
'ชินทัต'กับปาฏิหาริย์'เจ้าคุณนรฯ'
ชินทัต เวียร์สุวรรณ กับ...ปาฏิหาริย์ "เจ้าคุณนรฯ วัดเทพศิริน" เรื่องและภาพ ไตรเทพ ไกรงู
โครงการ “ส่งเสริมจริยธรรมองค์การ” เป็นโครงการของบริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือซีพีเอฟ ดำเนินธุรกิจภายใต้ปรัชญา ๓ ประโยชน์ที่ว่ากิจการของบริษัทต้องเป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติ ต่อประชาชน และต่อบริษัท โดยมุ่งเน้นการปลูกฝังพนักงานและชาวชุมชนรอบข้างโรงงานให้เป็นคนดีมีจริยธรรม ด้วยการนิมนต์พระนักเทศน์ที่มีชื่อเสียงมาบรรยายธรรมะ ทั้งนี้ จะเปิดโอกาสให้พนักงานที่กระจายตัวอยู่ในพื้นที่ต่างๆ ทั่วประเทศได้รับฟังธรรมะที่ส่วนใหญ่เป็นเรื่องใกล้ตัว ในรูปแบบของการบรรยายธรรมะ การสนทนาธรรม นอกจากนี้แล้วบริษัทยังได้เชิญชวนชาวชุมชนบริเวณรอบโรงงานมาร่วมกิจกรรมด้วยทุกครั้ง
ผู้ที่มีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนปรัชญา คือ นายชินทัต เวียร์สุวรรณ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ สำนักส่งเสริมจริยธรรมองค์การ โดยที่ผ่านมาเขาต้องเดินสายธรรมะบรรยายธรรมพร้อมๆ กับการนิมนต์พระนักเทศน์ตามโรงงานต่างๆ ทั่วประเทศ อาทิ โรงงานผลิตอาหารสัตว์ลำพูน โรงงานผลิตอาหารสัตว์พิษณุโลก โรงงานผลิตอาหารสัตว์บางนา กม.๒๑ โรงงานผลิตอาหารสัตว์บีพี โรงงานสัตว์น้ำหนองแค จ.สระบุรี เป็นต้น โดยมีเป้าหมายที่จะจัดกิจกรรมให้ครบทุกโรงานปีละ ๓-๔ ครั้ง
นายชินทัต ยอมรับว่า แม้จะได้ฟังพระเทศน์ รวมทั้งอ่านหนังสือธรรมะมากหลายร้อยเล่ม เป็นคนเข้าใจธรรมะเป็นอย่างดี แต่สิ่งที่ขาดไม่ได้เช่นกัน คือ พระเครื่อง ซึ่งมีสร้อยอยู่กว่า ๑๐ เส้น มีทั้งพระเก่าพระใหม่ปนกัน รวมทั้งมีทั้งพระสมเด็จด้วย โดยจะเลือกแขวนสลับกัน อย่างวันนี้จะแขวนพระหลวงพ่อโสธร หลวงพ่อจำเนียร วัดถ้ำเสือ และเจ้าคุณนรฯ พระภิกษุพระยานรรัตนราชมานิต (ธมฺมวิตกฺโก ภิกขุ) วัดเทพศิรินทราวาส โดยแขวนพระเครื่องยึดเหนี่ยวจิตใจ ช่วยเหนี่ยวรั้งไม่ให้เราทำในสิ่งที่ผิด ให้มีสติรู้แก่ตัวเราเอง รวมทั้งป้องกันอันตรายที่อาจจะเกิดขึ้น
"ครั้งหนึ่งเคยแขวนถึง ๙ องค์ จำได้ว่ามีพระเจ้าคุณนรฯ วัดเทพสิริน และหลวงปู่แหวน รุ่นเราสู้ ในครั้งนั้นเพื่อนเมาเอาขามาเขี่ยเล่นบริเวณหน้าอกขณะที่ตัวเองนอนหลับอยู่ โดยได้บอกเพื่อนว่ามีพระแขวนอยู่ในคออย่าเอาเท้ามาเขี่ยเล่น เดี๋ยวมีสิ่งไม่ดีเกิดขึ้น ไม่น่าเชื่อเลยว่าคืนนั้นเพื่อนล้มขาหัก ขณะเดียวกันพระเจ้าคุณนรฯ ก็หายไปด้วย กว่าจะหาเจอเวลาผ่านไปเดือนกว่า จากนั้นไม่นานเพื่อนอีกคนก็หาอีก เพราะไปเหยียบโดนเหรียญเจ้าคุณนรฯ แม้จะไม่ตั้งใจก็ตาม เพราะเหล็กหล่นทับขา" นายชินทัตกล่าว
เมื่อถามถึงวัดที่ไปทำบุญเป็นประจำ นายชินทัต บอกว่า ทำบุญทุกอย่าง ทำทาน รักษาศีล ปฏิบัติธรรม รวมทั้งเป็นเจ้าภาพจัดงานบุญ โดยเฉพาะงานบุญห่มผ้าพระธาตุ จนกลายเป็นงานประจำปีแล้ว ได้แก่ งานห่มผ้าพระธาตุวัดเกตุการาม จ.เชียงใหม่ ซึ่งเป็นพระธาตุประจำปีจอ โดยจัดทุกๆ วันวิสาขบูชา งานห่มผ้าพะธาตุแช่แห้ง จ.น่าน จัดทุกๆ วันที่ ๒๐ มีนาคม ๒๕๕๖ และงานห่มผ้าพระธาตุม่อนเปี๊ยะ อ.สะเมิง จ.เชียงใหม่
ทั้งนี้ นายชินทัต ได้ฝากธรรมะไว้อย่างน่าคิดว่า หากเปรียบเทียบระหว่างเชิญวิทยากรมาบรรยาย กับเชิญพระมาเทศน์ ถ้าเป็นวิทยากรเราจะได้ความรู้ด้านเดียว แต่การนิมนต์พระ นอกจากได้ธรรมะแล้ว ท่านยังสอดแทรกการบริหารงานเข้าไปด้วย เราคงเคยได้เห็นได้รู้การทุจริตมาหลายรูปแบบ แต่ก็ยังมีสิ่งที่มองไม่เห็นและน่ากลัวกว่า นั่นก็คือ ทุจริตทางใจ หรือมโนทุจริต ไม่มีใครมองเห็นหรือรู้ได้เพราะเกิดอยู่ในใจคน อันนี้น่ากลัวเพราะวันนี้ยังไม่ทำชั่วเนื่องจากโอกาสไม่อำนวย แต่ในใจคิดชั่วอยากได้ของเขา อยากได้อำนาจของเขา อยากเอาชนะเขา พยาบาทปองร้ายเขายังไม่สบโอกาสก็ดูเรียบๆ เฉยๆ เห็นว่าการทำสิ่งที่ผิดศีลธรรมเป็นเรื่องธรรมดา อันนี้น่ากลัวมาก"