พระเครื่อง

พ่อเกษมมาเข้าฝัน'ภาพ สายสาม'ประจำ

พ่อเกษมมาเข้าฝัน'ภาพ สายสาม'ประจำ

09 ธ.ค. 2555

'หลวงพ่อเกษมมาหาผมในฝันเป็นประจำ' 'ภาพ สายสาม' สายตรงหลวงพ่อเกษม เขมโก : เส้นทางนักพระเครื่อง : ตาล ตันหยง

             หลวงพ่อเกษม เขมโก สุสานไตรลักษณ์ จ.ลำปาง เป็นพระสุปฏิปันโนผู้เพียบพร้อมด้วยวัตรปฏิบัติที่น่าเคารพศรัทธาเลื่อมใสเป็นอย่างยิ่ง ท่านเป็นผู้สืบเชื้อสายเจ้าฝ่ายเหนือ (ต้นตระกูล ณ ลำปาง) หากจะอยู่อย่างเสวยสุขเหมือนคนอื่นๆ ท่านย่อมทำได้ แต่กลับเลือกทางเดินทางสมณเพศ มุ่งปฏิบัติในพระธรรมคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้าอย่างเคร่งครัด มีความเพียรในการเจริญวิปัสสนากรรมฐานเป็นที่ตั้ง จนเชื่อกันว่าท่านได้บรรลุธรรมชั้นสูง ท่านเป็นพระอริยสงฆ์ที่ไม่ยึดติดในตำแหน่ง ยศถาบรรดาศักดิ์ ใช้ชีวิตในร่มผ้ากาสาวพัสตร์อย่างเรียบง่าย รักสันโดษ ไม่สะสมทรัพย์สินเงินทอง หรือสิ่งของมีค่าใดๆ ทั้งสิ้น

              ด้วยความมุ่งมั่นในการปฏิบัติธรรมกรรมฐานอย่างจริงจัง ส่งผลให้ พลังจิต ของท่านกล้าแกร่งกว่าบุคคลทั่วไป การตั้งจิตอธิษฐานวัตถุมงคลใดๆ จึงก่อให้เกิดความเข้มขลังศักดิ์สิทธิ์ในวัตถุมงคลนั้นๆ ดังที่ได้ปรากฏให้พบเห็นมาโดยตลอด ซึ่งนักสะสมพระเครื่องต่างรู้แจ้งเห็นจริงมาแล้วด้วยตนเอง...จนถึงทุกวันนี้

              หลวงพ่อเกษม เขมโก ท่านเกิดเมื่อวันที่ ๒๘ พฤศจิกายน ๒๔๕๕ บรรพชาเป็นสามเณร ครั้งแรก เมื่ออายุ ๑๓ ปี (พ.ศ.๒๔๖๘) บรรพชาเป็นสามเณรครั้งที่ ๒ เมื่ออายุ ๑๕ ปี (พ.ศ.๒๔๗๐) และอุปสมบทเป็นพระภิกษุเมื่อ อายุ ๒๐ ปี (พ.ศ.๒๔๗๕) ท่านได้ละสังขารเมื่อวันที่ ๑๕ มกราคม ๒๕๓๙ สิริรวมอายุ ๘๕ ปี พรรษา ๖๕ ตลอดชีวิตในเพศบรรพชิตของท่าน ไม่มีความด่างพร้อยในพระธรรมวินัยและวัตรปฏิบัติ นับเป็นพระบริสุทธิสงฆ์ที่มีความขาวสะอาดทั้งใจและกาย ซึ่งพุทธศาสนิกชนสามารถกราบไหว้ได้อย่างสนิทใจ
สำหรับวัตถุมงคลที่ หลวงพ่อเกษม เขมโก ได้อธิษฐานจิตเป็นครั้งแรกนั้น คือ พระผงสิงห์เกสร เนื้อผงว่านผสมแร่ เมื่อปี ๒๕๐๓ ส่วนที่เป็นเหรียญรูปเหมือนของท่านเอง รุ่นแรก คือ เหรียญยืน ออกที่วัดนางเหลียว ปี ๒๕๑๔ เหรียญรูปไข่และเหรียญกลม ออกที่วัดคะตึกเชียงมั่น ปี ๒๕๑๔ หลังจากนั้นได้มีการสร้างเหรียญรุ่นต่างๆ ออกมาอย่างต่อเนื่อง จนถึงปี ๒๕๑๘ ได้หยุดการสร้างไปช่วงระยะหนึ่ง จนถึงปี ๒๕๒๗ จึงได้มีการสร้างติดต่อกันมาอีกครั้ง จนถึงรุ่นสุดท้าย ปี ๒๕๓๘

              วัตถุมงคลของ หลวงพ่อเกษม เขมโก ทุกรุ่นนอกจากมีประสบการณ์ในด้านต่างๆ แล้ว ปัจจัยที่ได้จากการทำบุญบูชายังได้นำไปใช้จ่ายในการทำนุบำรุงพระพุทธศาสนาและสาธารณกุศล อย่างมากมายมหาศาล นับได้ว่าท่านเป็นพระเถราจารย์ที่ได้สร้างทานบารมีเอาไว้ในชาตินี้อย่างอเนกอนันต์หาที่สุดมิได้

              ในวงการพระเครื่อง พระหลวงพ่อเกษม เขมโก ได้รับความศรัทธาสนใจเช่าหากันในวงกว้าง โดยเฉพาะช่วงปี ๒๕๑๗-๒๕๑๘ ทำให้มีนักสะสมพระเครื่องประเภทที่เรียกว่า “สายตรง” หลวงพ่อเกษม มีมากมายหลายคน ในขณะที่มีบางคนเพิ่งมาเริ่มสนใจในภายหลัง แต่ด้วยประสบการณ์อันมากมายที่ปรากฏให้พบเห็นเป็นประจำ จึงเกิดความศรัทธานับถือเช่าหาแต่พระเครื่องหลวงพ่อเกษมมาจนถึงทุกวันนี้

              หนึ่งในนั้นคือ ภาพ สายสาม เจ้าของชื่อจริง จรัญ แย้มเสาธง แห่งร้าน  “มงคลเกษม ๑”

              “ผมเป็นคนพิษณุโลก เกิดที่ อ.บางกระทุ่ม สมัยเด็กๆ เข้าวัดกับพ่อแม่เป็นประจำ ได้พบเห็นหลวงพ่อที่วัดต่างๆ นิยมสร้างพระเครื่องให้ชาวบ้านทำบุญบูชา เพื่อหาเงินบูรณะวัด พ่อแม่ผมก็ได้ทำบุญเช่าพระกับเขาด้วย พระที่ได้มานั้น ท่านให้ผมเก็บรักษาไว้ นานๆ เข้าก็มีจำนวนมากมายหลายองค์ ทำให้ผมเกิดความสนใจพระเครื่องขึ้นโดยปริยาย เมื่อเรียนหนังสือจบ ป.๖ ผมก็เข้ากรุงเทพฯ หางานทำทุกอย่างที่ทำได้ ส่วนความสนใจในเรื่องพระเครื่องก็ยังมีอยู่ ช่วงนั้นพอมีเงินเหลือบ้างก็จะหาเช่าพระหมด พระใหม่ๆ ที่เปิดจอง ผมเอาหมด โดยได้อ่านหนังสือพระเครื่องที่ลงข่าววัดไหนสร้างพระอะไรจะไปจองไปเช่าทันที พอดีมีผู้ใหญ่ท่านหนึ่งบ้านอยู่ใกล้กัน ท่านเป็นศิษย์หลวงพ่อเกษม เขมโก สุสานไตรลักษณ์ จ.ลำปาง ให้เหรียญหลวงพ่อเกษมแก่ผมหลายชิ้น ท่านบอกว่า หลวงพ่อเกษมเป็นพระที่ศักดิ์สิทธิ์มาก ผมจึงไปหาหนังสือที่ลงเรื่องของท่านมาอ่าน ก็เกิดความศรัทธาเลื่อมใสท่านมาก หลังจากนั้นผมจะเก็บสะสมแต่พระหลวงพ่อเกษม เป็นหลัก แต่ผมก็ไม่มีโอกาสขึ้นไปกราบท่านที่ลำปาง เพราะไม่มีรถ ลางานไม่ได้ และไม่มีเงินมากพอ ก็ได้แต่กราบไหว้รูปถ่ายของท่านเป็นประจำทุกคืน จนเกิดจิตปฏิพัทธ์กับท่านมาก อยากขึ้นไปกราบท่านที่สุสาน คิดถึงท่านตลอดเวลา จนเกิดฝันขึ้นมาว่า ท่านได้มาหาผมถึงที่บ้าน มองหน้าผมอย่างมีเมตตา พร้อมกับเอามือมาลูบหัวผม จนผมตกใจ
ตื่นขึ้น ผมดีใจมากที่มีโอกาสได้สัมผัสกับท่าน แม้จะเป็นเพียงความฝันก็ตาม  เหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นกับผมเป็นประจำ” ภาพ สายสาม กล่าวด้วยความตื่นเต้น

              ครั้งหนึ่ง ภาพ เผลอไปจับสายไฟฟ้าซึ่งปลายข้างหนึ่งเสียบอยู่ที่ปลั๊ก จนเกิดกระแสไฟวิ่งเข้าหาตัว แทนที่กระแสไฟจะดูดตัวเขา กลับเหมือนมีอะไรมากระชากให้ตัวเขาออกห่างจากสายไฟอย่างฉับพลันทันที เป็นที่มหัศจรรย์ยิ่ง ภาพ คิดว่าเป็นปาฏิหาริย์ที่เกิดขึ้นโดยบารมีของหลวงพ่อเกษม มาช่วยชีวิตเขาไว้ ซึ่งในตัวเขามี รูปถ่ายหลวงพ่อเกษม ขนาดเล็กเลี่ยมพลาสติกห้อยคอเพียงอันเดียวเท่านั้น

              นอกจากนี้ เวลาขับรถไปไหนมาไหน ไม่ว่าจะใกล้หรือไกล เขาไม่เคยประสบอุบัติเหตุอะไรเลย ปลอดภัยเสมอ ก็ด้วยบารมีหลวงพ่อเกษมคุ้มครองตลอดเวลา

              ภาพ กล่าวว่า “ผมมั่นใจในพระหลวงพ่อเกษม ไม่ว่าจะเป็นรุ่นไหน พิมพ์ไหน ก็ตาม มีความศักดิ์สิทธิ์เหมือนกันหมด โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เหรียญระฆัง ปี ๒๕๑๖ ซึ่งมีประสบการณ์มากมาย เมื่อครั้งเกิดเหตุการณ์ ๑๔ ตุลาคม ๒๕๑๖ มีนักศึกษาชาวลำปางหลายคนที่อยู่ในเหตุการณ์ ถูกยิงในระยะใกล้ แต่กระสุนไม่ระคายผิวหนัง รอดตายอย่างปาฏิหาริย์ เพราะทุกคนมีเหรียญระฆังหลวงพ่อเกษมติดตัว จนเป็นที่เลื่องลือกันมาก เหรียญรุ่นนี้ดังมาจนถึงทุกวันนี้ บรรดาทหารหาญที่ไปราชการ ๓ จังหวัดชายแดนภาคใต้ต่างแคล้วคลาดปลอดภัยก็เพราะมีเหรียญรุ่นนี้เช่นกัน จนมีการสั่งซื้อจากผมตลอดเวลา ในด้านเมตตามหานิยม พระเครื่องหลวงพ่อเกษม ก็มีพร้อมเช่นกัน”

              ทุกวันนี้ ภาพ ยอมรับว่า “ผมแจ้งเกิดได้ก็ด้วยบารมีหลวงพ่อเกษมโดยแท้ จากสภาพที่เมื่อก่อนผมไม่มีอะไรเป็นหลักเป็นฐาน มาถึงทุกวันนี้ ผมมีพร้อมทุกอย่าง และมีความสุขกับการได้เป็นสื่อกลางให้ผู้ที่เคารพนับถือหลวงพ่อเกษม ได้มีพระดีของแท้ไว้ใช้กันอย่างทั่วถึง ขณะเดียวกัน รายได้ส่วนหนึ่งที่ผมได้รับก็จะนำไปทำบุญเพื่ออุทิศส่วนกุศลให้กับหลวงพ่อเป็นประจำ โดยเฉพาะวันครบรอบวันเกิดของท่าน (วันที่ ๒๘ พฤศจิกายน) และวันครบรอบวันมรณภาพของท่าน (วันที่ ๑๕ มกราคม ๒๕๓๙) ผมจะขึ้นไปที่สุสานไตรลักษณ์ จ.ลำปาง เพื่อร่วมทำบุญบำเพ็ญกุศลถวายหลวงพ่อเป็นประจำทุกปี ทุกครั้งที่ได้ทำเช่นนี้ ผมมีความสุขมาก”

              ภาพ สายสาม มีร้านพระชื่อ “มงคลเกษม ๑” อยู่ใน ชมรมพระเครื่องมรดกไทย ชั้น ๓ ห้างพันธุ์ทิพย์ งามวงศ์วาน และในเว็บท่าพระจันทร์ โดยมีตำแหน่งเป็นกรรมการตัดสินพระชุดหลวงพ่อเกษม เขมโก ของ สมาคมผู้นิยมพระเครื่องพระบูชาไทย ซึ่งเป็นหน้าที่ที่ ภาพ บอกว่า “ผมภาคภูมิใจที่สุด”