
ทันตแพทย์สม สุจีรากับ'ปาฏิหาริย์ของพระเครื่อง'
ทันตแพทย์สม สุจีรากับคำอธิบายเรื่อง'ปาฏิหาริย์ของพระเครื่อง' : พระเครื่องคนดัง โดยไตรเทพ ไกรงู
ทันตแพทย์สม สุจีรา หรือ หมอสม นักเขียนมือทอง เจ้าของผลงานเบสต์เซลเลอร์ยอดฮิต ไอน์สไตน์พบ พระพุทธเจ้าเห็น และเดอะท็อปซีเคร็ต หนังสือธรรมะแนวใหม่ ที่นำเอาธรรมะจิตวิทยา และวิทยาศาสตร์มาผสมผสานกันได้อย่างลงตัวที่สุด จนทำให้ยอดขายทะลุหลักแสน กลายเป็นทอล์ก ออฟ เดอะทาวน์ ของคนทั้งประเทศในเวลาอันรวดเร็ว โดยผลงานล่าสุด คือ เดอะท็อปพาวเวอร์ ซึ่งเป็นหนังสือที่จะเปิดเผยถึงข้อมูลเบื้องลึกของพลังจิตใต้สำนึกซึ่งเป็นเสมือนฐานข้อมูลที่จิตสะสมสัญญา และเวทนาทุกภพทุกชาติไว้ นอกจากนี้แล้วยังอธิบายถึงแก่นสำคัญของการค้นพบอันยิ่งใหญ่ทางจิตวิทยา ที่สามารถเปลี่ยนแปลงจิตใจและวิถีชีวิตของมนุษย์ได้
อย่างไรก็ตาม หมอสมยอมรับว่า เดิมมีความเชื่อเรื่องกรรมในมุมที่ว่า ถ้าเราทำผิดก็ต้องโดนลงโทษตามกฎหมาย พอมาปฏิบัติธรรมแล้วจึงเชื่อเรื่องกรรมในทางพุทธศาสนา โดยหลังจากเรียนจบมหาบัณฑิตทางด้านจิตวิทยาได้เข้าปฏิบัติธรรมกับพระอาจารย์ใหญ่ภัททันตะ อาสภมหาเถระ ฝึกวิปัสสนากรรมฐานตามหลักสติปัฏฐาน ๔ อยู่ ๑ ปี และพบว่าเรื่องของจิตตามแนวพระพุทธศาสนาละเอียดลึกซึ้งยิ่งกว่าจิตวิทยาตะวันตกมากมายนัก จึงสนใจศึกษาธรรมะด้วยตนเองอย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่นั้นมา
ส่วนเรื่องการแขวนพระนั้น หมอสม บอกว่า การแขวนพระเหมือนกับการฝึกว่าน้ำ แรกๆ เราต้องใช้ห่วงยาง หรือเสื้อชูชีพช่วย แต่เมื่อเราว่ายจนมีความชำนาญ ห่วงยางและเสื้อชูชีพก็ไม่มีความจำเป็น พระเครื่องก็เช่นกัน แรกเริ่มเราแขวนพระเพื่อเป็นเครื่องยึดเหนี่ยวทางจิตใจ เมื่อเราฝึกเจริญสติ มีหลักธรรมประจำใจมากขึ้น ความจำเป็นต้องแขวนพระเครื่องก็น้อยลง แต่หากวันใดจิตตก หรือต้องการความมั่นใจ การแขวนพระเครื่องก็ช่วยได้มากเลยทีเดียว เพราะพระเครื่องและวัตถุมงคลนั้นมีพลังงานอย่างหนึ่ง แต่ไม่ใช่พลังงานในทางวิทยาศาสตร์ เป็นพลังงานในรูปธรรมนามธรรมที่สามารถช่วยผู้แขวนได้ ขณะเดียวกันพระเครื่องยังช่วยได้ในแบบของการมีสติ มีสิ่งยึดเหนี่ยวทางใจ
เมื่อถามถึงเรื่องปาฏิหาริย์ หมอสม อธิบายให้ฟังว่า ปาฏิหาริย์เป็นเรื่องของอีกมิติหนึ่ง ปกติแล้วหากเราเจริญวิปัสสนาเวทนานุสติปัฏฐาน ในรับเข้าใจจิตตัวเอง เราก็จะสามารถเข้าใจจิตคนอื่นได้ ทั้งนี้ เคยสัมผัสปาฏิหาริย์ครั้งหนึ่งเกี่ยวกันมนต์คาถา คือ เคยเป็นเกลื้อนที่ข้อมือ รักษาอยู่นานหายาทามาทุกชนิดก็ไม่หาย แต่ด้วยเหตุที่ใส่เสื้อแขนยาวไม่เห็น จึงไม่กังวลใจเท่าไรนัก ครั้งหนึ่งได้ขึ้นไปปฏิบัติธรรมติที่เชียงใหม่เป็นเวลา ๓ วัน ก่อนกลับพระอาจารย์ได้เป่าหัวให้ จำได้ว่าพระท่านท่องมนต์บทหนึ่งแล้วลงท้ายด้วย “อายุ วรรณะ สุขัง พลัง” ระหว่างนั้นไม่ได้คิดอะไรมาก เมื่อมาถึงบ้านถอดเสื้อออก ปรากฏว่าเกลื้อนที่เป็นอยู่หายไปเหมือนกับว่าไม่เคยเป็นเกลื้อนมาก่อน ซึ่งเป็นเรื่องอัศจรรย์มากไม่สามารถอธิบายด้วยศาสตร์ทางการแพทย์ได้ สุดท้ายต้องยกให้เป็นเรื่องปาฏิหาริย์
ทั้งนี้ หมอสมพูดทิ้งท้ายไว้อย่างน่าคิดว่า "อย่าหลงและยึดติดกับชื่อเสียงและความสำเร็จ เพราะสิ่งนี้คือมายา ผมอาจจะประสบความสำเร็จทางด้านการเรียน การงาน ซึ่งเป็นความสำเร็จทางโลก แต่นั่นเป็นมายาซึ่งอยู่ได้ไม่นาน เราไม่ควรไปยึดติดสิ่งที่ไม่ใช่ของจริง อีกหน่อยมันก็หายไป ความสุขที่แท้จริงต่างหากเป็นจุดที่ผมต้องการ แต่ผมยังไปไม่ถึง ต้องอ่านดูแล้วจะรู้ ทุกๆ ครั้งที่จะออกจากบ้านต้องสวดมนต์ เพราะการสวดมนต์เป็นการทบทวนความรู้ทางธรรม และเป็นการเจริญสติก่อนที่จะออกจากบ้าน ทั้งนี้ คุณพระพุทธ พระธรรม และพระสงฆ์ จะคุ้มครองเราไปตลอดทั้งวัน"