ดวงคนไม่มีแผ่นดินอยู่ | คมชัดลึก

                อ.ลักษณ์ เรขานิเทศ เลขาธิการสถาบันพยากรณ์ศาสตร์ เจ้าของฉายา โหรฟันธง พยากรณ์ไว้เมื่อครั้งเปิดแถลงข่าวในหัวข้อ “ปฏิวัตินองเลือด วิกฤติชะตาเมืองกับทางออกของประเทศไทย” เมื่อวันจันทร์ที่ ๗ เมษายน ๒๕๕๑ ซึ่งขณะนี้ประจักษ์แล้ว คำพยากรณ์ดังกล่าวแม่นเหมือนจับวาง

                อย่างไรก็ตาม จากคำพยากรณ์ดังกล่าว มีประเด็นหนึ่งที่น่าสนใจคือ "ดวงคนไม่มีแผ่นดินอยู่" ซึ่งก่อนหน้านี้มีผู้มีชื่อเสียงหลายคนไม่มีแผ่นดินอยู่ ด้วยเหตุนานาประการ เช่น นายวัฒนา อัศวเหม เจ้าของฉายา "เจ้าพ่อปากน้ำ" นายสมชาย คุณปลื้ม หรือ กำนันเป๊าะ เจ้าพ่อภาคตะวันออก และ คุณหญิงพจมาน ชินวัตร ภรรยาสุดรักของพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี

                อ.ลักษณ์บอกว่า ดวงคนไม่มีแผ่นดินอยู่ คนแรกที่อยากพูดถึงมากที่สุด คือ ดวงชะตาของอดีตนายกรัฐมนตรีท่านหนึ่ง ที่ทำทั้งความดีความงามมากมาย และก็มีเรื่องที่ไม่ดีในความรู้สึกของคนก็อีกมากมาย เรียกได้ว่าทำทั้งคุณประโยชน์มากมายให้ประเทศชาติบ้านเมือง และทั้งทำความเจ็บช้ำระกำใจให้แก่บางฝ่ายบางคณะ สุดท้ายหรือท้ายที่สุดนั้นก็ต้องไปตายในต่างถิ่นต่างแดน ท่านผู้นี้ก็คือ จอมพล ป.พิบูลสงคราม ท่านเป็นหนึ่งในคณะเปลี่ยนแปลงระบอบการปกครองเมื่อปี ๒๔๗๕ มีคนตั้งสมญานามว่า “นักบุญใจบาป” เตลิดหนีจากเมืองไทย คือลี้ภัยการเมืองไปอยู่เขมร และออกบวชที่ประเทศอินเดีย ๒๔ วัน หลังจากนั้นไปอยู่ที่ญี่ปุ่น ถึงแก่อสัญกรรมที่ประเทศญี่ปุ่น เมื่อวันที่ ๑๑ มิถุนายน ๒๕๐๗  รูปดวงตามที่ปรากฏ เพื่อให้เป็นที่ประจักษ์แก่นักปราชญ์ในฝ่ายโหราศาสตร์ และผู้ที่ได้ศึกษา หรือท่านที่สนใจได้ดูไว้เป็นตัวอย่าง
 
                ท่านเกิด ๑๔ กรกฎาคม ๒๔๔๐ เวลา ๐๗.๐๑๐ น. จ.นนทบุรี ตรงกับวันพุธ แรม ๑ ค่ำ เดือน ๘ ปีระกา ตามดวงชะตาลัคนาสถิตอยู่ราศีกรกฎ และในดวงชะตามีราหูเล็งลัคนา อยู่ราศีมังกร เรียกได้ว่าเป็นดวงแตก

                คนดวงแตก โดยเหตุแห่งทฤษฎีทางโหราศาสตร์ ได้กล่าวไว้อย่างชัดเจนว่า “เสาร์เพ็งเล็งลัคน์แล้วอสุรา ภุมเมนอัษฎาว่าไว้ จันทร์สิบเอ็ดแก่ราหูเล่าโทษแท้ประเหินหิน”
 
                "หากดวงชะตามีดาวเสาร์หรือดาวราหูเล็งดวงชะตาของผู้ใดในพื้นชะตาของผู้ใด คนนั้นดวงแตก และดาวราหูดวงนี้มาจากภพมรณะ ก็แปลว่าแตก พังทลาย แล้วไปตายในต่างถิ่นต่างแดน ก็มีปรากฏไว้ชัด และประการสำคัญในดวงชะตานี้มีดาวมฤตยู คือดาวแห่งความตายอยู่ในภพพันธุเสียด้วย ร่วมกับดาวเสาร์ ก็แปลได้ชัดว่า ไปตายในต่างถิ่นต่างแดน" อ.ลักษณ์กล่าว
 
                ส่วนดวงของ กำนันเป๊าะ นั้น อ.ลักษณ์ บอกว่า กำนันเป๊าะเกิดวันที่ ๓๐ กันยายน ๒๔๘๐ เวลา ๑๒.๐๐ น. ตรงกับวันพฤหัสบดี แรม ๑๐ ค่ำ เดือน ๑๐ ปีฉลู ลัคนาอยู่ราศีพิจิก มีราหูกุมลัคนาราศีเกิด ราหูดวงนี้อีกแล้ว คนที่ราหูกุมลัคน์ ในอดีตก็เจ้าพ่อ นักเลง หรือแม่ทัพนายกองใหญ่ แต่อยู่ในจุดเกิดอย่างนี้ ก็มีเกณฑ์ที่เห็นได้ชัดว่าจะต้องพลัดพรากนิราศร้างจากถิ่นอยู่  โหราศาสตร์มีโคลงที่ว่า “อสุรินทร์ถึงลัคนาใน บาปพระเคราะห์จรไปมาต้องทับกัน อีกทั้งจันทร์มาทับลัคน์ ท่านทายว่าตัดชีวาถึงอาสัญ”

                 ตายจากแผ่นดินที่อยู่ ดวงชะตานี้เป็นราศีพิจิก เป็นมรณะกับดวงเมืองประเทศไทย จุดของราศีเกิดก็มีสิทธิที่จะไปอยู่ในต่างถิ่นต่างแดน จนกระทั่งอาจจะหมดอายุขัย เรื่องนี้ต้องระมัดระวัง ในขณะที่ดวงของ นายวัฒนา อัศวเหม นั้น ดวงชะตาเกิดวันที่ ๓๐ กันยายน ๒๔๗๙ ตรงกับวันพฤหัสบดี ขึ้น ๘ ค่ำ เดือน ๑๑ ปีชวด ลัคนาราศีอยู่ราศีกันย์ ราศีเดียวกับคุณทักษิณ ชินวัตร ดวงนี้ไม่ได้มีราหูเล็งดวงชะตา แต่มีดาวราหู (๘) อยู่ที่ภพพันธุ พันธุแปลว่าถิ่นที่เกิด ถูกราหูเบียนก็แปลว่า จรลีไปช่วงหนึ่ง ต้องไปอยู่ต่างถิ่นต่างแดน ดูแล้วแค่ช่วงหนึ่ง ระยะเวลาหนึ่งเท่านั้น ชี้ให้ไว้ว่าคนเราที่จะมีดวงชะตาไปลี้ภัย ไปตายในต่างแดน หรือไม่มีแผ่นดินอยู่ เขามีเกณฑ์ดวงชะตาอย่างนี้

                ทั้งนี้ อ.ลักษณ์ พูดทิ้งท้ายไว้อย่างน่าคิดว่า "สิ่งหนึ่งที่นอกเหนือจากดวงชะตา คือ หากทำคุณงามความดีต่อแผ่นดินนี้ไซร้ หากมีความจงรักภักดีต่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มีความศรัทธาในพระพุทธศาสนา เทวดาที่ไหนไม่ว่าจะเกิดเหตุเภทภัยอะไรเกิดขึ้น สุดท้ายก็ได้อยู่ในแผ่นดินอันศักดิ์สิทธิ์นี้ หากใครผู้ใดไม่จงรักภักดี ทั้งทางกาย วาจาและใจ ไม่รักในชาติ หาประโยชน์อันเกิดขึ้นจากชาติ สุดท้ายไม่ศรัทธาในพระพุทธศาสนา พระเจ้าแผ่นดินแต่โบราณกาลก่อน พระองค์ทรงสร้างวัดสร้างวัง บำรุงอาณาประชาราษฎร์ ปัจจุบันอำนาจของพระองค์ไปอยู่ในกำมือของฝ่ายนักการเมือง ได้อำนาจไปใช่ว่าจะดี หากไม่จงรักภักดี ไม่รักชาติรักแผ่นดิน สุดท้ายก็จะไม่มีแผ่นดินอยู่"