
หลักการพิจารณา 'หุ่นพยนต์' อ.ลอย อยุธยา
(ต่อจากฉบับเมื่อวานนี้) วัสดุที่ใช้ทำ "หุ่นพยนต์" หลายตำรากำหนดไว้ไม่เหมือนกัน ที่ได้ยินบ่อยที่สุด คือ ไม้ไผ่ที่เขาเอาไว้เขี่ยศพ ขณะเผาบนเชิงตะกอน เพื่อให้ไฟไหม้ศพอย่างทั่วถึงกัน
บางตำราก็ว่า ใช้ก้านธูปที่ใช้ไหว้ศพ โดยก่อนจะมาทำหุ่นต้องเอาไปแทงที่ศพก่อน ฯลฯ
นอกจากนี้ ยังมีหลายตำราบอกว่าใช้ ก้านใบลาน ซึ่งเป็นข้อมูลที่น่าเชื่อถือมากที่สุด และจากการส่องผ่านกล้องขยายก็น่าจะเป็นจริง
ทั้งนี้ ก้านลาน หรือวัสดุที่ใช้ทำเป็น ตอกสาน ดูแล้วมีความเหนียว มีความยืดหยุ่นสูง หากมีรอยปริแตกก็
จะแตกออกเป็นเส้นแยกออกไป ไม่ได้เป็นขุย อันเป็นคุณลักษณะของก้านลาน
อีกทั้งก้านลาน ก็มีขนาดเล็ก เหมาะที่จะผูกทำหุ่นมากกว่าไม้ไผ่ที่ต้องมานั่งเหลา หุ่นบางตัวจะมีการต่อเส้น หรือขึ้นเส้นใหม่ แสดงว่าวัสดุที่นำมาใช้มีความยาวจำกัด
ก่อนอื่นการผูกหุ่นพยนต์ จะต้องมีไส้อยู่ภายในโครง ที่ถักสานรัดเรียงกันห่อหุ้มเอาไว้ ส่วนนี้น่าจะสำคัญในพิธีกรรมทำหุ่น
หลักเกณฑ์ในการพิจารณา
ลำดับแรก ให้นึกถึงวัสดุที่นำมาสาน ซึ่งตามภูมิปัญญาชาวบ้าน ไม่ว่าจะเป็นช่างสาน หรือช่างทองโบราณ จะมีเทคนิคคล้ายกัน คือนำวัสดุมาทำให้มีขนาดเท่ากัน
อย่างช่างทองในสมัยก่อน หรือแม้แต่สมัยนี้ จะมีเหล็กกลึงที่ทำเป็นรูๆ มีหลายขนาด ใช้สำหรับดึงลวดทอง หากต้องการทำสร้อยเส้นใหญ่ ก็จะนำทองที่ตีเป็นเส้นยาวๆ มาดึงผ่านรูแผ่นเหล็กที่เจาะเป็นรู ให้ได้ลวดขนาดที่ต้องการ ก่อนนำมาร้อยเป็นทองรูปพรรณต่อไป
ไม้ หรือ ก้านลาน ที่นำมาสานหุ่นพยนต์ก็เช่นเดียวกัน โดยเจาะรูที่แผ่นสังกะสี หรือฝากระป๋องนม ให้เป็นรูขนาดต่างๆ จากนั้นเอาไม้หรือก้านลานสอดเข้าไปทางรูนั้น แล้วดึงรูดออกมาให้ คมของรูกระป๋องนม หรือสังกะสี รูดบังคับให้ไม้หรือก้านลาน มีขนาดเท่ากันตลอดทั้งเส้น
เมื่อนำก้านลาน ที่ผ่านกรรมวิธีรูดผ่านรูสังกะสีที่ว่านี้ มาสานเป็นหุ่น แนวสานตามขวางทุกๆ แนว จะต้องมีขนาดเท่ากัน
หากก้านลานเส้นหนึ่งเล็กอีกเส้นหนึ่งใหญ่ จะทำให้ไม่ได้สัดส่วน ซึ่งของปลอม หรือของทำเทียมเลียนแบบ ส่วนใหญ่ที่เห็นกันทั่วๆ ไป มักจะใช้ก้านลานขนาดไม่เท่ากัน ถ้าพบเห็นก็ฟันธงได้เลยว่า ไม่ใช่หุ่นพยนต์ของ อ.ลอย
ก้านลานที่ผ่านการรูดผ่ารูที่ว่านี้ จะมีลักษณะมนน้อยๆ เทียบให้เห็นภาพ ก็คือ ลักษณะเหมือนหลอดกาแฟผ่าครึ่ง เนื่องจากถูกขอบรูสังกะสีลบคมทั้งสองด้าน มองดูก็จะรู้สึกถึงความเหนียวแน่นได้อย่างชัดเจน
ต้องย้ำว่า ความกว้างของก้านลานที่สานตามแนวนอนและแนวตั้ง ต้องมีสันฐานเท่ากัน ตรงนี้สำคัญมาก เหตุเพราะเมื่อดึงผ่านรูสังกะสี จึงทำให้มีสันฐานเท่ากัน
หากใช้เหลาแบบของปลอมบางสำนักที่ทำออกมา จะเห็นได้ว่า บางแถวแคบบางแถวกว้าง ทั้งนี้แนวตั้งกับแนวขวางไม่จำเป็นต้องเท่ากัน เพราะใช้ไม้คนละเส้นกัน
หุ่นพยนต์ของปลอม โดยมากมักนำไม้ไผ่มาเหลา ขอบคมเป็นสัน ไม่โค้งมน เรื่องนี้เป็นที่ปกปิดกันในกลุ่มที่เล่นหากันมาก่อน เนื่องจากกลัวหลุดไปถึงหูคนทำของปลอม
แต่เท่าที่พบเห็นทุกวันนี้ การเสริมสร้างความเข้าใจในของแท้ เป็นสิ่งที่ควรทำอย่างยิ่ง ก่อนที่มาตรฐานที่แท้จริงจะสาบสูญไปเสียก่อน
ลำดับต่อมา ให้ดูที่ ศิลปะของการสานตัวหุ่น แม้จะมีหลายยุค แต่รูปแบบทางศิลปะจะใกล้เคียงกันมาก ขอให้จดจำทรวดทรงของหุ่นให้ดี โดยเฉพาะลักษณะจากหัวไหล่ที่คอด และค่อยๆ บานออกตรงส่วนหัว
ส่วนหัว ลักษณะแบบหัวหมุด รูปแบบนี้จะพบมากที่สุด เป็นแบบมาตรฐานทางศิลปะของหุ่นพยนต์ อ.ลอย
ส่วนลำตัว ลายสานแนวตั้งจะทำเป็นโครง (หรือส่วนกระดูก) ส่วนแนวนอนจะเป็นลายสาน (ส่วนเนื้อหนัง) ห่อหุ้มสิ่งสำคัญไว้
แนวตั้งซึ่งเป็นโครง แต่ละโครงจะเว้นช่องไฟไว้พอประมาณ หุ่นตัวหนึ่งส่วนใหญ่ที่พบมักจะมีโครงแนวตั้งนี้อยู่ด้วยกัน ๖ แถว แต่ละแถวมักจะประกอบก้านลาน ๒ เส้นแทบทุกตัว
และแนวนอน จะเป็นก้านลานเส้นเดียว สานไขว้หุ้มส่วนที่เป็นโครงเอาไว้ ทั้งนี้แนวตั้งกับแนวขวาง ไม่จำเป็นต้องมีความกว้างของไม้เท่ากัน เพราะใช้ไม้คนละเส้นกัน
การสานหุ้มโครงลักษณะนี้ ทำให้ลำตัวของหุ่นพยนต์ มีลักษณะเป็นปล้องๆ ซึ่งมักจะมีอยู่ ๖ ปล้อง ล้อมโครงหุ่น เป็นทรงกระบอก ตั้งแต่ส่วนหัวลงมา
ส่วนแขน ต่อออกมาจากใต้คอ ก้านลานที่ใช้มักจะมีขนาดเท่ากับส่วนโครง มีอยู่ด้วยกัน ๓ ซี่ สานแบบถักเปีย บางตัวจะใช้ไม้ ๒ เส้น รวมกันเป็น ๑ ซี่
ส่วนขา เช่นเดียวกับส่วนแขน คือ มี ๓ ซี่ แต่เท่าที่พบส่วนมาก แต่ละซี่จะมี ๒ เส้น อาจจะเจตนาให้ส่วนขามีสัดส่วนใหญ่กว่าส่วนแขน โดยถักไขว้เป็นเปีย เช่นกัน
ขอขอบพระคุณ อ.มโนมัย อัศวธีระนันท์ จ.พระนครศรีอยุธยา ผู้ให้ข้อมูล
"หมอต้น"