์ ๕ แถวของ อ.หนู
อย่างไรก็ตาม อ.คม ได้อธิบายความหมายของยันต์แต่ละแถวให้ฟังว่า แถวที่ ๑ เป็นคาถา พระเจ้า ๑๐ ชาติ ที่ว่าหรือ “หัวใจทศชาติ” คือ “เต-ชะ-สุ-เน-มะ-ภู-จะ- นา-วิ-เว” โบราณาจารย์ท่านกล่าวสรรเสริญคุณพระคาถาไว้มากมาย เป็นคาถาโภคทรัพย์ โชคลาภ ป้องกันอุปสรรค ใช้ได้สารพัดเพียงใจเป็นสมาธิ แต่ส่วนใหญ่ที่เห็นพระคุณเจ้าท่านใช้ในด้านเมตตา-โชคลาภค้าขายเป็นส่วนใหญ่ และพระนามย่อชื่อพระบารมีธรรม ดังนี้
๑.พระเตมีย์ = เต ๒.พระมหาชนก = ชะ ๓.พระสุวรรณสาม = สุ ๔.พระเนมิราช = เน ๕.พระมโหสถบัณฑิต = มะ ๖.พระภูริทัต = ภู ๗.พระจันทกุมาร = จะ ๘.พระนารทะ = นา ๙.พระวิธูรบัณฑิต = วิ และ ๑๐.พระเวสสันดร = เว
แถวที่ ๒ คาถาหัวใจพาหุง ที่ว่า "พา มา นา อุ กะ สะ นะ ทุ" เป็นคาถาที่กล่าวถึงชัยชนะ ข ประการของพระพุทธเจ้า ให้สวดภาวนา พระคาถาหัวใจพาหุง ทุกวัน วันละ ๑๐๘ ครั้ง จะประสบแต่ลาภ ยศ สุข สรรเสริญ ชนะศัตรู และอุปสรรค
แถวที่ ๓ "พระคาถาหัวใจนวหรคุณ" หรือ "มงคลเก้า" ซึ่งหมายถึง คุณ ๙ อย่างของพระพุทธเจ้า ่ทีว่า “อะ สัง วิ สุ โล ปุสะ พุ ภะ” ซึ่งแต่ละตัวเป็นคำย่อและมีควาหมายดังนี้
อะ คือ อะระหัง
สัง คือ สัมมาสัมพุทโธ เขาตัดมาแต่บาลีแค่ สํ จึงอ่านว่า สัง
วิ คือ วิชชาจะระณะสัมปันโน
สุ คือ สุคะโต
โล คือ โลกะวิทู
ปุ คือ ปุริสะทัมมะสารถิ
สะ คือ สัตถา เทวะมะนุสสานัง
พุ คือ พุทโธ
ภะ คือ ภะคะวาติ
แถวที่ ๔ หัวใจพระธรรม ๗ คัมภีร์ ที่ว่า คือ “สัง วิ ธา ปุ กะ ยะ ปะ” คือพระธรรมในอภิธรรมปิฎกมีอยู่ทั้งสิ้น ๔๒,๐๐๐ พระธรรมขันธ์ อภิธรรม คือธรรมะขั้นสูง หัวใจของอภิธรรมจะกล่าวถึงเรื่องของ จิต เจตสิก รูป และนิพพา
อุปเท่ห์ของยันบทนี้ โบราณกล่าวไว้ว่า "มีพุทธคุณท่วมหลังช้าง" คือ ๑.โบราณใช้เป็นคาถาปลุกเสกสีผึ้งในด้านเมตตามหาเสน่ห์ ๒.หากสวดได้ ๗ ปีเมือสิ้นชีวิตลงร่างจะไม่เน่าเปื่อย ๓.หากสวดให้ผู้ป่วยฟังจะหายป่วยได้เร็ว หากผู้ป่วยหมดบุญ(อายุ)จะไปสบาย ๔.พระเกจิอาจารย์ใช้สวดสะเดาะเคราะห์ ต่อดวงชะตาราศี ๕.ผูกเป็นหัวใจ ย่อว่า สัง วิ ธา ปุ กะ ยะ ปะ (หัวใจพระอภิธรรม) ซึ่งเป็นพระคาถาที่ป้องกันสิ่งอัปมงคลและภูตผีปีศาจ และ ๖.สวดสาธยายเทวดาชอบฟัง
นอกจากนี้แล้ว ในแถวที่ ๔ ยังเพิ่มคาถาหัวใจพระไตรปิฎก (พระรัตนตรัย) ที่ว่า "มะ อะ อุ" มะ (แทนพระพุทธ มาจาก มะนุสสานัง พุทโธ ภะคะวาติ) อะ (แทนพระธรรม มาจากอะกาลิโกเอหิปัสสิโก) อุ (แทนพระสงฆ์ มาจาก อุชุปะฏิปันโน สาวะกะสังโฆ) ทั้งนี้ ต้นแบบของอะอุมะ หรืออุอะมะ เป็นนามศัพท์ย่อมาจากคำว่า โอม ซึ่งหมายถึงมหาเทวะผู้เป็นเจ้าของฮินดู อะ (แทนพระนารายณ์) อุ (แทนพระศิวะ) มะ (แทนพระพรหม)
แถวที่ ๕ มีถาคา ๒ บท คือ คาถาพลิกดวง พลิกชะตา หรือพลิกแผ่นดิน ที่ว่า นะ ปะ ริต สุ โท นะ และ คาถา พระเจ้า ๕ พระองค์ ที่ว่า “นะ โม พุท ธา ยะ” โดยทุกๆ แถวครอบด้วยอุณาโลมรัตนตรัย ทั้งหน้าหลังเพื่อเพิ่มพุทธคุณ โดยในการลงจะต้องบริกรรมว่า “โส ธา ยะ อิ ติ ภะ คะ วา” เมื่อรวมพุทธคุณของยันต์ทั้ง ๕ แถว ก็จะเป็นดังคำโบราณว่า "พุทธคุณท่วมหลังช้าง"
เมื่อถามถึงข้อห้าม อ.คม บอกว่า ที่ห้ามเด็ดขาด คือ ๑.ห้ามด่าพ่อล้อแม่ หมิ่นบุพการีชน ๒.ห้ามมีชู้กับเมียคนอื่น ห้ามข่มขืนกระทำชำเรา และ ๓.ห้ามหมิ่นครูบาอาจารย์และพระสงฆ์ผู้ทรงศีล ถ้าใครทำยันต์จะเสื่อมทั้งหมด เหลือแต่รูปยันต์ซึ่งไร้ความศักดิ์สิทธิ์
ข้อห้ามที่ไม่ห้ามขาด ๑.ห้ามกินลูกน้ำเต้า ๒.ห้ามกินเหล้าเหลือเดนคนอื่น ๓.ห้ามลอดสะพานหัวเดียว ๔.ห้ามลอดใต้ถุนครัว และ ๕.ห้ามลอดไม้ค้ำต้นกล้วย ถ้าใครทำยันต์จะเสื่อม ๑ วันเต็ม เฉพาะเรื่องคงกระพัน
"ไม่เคยถ่ายรูปคนดังโชว์ไว้ที่สำนัก และไม่เรียกคนที่มาสักยันต์ว่าเป็นลูกศิษย์ จะเรียกว่า ผู้ที่นับถือศรัทธากัน ลูกศิษย์ที่สำนักมีไม่ถึง ๑๐ คน คือ ลูกศิษย์ที่มาเรียนวิชา และลูกศิษย์ที่คอยรับใช้ที่สำนัก" อ.คม กล่าวทิ้งท้าย
๑๐-๑๒พ.ค.๕๖งานไหว้ครู
นอกจากจะเป็น ฆราวาส ผู้ครองตนอยู่ในศีลธรรมอันดีแล้ว อ.คม ยังเป็นอีกผู้หนึ่งที่ได้ทำกิจกรรมเพื่อสังคม และทำการทำนุบำรุงศาสนาอยู่เสมอ อันจะกล่าวถึงโดยสังเขปดังนี้ พ.ศ.๒๕๕๑ สร้างวิหาร ประดิษฐานองค์พระพุทธรูป "องค์พระพุทธโสธร จำลอง" และองค์พระสมเด็จสัมมาสัมพุทธเจ้า ๕ พระองค์ ณ วัดบางกุ้งใต้
พ.ศ.๒๕๕๓ สร้างพระอุปคุต ปางบัวเข็ม ขนาดหน้าตัก ๑๐๙ นิ้ว ณ วัดบางกุ้งใต้ จ.สุพรรณบุรี
พ.ศ.๒๕๕๔ สร้างพระพุทธรูป หลวงพ่อโต ทันใจ หน้าตัก ๖ เมตร วัดมิตรศรัทธาธรรม ต.เทพนคร อ.เมือง จ.กำแพงเพชร และสร้างพระพุทธลีลาสูง ๓.๕๐ เมตร ณ วัดบางกุ้งใต้
พ.ศ.๒๕๕๕ สร้างพระพุทธรูป หลวงพ่อโต ทันใจ หน้าตัก ๖ เมตร วัดบางกุ้งใต้ สร้าองค์พระประธาน หน้าตัก ๑๐๙ นิ้ว วัดวังทองหลาง ต.กำแพงเพชร อ.กำแพงเพชร จ.กำแพงเพชร
พ.ศ.๒๕๕๖ จัดสร้างสนามเด็กเล่น โรงเรียนอนุบาลวัดบางกุ้ง และสร้างแท่นประดิษฐานพระอุปคุต องค์ใหญ่ ณ วัดบางกุ้ง
อย่างไรก็ตาม ระหว่างวันที่ ๑๐-๑๒ พฤษภาคม ๒๕๕๖ นี้ ขอเชิญสานุศิษย์และสาธุชนทุกท่านร่วมมหาพิธีศักดิ์สิทธิ์ครั้งยิ่งใหญ่ ไหว้ครูประจำปี-สมโภชฉลองพระพุทธรูป-เททองหล่อพระกริ่งมงคลโสฬสจักรพรรดิ ณ สถานลานบุญ วัดบางกุ้งใต้ โดยมีกำหนดการดังนี้
วันศุกร์ที่ ๑๐ พฤษภาคม ๒๕๕๖ เวลา ๐๙.๑๙ น. เปิดพิธีสักยันต์ประจำสำนัก ยันต์มหาลาภ ยันต์มหาเสน่ห์-ยันต์พลิกดวงร้ายกลายเป็นดี (พิธีสักมีตลอดวันและตลอดงาน)
วันเสาร์ที่ ๑๑ พฤษภาคม ๒๕๕๖ เวลา ๐๙.๑๙ น. ทำพิธีสมโภชและถวายพระพุทธรูปใหญ่ และถาวรวัตถุที่อาจารย์คมสร้างไว้ถวายแด่สงฆ์ และเปิดให้สักการะขอพรพระศักดิ์สิทธิ์ และเวลา ๑๕.๑๙ น. ทำพิธีเททองหล่องพระกริ่งมงคลโสฬสจักรพรรดิ
วันอาทิตย์ที่ ๑๒ พฤษภาคม ๒๕๕๖ เวลา ๐๙.๑๙ น. ทำพิธีบวงสรวงไหว้ครูบูรพาจารย์ และเวลา ๑๓.๓๙ น. พุทธาภิเษกปลุกเสกมงคลวัตถุต่างๆ