พระเครื่อง

อ.เปลี่ยนเจ้าพิธีกรรมอาวุโสเขาอ้อ

อ.เปลี่ยนเจ้าพิธีกรรมอาวุโสเขาอ้อ

21 ม.ค. 2556

อ.เปลี่ยน หัทยานนท์ เจ้าพิธีกรรมไสยเวทอาวุโสแห่งสำนักเขาอ้อ : ชั่วโมงเซียน โดยอ.ยุทธ โตอดิเทพ

             วัดเขาอ้อ เป็นแหล่งวิทยาคมทางไสยศาสตร์ ที่มีชื่อเสียงโด่งดังมาแล้ว ตั้งแต่สมัยโบราณพระเกจิอาจารย์ผู้สืบต่อวิชาทางไสยศาสตร์ ต่างก็เป็นที่พึ่งที่เคารพศรัทธาของประชาชนทั่วไป เช่น พระอาจารย์ทองเฒ่า พระครูสิทธิยาภิรัต (เอียด) พระอาจารย์นำ แก้วจันทร์ พระอาจารย์ศรีเงิน วัดดอนศาลา พระครูพิพัฒน์สิริธร (อาจารย์คง) วัดบ้านสวน พระอาจารย์ปาน วัดเขาอ้อ

             ในอดีตเขาอ้อ ถือเป็นแหล่งเรียนรู้ศิลปะวิทยาคมของพระฤาษีผู้บำเพ็ญพรต (ตบะ) มาแต่เดิม ได้ถ่ายทอดสรรพวิทยาตกทอดมาถึงพราหมณาจารย์ และพระสงฆ์ในพุทธศาสนา ที่มีการถ่ายทอดวิชาประหนึ่งสำนักตักศิลาเป็นเวลานับหลายศตวรรษ ศิษย์สำนักเขาอ้อ เมืองพัทลุง มีอยู่ทุกหนทุกแห่งในภาคใต้ ตลอดถึงแหลมมลายู ถ้าไม่เป็นศิษย์สายตรง ก็เป็นศิษย์สายวิชาที่สืบทอดมาจากครูบาอาจารย์รุ่นต่อรุ่นอย่างต่อเนื่องตลอดมา

             จากพงศาวดารและบันทึกของพระภิกษุเจ้าสำนักของตำราว่า พระอาจารย์ในสำนักเขาอ้อ มีวิชาความรู้ความสามารถในทางไสยศาสตร์ ได้สั่งสอนถ่ายทอดศิลปะวิทยาคมแก่ศิษย์ทุกชนชั้น ตั้งแต่ชั้นเจ้านาย เจ้าเมือง นักรบ นักบวช และฆราวาสผู้ครองเรือน ประดุจสำนักแห่งการต่อสู้ของชายชาตรี แม้ในยามที่บ้านเมืองเกิดภัยสงคราม เจ้าสำนักหรือศิษย์จะเสียสละอย่างสูงเพื่อปกปักรักษา ดั่งจะเห็นได้ในอดีตครั้งที่พม่ายกทัพมาตีเมืองชุมพร ไชยา นครศรีธรรมราช ลงมาถึงเมืองพัทลุง

             พระยาพัทลุงกับพระมหาช่วย วัดป่าเลไลย์ และชาวบ้านซึ่งเป็นศิษย์สำนักเขาอ้อ มีความรู้เชี่ยวชาญในทางไสยเวท ได้แต่งกองทัพไปคอยรับทัพพม่าที่ตำบลท่าเสียด ครั้นทัพพม่ายกกำลังมาถึงเห็นกองทัพไทยจากพัทลุงมีกำลังมากกว่าตน แต่ที่จริงแล้วมีกำลังน้อยกว่าหลายเท่านัก ทั้งนี้ ด้วยอำนาจเวทมนต์พระคาถาอาคมของพระมหาช่วย นั่งบริกรรมภาวนาอยู่เบื้องหลังทำการผูกหุ่นพยนต์ขึ้นเป็นทหารสูงใหญ่ทั้งกองทัพ ให้ข้าศึกเห็นเป็นถึงจำนวนมากมหาศาล ทำให้กองทัพพม่าไม่กล้าเข้ารุกตี ได้แต่หยุดอยู่เพียงคนละฝั่งแม่น้ำเป็นเวลาหลายวันจนทัพหลวงลงมาถึง ในที่สุดพม่าต้องยกทัพกลับไป

             เขาอ้อ มีมนต์ขลังทุกตารางนิ้วของพื้นที่ ครูบาอาจารย์ได้ฝังมนต์คมพยนต์เฝ้าวัดวาอารามไว้ จุดสำคัญสูงสุดคือภายในถ้ำฉันทันต์บรรพต อันเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ อาถรรพณ์ ใช้สำหรับประกอบพิธีกรรมต่างๆ รวมทั้งการปลุกเสกพระเครื่องรางของขลัง

             ฆราวาสที่คนทั่วไปรู้จักกันดีได้แก่ พล.ต.ต.ขุนพันธรักษ์ราชเดช เป็นต้น ชื่อเสียงของวัดเขาอ้อที่ผู้คนทั่วไปรู้จักมักจะเน้นไปในทางไสยเวทเสียมากกว่า ทั้งที่วัดเขาอ้อยังมีดีมากกว่านั้น โดยเฉพาะวิชาการแพทย์แผนโบราณพูดได้ว่าไม่มีสำนักใหนทางภาคใต้ที่จะชัดเจนและได้ผลชะงัดเท่ากับสำนักนี้ แม้ปัจจุบันจะคลายลงไปบ้าง แต่ก็หาได้สูญหายไปอย่างใดไม่ อย่างน้อยที่สุดยังมีพระอาจารย์หลายรูปที่สืบทอดกันมา

             ปัจจุบันถ้าพูดถึงฆารวาสจอมขมังเวทย์แห่งตักสิลาเขาอ้อต้องยกให้ "อ.เปลี่ยน หัทยานนท์" ศิษย์พระอาจารย์ปาน ปาลธมฺโม คนสุดท้าย เจ้าพิธีกรรมไสยศาสตร์อาวุโสแห่งสำนักเขาอ้อ อาวุโสสูงสุดในสายฆราวาส ผู้เป็นศิษย์คนสุดท้ายที่ได้รับการถ่ายทอดสรรพวิชาจากพระอาจารย์ปาน ปาลธมฺโม ทั้งวิชาหุงข้าวเหนียวดำ เสกน้ำมันให้แข็ง แช่ว่านยากินน้ำมัน ปลุกเสกพระเครื่องราง และมีส่วนร่วมในการสร้างพระปิดตาเขาอ้อ พระผงกลีบบัวมหาว่านขาว มหาว่านดำ รุ่นอินโดจีนอันลือลั่นจนได้รับแรงศรัทธาไว้วางใจเป็นเจ้าพิธีกรรมไสยศาสตร์เขาอ้อ...

             ชาติกำเนิด อาจารย์เปลี่ยน เป็นคนอำเภอชะอวด จ.นครศรีธรรมราช บรรพชาเป็นสามเณรที่ อ.ชะอวด จนญัตติกรรมเป็นพระภิกษุที่วัดดอนศาลา อ.ควนขนุน จ.พัทลุง

             การศึกษาพุทธาคม นอกจากศึกษาด้านพระปริยัติธรรมแล้ว ได้สนใจในตำรับตำรายาสมุนไพร โดยเฉพาะการรักษาโรคกระดูก ได้รับการถ่ายทอดวิชาจากพระอาจารย์ปาล ปาลธมฺโม วัดเขาอ้อ ตลอดทั้งพิธีกรรมสำนักเขาอ้อ ทั้งแช่ยา กินเหนียว กินมันงา นัยว่านับตั้งแต่วันที่ท่านอาจารย์ปานได้ถ่ายทอดวิชาให้อาจารย์เปลี่ยน หัทยานนท์ เป็นคนสุดท้ายแล้ว ท่านไม่พูดกับใครเลย จากนั้นเป็นเวลา ๕ ปี ได้ละสังขารอย่างสงบที่วัดเขาอ้อ

             สมัยวัยหนุ่มนั้น อ.เปลี่ยน จะรับทำพิธีกรรมสำนักเขาอ้อทุกอย่าง ทั้งแช่ยา กินเหนียว กินมันงา แต่ปัจจุบันสูงวัยอายุ ๗๕ ปีแล้ว ไม่ทำแช่ยาเพราะทุกวันนี้หาเครื่องยาได้ยาก ไม่ครบถ้วน ส่วนการกินเหนียว กินมันงา ยังคงทำอยู่เหมือนเดิม

             ปัจจุบัน อ.เปลี่ยน รับเป็นเจ้าพิธีกรรมบวงสรวงเทวดาฟ้าดิน พระบูรพาจารย์เขาอ้อ โดยล่าสุดได้เป็นเจ้าพิธีกรรมบวงสรวงเทวดาฟ้าดิน  ในการจัดสร้างวัตถุมงคลรุ่น “มั่งมีศรีสุข” ตามตำรับพิธีกรรมโบราณอันเข้มขลังศักดิ์สิทธิ์

             ทัศนคติเกี่ยวกับไสยศาสตร์ อาจารย์เปลี่ยนบอกว่า “ไสยศาสตร์เป็นเรื่องลี้ลับ เป็นเรื่องของสมาธิจิต การมีสมาธิดี ทำให้เราคิดอะไรดีๆ ได้ ถ้าเราไม่มีสมาธิจิต ทำให้วุ่นวาย คิดอะไรไม่ออก เหมือนพิธีกรรมแช่ว่านยา กินเหนียว กินมันงา ทุกคนต้องมีสมาธิ ตั้งใจดี ถ้าคนที่มาเข้าพิธีจิตใจสกปรกจะไม่เกิดผล แช่เท่าไรก็ล้างซวยไม่ได้...”

             นอกจากนั้น อาจารย์เปลี่ยนได้ฝากข้อคิดไว้น่าสนใจ “ไม่เชื่ออย่าลบหลู่ พิธีกรรมทุกอย่างไม่ใช่หลอกลวงประชาชน แต่เขามาหาเราเองด้วยความศรัทธา คนธรรมดา คนใหญ่คนโตในบ้านเมืองมาเพื่อต้องการความสำเร็จ ไม่ว่าจะเรื่องใดก็ตามเราช่วยได้ก็ช่วย ทุกอย่างสำคัญที่จิตใจ”
ปัจจุบันแม้ว่าตักศิลาแห่งเขาอ้อจะไม่โด่งดังเหมือนอดีต แต่ตำนานขลัง! แห่งพระเครื่องรางสำนักตักศิลาเขาอ้อ ยังคงความศักดิ์สิทธิ์ สืบทอดไสยเวทพุทธาคมไปอีกนานแสนนาน ประดุจรากแก้วที่ยิ่งใหญ่หนึ่งเดียวเมืองใต้

พระอาจารย์ปาน ปาลธมฺโม

             พระครูปาล ปาลธัมโม (อาจารย์ปาล) เป็นศิษย์เอกรูปหนึ่งของท่านปรมาจารย์ทองเฒ่าสำหรับประวัติพระอาจารย์ปาล ปาลธัมโม นั้น ไม่ค่อยจะมีหลักฐานเป็นลายลักษณ์อักษรให้อ้างถึงได้มากนัก เนื่องจากพระอาจารย์ปาลท่านเป็นพระที่หนักไปในทางสันโดษ

             พระอาจารย์ปาลเป็นคนเรียนเก่ง แต่ค่อนข้างจะดื้อ มีอุปนิสัยรักสนุกร่าเริง เป็นนักเสียสละตัวยง เป็นที่รักใคร่ของศิษย์ร่วมสำนักทุกรูปทุกคน ท่านถึงกับเคยรับโทษแทนเพื่อนหลายครั้ง พระอาจารย์ปาลเรียนอยู่ในสำนักวัดเขาอ้อนานจนมีวัยพอที่จะบวชเรียนได้ พระอาจารย์ทองเฒ่าจึงได้จัดการให้บวชเป็นสามเณรแล้วให้อยู่ศึกษาพระธรรมและวิทยาคมต่างๆ อยู่ในสำนักเขาอ้อ

             พระอาจารย์ปาลบวชตั้งแต่สามเณรจนกระทั่งได้อุปสมบทเป็นพระภิกษุที่วัดเขาอ้อ โดยมีพระอาจารย์ทองเฒ่าเป็นพระอุปัชฌาย์ให้ อุปสมบทแล้วก็ศึกษาเล่าเรียนเพิ่มเติมและช่วยพระอาจารย์ทองเฒ่าอยู่ที่สำนักเขาอ้อต่อไป จนกระทั่งพระอาจารย์ทองเฒ่าคัดเลือกให้เป็นทายาทเจ้าสำนักถ่ายทอดวิชาสำคัญๆ ให้จนหมดสิ้น ต่อมาเมื่อพระอาจารย์ทองเฒ่ามรณภาพลง ในฐานะทายาทเจ้าสำนัก และเป็นพระที่มีพรรษาอาวุโสที่สุด พระอาจารย์ปาลจึงขึ้นเป็นเจ้าสำนักสืบทอดต่อ ทำหน้าที่ต่างๆ ต่อจากพระอาจารย์ทองเฒ่า
 
             พระอาจารย์ปาลอยู่ที่วัดดอนศาลาหลายปี จนกระทั่งเข้าสู่ภาวะเกือบจะสุดท้ายแห่งชีวิต ท่านทราบวาระของตัวเอง จึงขอให้ศิษย์นำกลับไปที่วัดเขาอ้ออีกครั้ง เพื่อที่จะกลับไปมรณภาพที่สำนักวัดเขาอ้อ เหมือนกับเจ้าสำนักรูปก่อนๆ คณะศิษย์เห็นใจ สนองตอบความต้องการของท่าน นำท่านกลับไปอยู่ที่วัดเขาอ้อ พระอาจารย์ปาลกลับไปอยู่ที่วัดเขาอ้อในสภาพอาพาธหนักด้วยโรคชราไม่ถึงสองเดือนก็ถึงแก่มรณภาพ