พระเครื่อง

อิ่มบุญหล่อสมเด็จองค์ปฐมกำแพงแสน

อิ่มบุญหล่อสมเด็จองค์ปฐมกำแพงแสน

08 มี.ค. 2556

อิ่มบุญหล่อสมเด็จองค์ปฐมวัดหนองพงนก อ.กำแพงแสน จ.นครปฐม : ท่องไปในแดนธรรม เรื่องไตรเทพ ไกรงู ภาพ ประเสริฐ เทพศรี

              “เราจะให้รูปพระองค์เกลื่อนไปในพื้นธรณี” เป็นหนึ่งในคำปฏิญาณของพระครูอุภัยภาดาธร หรือที่รู้จัดกันดีในนาม "หลวงพ่อขอม" อดีตเจ้าอาวาสวัดไผ่โรงวัว ต.บางตาเถร อ.สองพี่น้อง จ.สุพรรณบุรี เป็นที่ประดิษฐาน "พระพุทธโคดม" ซึ่งเป็นพระพุทธรูปหล่อโลหะสัมฤทธิ์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก มีขนาดหน้าตักกว้าง ๑๐ เมตร สูง ๒๖ เมตร รวมทั้งพระพุทธรูปขนาดต่างๆ ภายในวัดนับพันองค์ ส่วนพระเครื่องและวัตถุมงคล ท่านมีความตั้งใจในการจัดสร้างไว้มากถึง "สิบล้านองค์"

              แม้หลวงพ่อขอมจะมรณภาพมากกว่า ๒๐ ปี (๗ ม.ค. ๒๕๓๓) แต่ปฏิญาณของหลวงพ่อขอม ได้รับการสืบทอดจากพระหลายรูป โดยเฉพาะพระครูไพโรจน์ภัทรกุล เจ้าอาวาสวัดสระ พัง และเจ้าคณะตำบลดอนข่อย อ.กำแพงแสน จ.นครปฐม ได้เป็นผู้นำบุญหล่อพระขนาดหน้าตัก ๕ เมตร และขนาดหน้าตัก ๑๐ เมตร ประดิษฐานตามวัดต่างๆ เกือบ ๕๐๐ องค์แล้ว

              นอกจากนี้แล้วยังมีพระอีกรูปหนึ่งที่มีความตั้งใจสร้างพระใหญ่เช่นกัน คือ พระอธิการเอกลักษณ์ หรือพระอาจารย์เวียน เจ้าอาวาสวัดเจริญราษฎร์บำรุง หรือวัดหนองพงนก ต.สระพัฒนา อ.กำแพงแสน จ.นครปฐม ท่านได้จัดสร้างพระสมเด็จองค์ปฐมปางมหาจักรพรรดิ (พระพุทธรูปทรงเครื่องจักรพรรดิ จำลองมาจากวัดหน้าพระเมรุ จ.พระนครศรีอยุธยา ขนาดหน้าตักกว้าง ๕ เมตร ๙ นิ้ว เนื้อทองเหลืองหนัก ๑๖ ตันแล้ว ขณะนี้ท่านมีโครงการจัดสร้างพระสมเด็จองค์ปฐมปางมหาจักรพรรดิ ด้วยคอนกรีตเสริมเหล็ก ขนาดหน้าตัก กว้าง ๖.๕ เมตร จำนวน ๑๐๘ องค์ เพื่อถวายวัดต่างๆ

              พระอาจารย์เวียน อธิบายให้ฟังว่า “สมเด็จองค์ปฐม” ก็คือพระพุทธเจ้าองค์แรกหรือองค์ที่หนึ่ง ทรงพระนามว่า “สมเด็จพระพุทธสิกขี” แต่พระพุทธเจ้าที่ตรัสรู้ผ่านไปแล้วอาจจะมีชื่อซ้ำกันได้ โดยเฉพาะชื่อนี้มีด้วยกันถึง ๕ พระองค์ จึงเรียกขานกันว่าเป็นพระพุทธสิกขีที่ ๑ พระองค์จึงเป็นต้นพระวงศ์ของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทุกๆ พระองค์ จึงสมควรยกย่องพระพุทธองค์ว่า ทรงเป็น “สมเด็จองค์ปฐมบรมครู” อย่างแท้จริง

              ทั้งนี้ พระราชพรหมยานเถระ (มหาวีระ ถาวโร) หรือที่รู้จักกันในนาม "หลวงพ่อฤาษีลิงดำ" อดีตเจ้าอาวาสวัดท่าซุง (วัดจันทาราม) อ.เมือง จ.อุทัยธานี กล่าวถึง "สมเด็จองค์ปฐม" มีชื่อว่า พระพุทธสิกขี แต่ในคัมภีร์ปฐมมูล ที่พระพุทธเจ้าองค์ปัจจุบันทรงตรัสแสดงแก่ "พระอัญญาโกณฑัญญะ" พระพุทธองค์ทรงตรัสว่า พระพุทธเจ้าองค์แรกในพระพุทธศาสนา ที่ตรัสรู้ก่อนพระพุทธเจ้าทุกพระองค์ ทรงพระนามว่า "พระติกขะคัมมะสัมมาสัมพุทธเจ้า"

              การหล่อพระสมเด็จองค์ปฐมปางมหาจักรพรรดิ ของวัดหนองพงนกครั้งนี้ จัดขึ้นในงานปิดทองหลวงพ่อมงคลนิมิต ประจำปี ๒๕๕๖ ระหว่างวันที่ ๒๓-๒๕ กุมภาพันธ์นี้ โดยวันที่ ๒๕ ตรงกับวันมาฆบูชา วัดจัดให้มีพิธีหล่อพระสมเด็จองค์ปฐมปางมหาจักรพรรดิ ด้วยคอนกรีตเสริมเหล็ก ขนาดหน้าตัก กว้าง ๖.๕ เมตร พิธีเริ่มตั้งแต่เวลา ๐๙.๐๐ น. ซึ่งจะเสร็จสิ้นในเวลา ๑๖.๐๐ น.

              อย่างไรก็ตามด้วยพลังศรัทธาจากพุทธศาสนิกชนจากสารทิศ ในพิธีหล่อพระสมเด็จองค์ปฐมปางมหาจักรพรรดิ มีประชาชนไปร่วมงานเกือบ ๕,๐๐๐ คน จากกำหนดการเดิมพระจะหล่อเสร็จในเวลา ๑๖.๐๐ น.พระหล่อเสร็จก่อน ๑๓.๐๐ น. ด้วยเหตุที่เป็นพระหล่อเสร็จในวันเดียว อาจเรียกพระองค์ดังกล่าวว่า "พระสมเด็จองค์ปฐมปางมหาจักรพรรดิทันใจ" โดยวัดมีโครงการหล่อพระทั้งหมด ๘ องค์ ในวันสำคัญทางพุทธศาสนา และครั้งต่อไปจะหล่อในวันวิสาขบูชา และวันอาสาฬหบูชา เพื่อต้องการฝึกฝนช่างของวัดให้มีความชำนาญก่อนที่จะออกไปหล่อเพื่อประดิษฐานตามวัดต่างๆ ที่ขอมา

              พระอาจารย์เวียนยังบอกด้วยว่า วัดได้ลงทุนสร้างแบบพระเป็นไฟเบอร์ไปกว่า ๒ ล้านบาท เพื่อลดค่าใช้จ่ายในการสร้างพระซึ่งปกติแล้วพระขนาดหน้าตัก กว้าง ๖.๕ เมตร หล่อด้วยคอนกรีตเสริมเหล็กจะมีค่าใช้จ่ายกว่า ๒ ล้านบาท เมื่อมีแบบทำให้ค่าสร้างพระไม่เกินองค์ละ ๕ แสนบาท เมื่อรวมกับแท่นประดิษฐานขนาด ๘X๑๐ เมตร ประมาณ ๓-๔ แสนบาท ต้นทุนการสร้างพระจะอยู่ที่องค์ละไม่ถึง ๑ ล้านบาท โดยขณะนี้มีวัดต่างๆ ติดต่อเข้ามาเพื่อขอนำแบบไปใช้กว่า ๓๐ วัด แล้ว และวัดมีเป้าหมายว่าจะสร้างให้ได้เดือนละ ๑ องค์

              "คติความเชื่อของพุทธศาสนิกชนเชื่อว่าอานิสงส์สร้างพระได้ชื่อว่าเจริญกรรมฐานข้อพุทธานุสติและเป็นการบูชาพระรัตนตรัยสร้างบุญกุศลที่มั่นคงถาวรชั่วนิจนิรันดร์กาลทั้งแก่ตนและแก่บุคคลผู้ร่วมอนุโมทนาสร้างความเจริญรุ่งเรืองให้แผ่ไพศาลไปได้ไกลได้ร่วมกิจกรรมอันจักนำประโยชน์สุขสู่ตนและสู่สังคม ฯลฯ"

              วัด หรือผู้มีจิตรศรัทธาท่าใดมีความประสงค์จัดสร้างพระสมเด็จองค์ปฐมปางมหาจักรพรรดิ ขนาดหน้าตัก กว้าง ๖.๕ เมตร ไว้ในโบสถ์ วิหาร เพื่อถวายเป็นพุทธบูชา สอบถามที่โทร.๐๘-๙๐๕๙-๒๕๒๕, ๐๘-๔๐๗๙-๘๒๑๑ และ ๐-๓๔๓๘-๓๕๖๕


อานิสงส์สร้างพระพุทธรูป


              คำปฏิญาณของหลวงพ่อขอม ที่ท่านได้กล่าวไว้ ๕ ข้อ คือ ๑. ชีวิตของเราที่เหลือ ขอช่วยพระพุทธองค์ไปจนตาย ๒.เมื่อมีชีวิตอยู่ ถ้าเรามีเงินส่วนตัวสัก ๑ บาท เราจะอายพุทธบริษัทเป็นอย่างยิ่ง ๓.เราจะให้รูปพระองค์เกลื่อนไปในพื้นธรณี ๔.โอ...โลกนี้ไม่ใช่ของฉัน และ ๕.เราต้องตาย ตายใต้ผ้าเหลืองของเรา

              หลวงพ่อขอม เคยแสดงธรรมอานิสงส์ของการสร้างพระพุทธรูปไว้ว่า ผู้ใดสร้างรูปพระพุทธเจ้าจะเป็นองค์เล็กเท่าต้นคาก็ดีใหญ่กว่าต้นคาก็ดี ผู้นั้นจะได้เป็นพรหมเป็นอินทร์หมื่นชาติแสนชาติ ถ้าเป็นมนุษย์จะได้เป็นพระเจ้าจักรพรรดิหมื่นชาติแสนชาติจะไม่เป็นผู้ตกต่ำเลยตราบจนกว่าเข้าสู่นิพพาน
  
              นอกจากนี้พระสงฆ์ทั้งในอดีตและปัจจุบันแสดงธรรมเทศน์เกี่ยวกับกับอานิสงส์สร้างพระ เช่น หลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ วัดสะแก จ.พระนครศรีอยุธยา แสดงธรรมไว้ว่า สร้างพระ ๑ องค์ ได้อานิสงส์ ๕ กัป ไม่ว่าเล็กหรือใหญ่สร้างด้วยอะไรก็ตามหมายความว่าบุญกุศลจะตามหนุนส่งท่านไปทุกภพทุกชาตินานถึง๕กัป

              หลวงพ่อฤาษีลิงดำกล่าวว่า "การสร้างสมเด็จองค์ปฐมทำได้ยาก คือว่า เป็นพระพุทธเจ้าองค์ต้นพระพุทธเจ้าทั้งหมดการสร้างองค์ปฐมนี้ท่านเปลี่ยนบัญชีใหม่โดยใช้บัญชีสีทองเป็นทองคำล้วนทั้งเล่มจดบันทึก (เป็นอีกเล่มหนึ่งจากที่จดธรรมดา) ก็แสดงว่าคนที่จะสร้างพระพุทธเจ้าองค์ปฐมได้นี้ต้องเป็นคนมีบุญมากและไปนิพพานได้เร็วมาก"

              ส่วนพระครูพัฒนกิจจานุรักษ์ หรือครูบาชัยยะวงศาพัฒนา วัดพระพุทธบาทห้วยต้ม จ.ลำพูน เคยแสดงธรรมไว้ว่าการสร้างพระเปรียบได้กับธนาคารบุญ ซึ่งจะเกิดบุญกุศลกับผู้ที่มีส่วนในการสร้างโดยบุญกุศลนั้นจะเกิดขึ้นทุกครั้งที่มีผู้มากราบไหว้สักการบูชาเท่ากับจำนวนคนและจำนวนครั้ง

              รวมทั้งพระธรรมสิงหบุราจารย์ หรือหลวงพ่อจรัญ ฐิตธัมโม วัดอัมพวัน จ.สิงห์บุรี เคยแสดงธรรมไว้ว่า การที่ผู้สร้างพระพุทธรูปเกิดศรัทธาจนถึงสละเงินออกมาสร้างพระพุทธรูปได้และออกมาทำทานในงานฉลองพระพุทธรูปได้ชื่อว่าเป็นผู้มี "ความเห็นตรงเห็นถูกแท้" เพราะเป็นบุญของตนเองไม่ใช่บุญของใครเลยผู้สร้างพระพุทธรูปชื่อว่าเป็นผู้ไม่ประมาทชื่อว่าเป็นผู้เตรียมตัวก่อนตาย