
ตึกสงฆ์อาพาธรพ.นครปฐมถวาย'สมเด็จฯเกี่ยว'
ตึกสงฆ์อาพาธรพ.นครปฐม ศรัทธาสารทิศบูรณะถวายเป็นมุทิตา'สมเด็จฯเกี่ยว' : เรื่องและภาพไตรเทพ ไกรงู
โรงพยาบาล ทุกวันนี้มีไม่เพียงพอต่อผู้ป่วย ที่มีมากขึ้นทุกวัน แพทย์โรงพยาบาลอุปกรณ์ทางการแพทย์รวมไปถึงตัวอาคารสถานที่ ปัจจุบันยังเป็นเรื่องที่น่าเป็นห่วงอย่างยิ่ง โดยเฉพาะพระสงฆ์สามเณรที่เจ็บไข้ได้ป่วย และต้องไปนอนพักรักษาตัวในโรงพยาบาล ความไม่สะดวกยังมีให้เห็นในหลายๆ ที่ เฉกเช่นตึกสงฆ์อาพาธ โรงพยาบาลศูนย์นครปฐม ที่สร้างมาตั้งแต่สมัยพระราชธรรมาภรณ์ (หลวงพ่อเงิน วัดดอนยายหอม) เมื่อปี พ.ศ.2509 ซึ่งในสมัยนั้นท่านได้รวบรวมปัจจัยจากญาติโยมสร้างขึ้น ใช้งบประมาณทั้งสิ้นเป็นเงิน ๑.๒ ล้านบาท
ด้วยระยะเวลาก่อสร้างที่ยาวนานกว่า ๔๐ ปี ผ่านไป สภาพตัวตึก ห้องคนไข้ทรุดโทรมไปตามกาลเวลา แทบทุกส่วนเกินเยียวยา จวบจนราวเดือนสิงหาคม พ.ศ.๒๕๕๔ คณะแพทย์และพยาบาล ตึกสงฆ์อาพาธ นำความเข้าปรึกษาพระครูปลัดสิทธิวัฒน์ หรือ หลวงพี่น้ำฝน หัวหน้าพระวินยาธิการจังหวัดนครปฐม และเจ้าอาวาสวัดไผ่ล้อม ต.พระปฐมเจดีย์ อ.เมือง จ.นครปฐม
จากนั้นหลวงพี่น้ำฝนได้นำเรื่องเข้าปรึกษาคณะสงฆ์จังหวัดนครปฐม กราบเรียนพระราชรัตนมุนี เจ้าคณะจังหวัดนครปฐม ที่ประชุมเห็นชอบ ดำเนินการบูรณะ และเริ่มประชาสัมพันธ์บอกบุญ รับบริจาค ภายใต้โครงการ ในโอกาสที่ท่านเจ้าประคุณสมเด็จพระพุฒาจารย์ ประธานคณะผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช เจ้าคณะใหญ่หนตะวันออก เจ้าอาวาสวัดสระเกศราชวรมหาวิหาร มีอายุวัฒนมงคลครบ ๗ รอบนักษัตร ๘๔ ปี คณะสงฆ์จังหวัดนครปฐม นำโดยพระเดชพระคุณ พระราชรัตนมุนี เจ้าคณะจังหวัดนครปฐม จัดทำโครงการบูรณะปรับปรุงต่อเติมตึกสงฆ์อาพาธโรงพยาบาลนครปฐม น้อมถวายมุทิตาสักการะ”
เพื่อเป็นการน้อมถวาย โดยคณะสงฆ์ทั้งจังหวัดนครปฐมได้ร่วมเป็นเจ้าภาพ พร้อมทั้งบอกบุญไปยังญาติโยมพุทธศาสนิกชนที่มีจิตศรัทธาทั่วประเทศ ได้มาร่วมกันสร้างบุญสร้างกุศลใหญ่ในครั้งนี้โดยพร้อมเพรียงกัน โดยมอบหมายให้ พระครูสุธีเจติยานุกูล เลขาฯ เจ้าคณะจังหวัดนครปฐม และพระครูปลัดสิทธิวัฒน์ (หลวงพ่อน้ำฝน) เจ้าอาวาสวัดไผ่ล้อม ในฐานะเลขาฯ โครงการนี้เป็นผู้ดำเนินการจัดการให้แล้วเสร็จ
ต่อมาคณะสงฆ์พร้อมทีมช่างเข้าไปตรวจสอบที่ตัวตึก พบว่าหลังคารั่ว ฝ่าเพดานเปิด วอลล์เปเปอร์ลอก แต่ละห้องอยู่ในสภาพใช้การไม่ได้ ต้องทุบออกเพื่อสร้างใหม่ขยายบางส่วนออกมา และต้องติดลิฟต์ เพราะเวลาที่ขนย้ายผู้ป่วยมีปัญหา บันไดไม่สะดวกเวลาที่เจ้าหน้าที่หามเปลขั้นบันได เคยมีคนไข้ร่วงตกลงมาจากเปล การติดลิฟต์ขึ้นลงสามารถช่วยได้มาก และยังมีอีกหลายส่วนในตึกสงฆ์อาพาธ ที่ต้องบูรณะซ่อมแซม รวมไปถึงอุปกรณ์สำคัญทางการแพทย์ที่ต้องเพิ่มเติมให้เพียงพออีกด้วย
อย่างไรก็ตาม ในโอกาสที่ท่านเจ้าประคุณสมเด็จพระพุฒาจารย์ (เกี่ยว) ประธานคณะผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช วัดสระเกศ เจริญชนมายุครบ ๘๔ ปี คณะสงฆ์จังหวัดนครปฐม นำโดย พระราชรัตนมุนี เจ้าคณะจังหวัดนครปฐม ได้จัดทำโครงการบูรณะปรับปรุงตึงสงฆ์อาพาธ โรงพยาบาลศูนย์นครปฐม เพื่อเป็นการน้อมถวายมุทิตาสักการะในการบูรณะปรับปรุงตึกสงฆ์อาพาธ เช่น
๑.เปลี่ยนหลังคา/ฝ้าเพดานใหม่ทั้งหมด ๒.เปลี่ยนกระเบื้องพื้น/ฝาผนังใหม่ทั้งหมด ๓.ทาสีทั้งภายใน-ภายนอก อาคาร ๔.ขยายพื้นที่โดยรอบอาคารทั้งหมดให้เท่ากับขอบเดิม ๕.ติดตั้งลิฟต์ขึ้นลง ๗.ปรับขนานประตูทางเข้า-ออก (ปัจจุบันเครื่อง portable X-ray) ๗.ปรับปรุงห้องเก็บของ/ห้องพักเวร ให้เชื่อมโยงถึงกัน ปรับย้ายตำแหน่งห้องน้ำติดกระจกเลื่อนมองข้างผนัง สามารถปรับใช้เป็นห้องประชุมเล็กๆ ได้ ๘.ปรับปรุงบันไดขึ้น-ลง ๙.ติดตั้งผ้าม่านใหม่ทั้งหมด และ ๑๐.ติด/ปรับปรุงระบบไฟฟ้าทั้งอาคาร เป็นต้น
ในโอกาสนี้การดำเนินการบูรณะได้แล้วเสร็จสมบูรณ์ โดยได้รับปัจจัยหลักจากการทอดผ้าป่าสามัคคีจากศิษยานุศิษย์ คณะศรัทธา ใช้ปัจจัยทั้งสิ้นจำนวน ๑๒,๐๗๓,๕๐๖ บาท ในวันอังคารที่ ๒๖ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๖ ทั้งนี้ สมเด็จพระพุฒาจารย์ (เกี่ยว อุปเสณมหาเถร ป.ธ.๙) ประธานคณะผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช มีบัญชาให้ พระพรหมสุธี กรรมการมหาเถรสมาคม เจ้าคณะภาค ๑๒ ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดสระเกศราชวรมหาวิหาร เป็นประธานในการบำเพ็ญกุศลเปิดและฉลอง “ตึกสงฆ์อาพาธ โรงพยาบาลศูนย์นครปฐม” พระพรหมดิลก กรรมการมหาเถรสมาคม เจ้าคณะภาค ๑๔ วัดสามพระยา ประธานสวดเจริญพระพุทธมนต์ขอเชิญญาติโยมพุทธศาสนิกชน โดยนี้ เวลา ๑๔.๐๐ น. พระพรหมสุธี กรรมการมหาเถรสมาคม เจ้าคณะภาค ๑๒ ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดสระเกศ และพระพรหมดิลก เดินทางมาถึงยังสถานที่ ผู้ว่าฯ นครปฐม ประธานฝ่ายฆราวาส กล่าวถวายรายงานพระพรหมสุธี องค์ประธานในพิธี เปิดผ้าแพรคลุมป้าย
หลังจากนั้นจะเริ่มเปิดใช้อย่างเป็นทางการ เพื่อประโยชน์ต่อพระสงฆ์ที่อาพาธ เจ็บไข้ได้ป่วย เข้ามาทำการรักษา เพื่อความสะดวก และหายจากโรคภัยไข้เจ็บ สัมผัสกับความสมบูรณ์ มีทั้งลิฟต์ ห้องประชุม ห้องรับรองพระเถระ ห้องรักษา อุปกรณ์ทางการแพทย์ใหม่สมบูรณ์แบบ และในโอกาสนี้คณะสงฆ์จังหวัดนครปฐม ขอเชิญญาติโยมพุทธศาสนิกชนร่วมพิธีมงคลในครั้งนี้โดยพร้อมเพรียงกัน
สำหรับอานิสงส์ของถวายยารักษาโรคให้วัด, ออกเงินค่ารักษาให้พระตามโรงพยาบาลสงฆ์ หลวงพี่น้ำฝนบอกว่า "ก่อให้เกิดสุขภาพร่มเย็นทั้งครอบครัว โรคที่ไม่หายจะทุเลา สุขภาพกายจิตแข็งแรง อายุยืนทั้งภพนี้และภพหน้า ถ้าป่วยก็จะไม่ขาดแคลนการรักษา นอกจากนี้ยังได้อานิสงส์คือ อกุศลกรรมในอดีตชาติ จะเปลี่ยนจากหนักเป็นเบา จากเบาเป็นสูญ ถือเป็นการสะเดาะเคราะห์อย่างหนึ่งได้ เจ้ากรรมนายเวรในอดีตชาติ เมื่อได้รับส่วนบุญนี้จะเลิกจองเวรจองกรรม ช่วยให้พ้นเวรพ้นกรรม จะไม่ไร้ญาติขาดมิตร เวลาแก่ เวลาเจ็บไข้ได้ป่วยจะมีคนคอยดูเเล ไม่ถูกทอดทิ้งให้อยู่คนเดียว"
พระพุทธรูปปางพยาบาล
ปางพระพุทธรูป คือ ลักษณะของรูปสมมุติของพระพุทธเจ้าในอิริยาบถต่างๆ ซึ่งสร้างขึ้นตามความเชื่อในพุทธประวัติ โดยช่างสมัยโยนก (คันธารราฐ) ราชวงศ์คุปตะ ระหว่าง พ.ศ.๘๖๓-๑๐๒๓ เป็นชาวกรีกพวกแรกที่กำหนดรูปแบบปางพระพุทธรูป ต่อมาช่างชาวอินเดียฝ่ายใต้ ซึ่งเป็นชาวกลิงคราฐข้างฝ่ายใต้ รวมทั้งในยุคสมัยต่างๆ ในภายหลังได้คิดปางพระพุทธรูปเพิ่มขึ้นอีกเป็นจำนวน
พุทธลักษณะของพระพุทธรูปปางพยาบาลภิกษุอาพาธ พระอิริยาบถนั่งชันพระชานุเบื้องขวา พระหัตถ์ขวาประคองภิกษุอาพาธให้นอนบนพระเพลา พระหัตถ์ซ้ายประคองมือซ้ายภิกษุอาพาธ
ส่วนที่มาของการสร้างพระพุทธรูปปางพยาบาลภิกษุอาพาธนั้น สร้ามตามพุทธประวัติตอนที่ สมัยหนึ่งพระพุทธเจ้าเสด็จตรวจเสนาสนะ (ที่อยู่) ของพระภิกษุสาวก โดยมีพระอานนท์ตามเสด็จ ครั้งนั้นได้ทอดพระเนตรเห็นภิกษุรูปหนึ่งนอนป่วยอยู่ตามลำพังด้วยโรคท้องเสียอย่างรุนแรง ผ้านุ่งผ้าห่มเปรอะเปื้อนด้วยปัสสาวะและอุจจาระ ทรงทราบว่าไม่มีผู้ดูแล จึงทรงประคองภิกษุรูปนั้น
ด้วยพระมหากรุณา ทรงพยาบาลให้ได้รับความสบาย โดยมีพระอานนท์คอยช่วยเหลือ จากนั้นตรัสเรียกภิกษุทั้งหลายให้ประชุมกันแล้วรับสั่งว่า ขอให้ภิกษุช่วยเหลือเกื้อกูลกัน โดยเฉพาะในยามเจ็บไข้ เพราะพวกเธอได้สละบ้านเรือนออกมาประพฤติพรหมจรรย์ห่างจากญาติมิตร ถ้าพวกเธอไม่ดูแลกันเองใครเล่าจะดูแล จากนั้นได้ตรัสถึงอานิสงส์การพยาบาลภิกษุอาพาธว่า
“ภิกษุทั้งหลาย ผู้ใดพยาบาลเราตถาคต ก็พึงพยาบาลภิกษุอาพาธเถิด”