พระเครื่อง

'เกิดเป็นคนต้องกตัญญูรู้คุณ'ชุ้นโปรมเตอร์มวย

'เกิดเป็นคนต้องกตัญญูรู้คุณ'ชุ้นโปรมเตอร์มวย

13 ม.ค. 2556

'เกิดเป็นคนต้องกตัญญูรู้คุณ'ชุ้น เกียรติเพชรโปรโมเตอร์'อัศวินแหวนเพชร' : เส้นทางนักพระเครื่อง โดยตาล ตันหยง

               วงการพระเครื่อง กับ วงการมวย มีอะไรหลายอย่างที่ไปด้วยกันได้เสมอ ดังนั้นจึงไม่น่าแปลกใจที่คนในวงการพระเครื่องได้ให้ความสนใจกีฬาหมัดมวยอย่างจริงจัง ในขณะที่คนในวงการมวยก็ให้ความสนใจสะสมพระเครื่องกันอย่างกว้างขวาง อย่างเช่นกรณีของ “เฮียชุ้น เกียรติเพชร” (พีรพงศ์ ธีระเดชพงศ์) โปรโมเตอร์สนามมวยช่อง ๗ สี และสนามมวยเวทีลุมพินี โปรโมเตอร์ชื่อดัง ๑ ใน ๓ ของเมืองไทย เจ้าของรางวัล “อัศวินแหวนเพชร” สนามมวยเวทีลุมพินี
    
               ชุ้น เกียรติเพชร เป็นชาวเมืองเพชรบุรี โดยกำเนิด มีใจรักและสนใจในเรื่องของหมัดมวยมาตั้งแต่เด็กๆ สมัยนั้นไม่ว่ามีมวยชกที่ไหน จะต้องเห็นเขาเดินตามคณะนักมวยไปด้วยเสมอ จนเป็นที่รู้จักกันดีในวงการมวยทั้งในส่วนกลางและต่างจังหวัด ความรักชอบบนเส้นทางสายนี้ทำเขาพัฒนาตัวเองขึ้นเรื่อยๆ จนได้เป็นหัวหน้าคณะนักมวย ด้วยใจรักในศิลปะประจำชาติ เขาได้มุ่งมั่นทุ่มเททั้งกายและใจให้กับวงการมวยอย่างเต็มที่ จนเมื่อประมาณปี ๒๕๒๑ ชุ้น เกียรติเพชร ได้รับการบรรจุให้เป็น โปรโมเตอร์สนามมวยช่อง ๗ สี  และต่อมาในปี ๒๕๓๖ ได้เป็นโปรโมเตอร์ สนามมวยลุมพินี ด้วยความขยันหมั่นเพียรในการทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้เขาได้รับรางวัล อัศวินแหวนเพชร จาก พล.ต.สุรไกร จัตุมาศ นายสนามมวยเวทีลุมพินี เมื่อวันครบรอบ ๕๖ ปี วันสถาปนาสนามมวยเวทีลุมพินี ที่ผ่านมา ตลอดชีวิตการเป็นหัวหน้าคณะนักมวย และโปรโมเตอร์ เขาได้ทุ่มเททุกสิ่งทุกอย่างเพื่อวงการมวยมากมาย “ศึกเกียรติเพชรมหากุศล” ถูกจัดขึ้นเพื่อหารายได้ช่วยเหลือหน่วยงานภาครัฐ และองค์กรต่างๆ อยู่เสมอ จนได้รับคำชื่นชมมาโดยตลอด
    
               ตลอดชีวิตที่ผ่านมา แม้ว่า ชุ้น เกียรติเพชร จะคลุกคลีอยู่วงการมวย แต่ในอีกมุมมองหนึ่ง เขายังเป็นผู้หนึ่งที่มีจิตศรัทธาเลื่อมใสในพระพุทธศาสนาอย่างเต็มที่ โดยทุกปีเมื่อถึงเทศกาลทอดกฐินสามัคคี “เฮียชุ้น” คนดังแห่งวงการมวย จะรวบรวมปัจจัยเงินทองจากพี่น้อง ผองเพื่อน ในวงการมวย เพื่อทอดกฐินถวายในบวรพระพุทธศาสนา อันเป็นการสืบทอดประเพณีที่ดีงามอย่างสม่ำเสมอ งานการกุศลของวัดวาอาราม หรือหน่วยงาน องค์กรต่างๆ ทั้งภาครัฐ และภาคเอกชน ขอให้บอกมา จะไม่มีการปฏิเสธจากสุภาพบุรุษตัวจริงคนนี้อย่างแน่นอน
    
               ด้วยความที่เป็นคนไทย นับถือพุทธศาสนา ในเรื่องของพระเครื่องรางของขลัง หรือวัตถุมงคลอันเป็นสิ่งยึดเหนี่ยวทางจิตใจ ชุ้น เกียรติเพชร ก็ได้นิมนต์บูชาติดตัวตลอดเวลา คือ พระหลวงพ่อทวด วัดช้างให้ สุดยอดแห่งพระนิรันตราย ซึ่งมีอยู่ในครอบครองมากมายหลายรุ่นด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็น พระเนื้อว่าน ปี ๒๔๙๗ พระหลังเตารีด ปี ๒๕๐๕ เหรียญหลวงพ่อทวด รุ่นต่างๆ รวมทั้ง เหรียญบารมีหลวงพ่อทวด อีกด้วย
    
               “ผมเป็นชาวเมืองเพชรบุรี เมืองแห่งยอดพระกรุชื่อดัง อาทิ พระยอดขุนพล กรุเสมาสามชั้น รวมทั้งยังมีพระเกจิอาจารย์ชื่อดังอีกมากมาย ในตัวของผมจึงมีเหรียญหลวงพ่อทองศุข วัดโตนดหลวง, หลวงพ่อแดง วัดเขาบันไดอิฐ, หลวงพ่อเพลิน วัดหนองไม้เหลือง, หลวงพ่อเกษม วัดหัวสะพาน, และหลวงพ่ออุ้น วัดตาลกง ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นยอดพระเกจิอาจารย์ที่ชาวเมืองเพชรบุรีให้ความเคารพนับถืออย่างมาก ขณะเดียวกัน ประสบการณ์เกี่ยวกับพระเครื่องของผมก็มีมากมายหลายครั้ง โดยเฉพาะที่จำฝังใจ คือ ครั้งหนึ่งขณะที่ผมขับรถด้วยความเร็วสูง เกิดอาการวูบหลับไป ก่อนที่จะมาสะดุ้งตื่น รู้สึกตัว เมื่อรถห่างจากท้ายรถสิบล้อเพียง ๒ เมตร ผมจึงเหยียบเบรกกะทันหัน ปรากฏว่ารอดพ้นจากเหตุการณ์ร้ายไปอย่างหวุดหวิด ผมจึงเชื่อโดยบริสุทธิ์ใจว่า ปาฏิหาริย์ครั้งนั้นเกิดจากพลังบารมีครูบาอาจารย์ ที่ช่วยคุ้มครองให้รอดพ้นจากเหตุร้ายครั้งนั้น”
    
               เฮียชุ้น เกียรติเพชร ยังกล่าวด้วยว่า “เรากราบไหว้เคารพบูชาวัตถุมงคล เพื่อหวังให้ท่านช่วยปกป้องคุ้มครองเรา แต่การที่ท่านจะคุ้มครองเราได้ ตัวเราเองก็ต้องเป็นคนดี มีศีลธรรม มีคุณธรรม ซื่อสัตย์ สุจริต หากเราสามารถประพฤติปฏิบัติได้ดังนี้ รับรองว่า พระท่านคุ้มครองอย่างแน่นอน”
     
               ในทุกวันนี้นอกจากงานด้านวงการมวยแล้ว ชุ้น เกียรติเพชร ยังได้ทุ่มเทให้พระพุทธศาสนา โดยเป็นแรงสำคัญในการรวบรวมปัจจัยสมทบทุนก่อสร้างอุโบสถ วัดยางน้ำกลัดใต้ อ.หนองหญ้าปล้อง จ.เพชรบุรี อย่างเต็มกำลัง ซึ่งคาดว่า จะแล้วเสร็จในเร็วๆ นี้ เพื่อให้เป็นถาวรวัตถุฝากไว้ในบวรพระพุทธศาสนาสืบต่อไป
    
               “เฮียชุ้น” กล่าวในตอนท้ายว่า “สิ่งที่ทำให้ผมเดินทางมาถึงจุดวันนี้ได้ ก็เพราะความศรัทธาเชื่อมั่นในพระพุทธศาสนา เชื่อมั่นในเรื่องของคำสอนขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ตลอดถึงการประพฤติปฏิบัติตามแนวทางของครูบาอาจารย์ คือความซื่อสัตย์ สุจริต ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว เชื่อมั่นในเรื่องของการกระทำ ตลอดถึงยึดหลัก เกิดเป็นคนต้องกตัญญูรู้คุณ  โดยผมได้นำหลักธรรมคำสั่งสอนนี้มาปกครอง อบรมสั่งสอนลูกน้อง ตลอดถึงนักมวยทุกคนว่า ให้รักในวิชาชีพ อย่าคิดคดทรยศต่ออาชีพ อย่าทำร้าย ทำลายวิชามวยไทย ซึ่งเป็นมรดกอันล้ำค่า ให้คงอยู่สืบต่อไปตราบนานเท่านาน”