'ฉลอง'สร้าง'เหรียญหลวงปู่ผ่านรุ่นเมตตา' | คมชัดลึก

              "เงินทองไหลมาเหมือนสายน้ำ" นี่เป็นคำเปรียบเปรยถึงรายได้จากการฉายหนังเรื่อง "ทอง ภาค ๑" (GOLD หรือ S.T.A.B.) ของ "ฉลอง ภักดีวิจิตร" หรือ "อาฉลอง" ผู้กำกับภาพยนตร์ชาวไทย มีฉายาที่วงการภาพยนตร์ขนานนามให้คือ "เจ้าพ่อหนังแอ็กชั่น" โดยเขาได้นำเอา “ดาราฝรั่ง-ต่างชาติ” มาร่วมงาน เช่น เกรก มอริส, คริส ท็อฟ (ชายงาม ออสเตรีย), แจน ไมเคิล วินเซนต์, คริสโตเฟอร์ มิทชั่ม, โอลิเวียร์ ฮัสซีย์ และ นางเอกหนังเวียดนาม เถิ่ม ถุย หั่ง ในวันแรกของการฉายหนังที่ โรงหนังปารีส และพาราเมาท์คนต้องเข้าคิวรอยันยาวเหยียดเลยทีเดียว

               ภาพยนตร์เรื่อง "ทอง ภาค ๑" ซึ่งออกฉายเมื่อ พ.ศ.๒๕๑๖ เป็นหนังที่อาฉลองภูมิใจมากที่สุด ใช้เงินงบประมาณกว่า ๑๐ ล้านบาท สามารถทำรายได้ทั้งในประเทศ ขายให้ฮ่องกงและไต้หวัน และโดยเฉพาะที่อเมริกา ขายได้ ๑ ล้านดอลลาร์ หรือ ๒๐ ล้านบาท ขณะเดียวกันในการประกาศ รางวัลตุ๊กตาทองประจำปี ๒๕๑๗ โดยสมาคมหอการค้าไทย ทองก็ได้รับรางวัล ๓ ตุ๊กตาทอง คือ รางวัลยอดเยี่ยมลำดับภาพและตัดต่อ รางวัลยอดเยี่ยมถ่ายภาพ และรางวัลยอดเยี่ยมบันทึกเสียง

               เมื่อมาจับงานสร้างละคร ฉลองก็จัดได้ว่า เป็นผู้บุกเบิก ละครแนวแอ็กชั่นทางช่อง ๗ สี ของ สุรางค์ เปรมปรีดิ์ คือ “อังกอร์ ๑” นำแสดงโดย พีท ทองเจือ กับ "เอ็มม่า" วรรัตน์ สุวรรณรัตน์ และเรื่องล่าสุดก็คือ เหล็กไหล ซึ่งสามารถโกยเรตติ้งแซงช่องอื่นไปเลย

               ในการถ่ายหนังแต่ละครั้งนั้น อาฉลอง บอกว่า เมื่อก่อนนี้ไม่มีการบวงสรวง หรือจัดพิธีใดๆ ถือเอาฤกษ์สะดวกเป็นหลัก แต่ปัจจุบันการบวงสรวงก่อนเปิดกล้องทั้งภาพยนตร์และละครกลายเป็นสิ่งสำคัญ กลายเป็นประเพณีของวงการบันเทิงไปแล้ว ซึ่งโดยปกติแล้วจะเลือกวันที่เป็น อธิบดี และธงชัย โดยตลอดปีนี้วันศุกร์ เป็นทั้ง อธิบดี และธงชัย จึงเลือกที่จะบวงสรวงและเปิดกล้องวันศุกร์เป็นหลัก  

               จากประสบการณ์ที่สร้างหนังมานับเรื่องไม่ถ้วน อาฉลอง เล่าว่า เรื่องลึกลับหรือเกี่ยวกับภูตผีได้เจอกับตัวเองครั้งหนึ่ง สมัยเตรียมไปถ่ายละครเรื่อง "อังกอร์ ภาคแรก" ได้เดินทางไปดูสถานที่ถ่ายทำยังน้ำตกเหวสุวัต อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ซึ่งน้ำตกแห่งนี้มีเรื่องเล่าต่อกันมาว่าเป็นสถานที่ที่มีคนตายอยู่ไม่ใช่น้อย ระหว่างเดินดูสถานที่อยู่นั้น มีเสียงคนเดินตาม พอหยุดหันมองกลับไปก็ไม่เจอคนที่เดินตามเลย จากนั้นเราก็เดินหาโลเกชั่นต่อไป เสียงที่ได้ยินในครั้งแรกก็ตามมาอีก แต่เราไม่ได้สนใจอะไรทำตัวเฉยๆ เหมือนไม่ได้ยินอะไร

               "เวลาที่ผมเดินดูโลเกชั่นอยู่นั้นรู้สึกว่ามีคนเดินตาม เปลี่ยนเส้นทางเดินมันก็ยังเดินตามแชะๆๆๆ แต่เรามองไม่เห็นตัว ความรู้สึกตอนนั้นไม่ได้กลัวอะไร เพราะคิดว่าจิตใจเรามุ่งมั่นที่จะทำงาน หาสถานที่เสียงลึกลับที่ได้ยินจึงไม่ได้ใส่ใจว่าเป็นเสียงผีหรือวิญญาณอะไร ทำให้ความกลัวหายไป แต่บางครั้งก็หวาดๆ อยู่เหมือนกัน และเสียงที่เราได้ยินก็ค่อยๆ หายไปเอง" เขาเล่าถึงเสียงผีเดินตามด้วยน้ำเสียงเครือๆ

               พระเครื่องที่อาฉลองแขวนติดตัวประจำ คือ พระผงของขวัญ หลวงพ่อสด วัดปากน้ำ รุ่น ๑ พระยอดธง และเหรียญหลวงปู่ผ่าน รุ่นเมตตา ซึ่งเป็นพระที่เป็นประธานในการจัดสร้างเอง โดยแขวนเพื่อให้เป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจตัวเรา นอกจากนี้ แล้วยังมีพระพุทธรูปมากมายบนห้องพระที่มีคนนับถือก็จะนำพระมาให้บูชา ไม่ว่าจะเป็นพระพุทธรูปสมัยอู่ทอง เชียงแสน สุโขทัย

               อาฉลอง บอกด้วยว่า ครั้งหนึ่งได้เป็นประธานจัดสร้างพระประธานไปถวายที่วัดเขากระจิว อ.ท่ายาง จ.เพชรบุรี เป็นการสร้างเพื่อพระพุทธศาสนาที่จะยั่งยืนต่อไป อย่างน้อยเราได้สร้างบุญสร้างกุศล เพราะเป็นคนเชื่อในเรื่องกฎแห่งกรรม ใครทำกรรมใดไว้กรรมนั้นก็จะตามสนอง

               เมื่อถามถึงความเชื่อเรื่องกรรม อาฉลอง บอกว่า มีหลายคนสมัยเป็นหนุ่มชอบออกไปล่าสัตว์เจอสัตว์อะไรก็ยิง เจอเสือ กระทิง หรือวัวก็จะยิงมันตาย เชื่อไหมว่า เวลาคนพวกนี้จะเสียชีวิตก็จะร้องเสียงดังเหมือนกับสัตว์ที่เขายิงเลย บางคนยิงวัว พอกำลังจะตายก็ร้องเป็นเสียงวัวออกมาเลย กรรมตัวนี้เป็นกรรมทันตาเห็นไม่ต้องรอชาติหน้า

               ส่วนเหตุการณ์หนึ่งที่เกิดขึ้นกับอาฉลองและจำได้อย่างแม่นยำ คือ "นิ้วขาด" ซึ่งเกิดขึ้นตอนอายุประมาณ ๕ ขวบ โดยปีนต้นไม้ขึ้นไปความสูงก็ไม่มากเท่าไร พอตกลงมามือก็ถูกกระถางทับนิ้วมือแหลกละเอียด พอไปถึงโรงพยาบาลหมอก็บอกว่าต้องตัดนิ้วที่แหลกทิ้ง ซึ่งก็จำได้ว่าหมอพูดเชิงเล่นว่า เดี๋ยวมันเก่งเกินไปตัดเอาออกสักนิ้วหนึ่ง แต่เหตุการณ์ครั้งนั้นก็ไม่รู้ว่าเป็นเรื่องของกฎแห่งกรรมหรือไม่ เพราะตลอดชีวิตที่ผ่านมายังไม่เคยสร้างกรรมชั่ว

               "ความสำเร็จที่ผมได้มาจวบจนวันนี้ เป็นเพราะผมได้ให้ความบันเทิงแก่ประชาชนอย่างจริงใจ สิ่งที่ผมมีวันนี้เพราะว่าผมทำงานด้วยความซื่อสัตย์ คือ ไม่หลอกประชาชน และสิ่งสำคัญที่ผมอยากฝากเอาไว้ให้แก่คนรุ่นใหม่ว่า คนเราไม่ว่าจะทำอะไรให้ประสบความสำเร็จหรือไม่ อยู่ที่เราต่างหากว่า เป็นคนตรงต่อเวลาหรือไม่" ฉลอง กล่าวทิ้งท้าย

เหรียญหลวงปู่ผ่านรุ่นเมตตา

               อาฉลอง บอกว่า ที่ผ่านมามีผลงานสร้างหนังและละครนับร้อยเรื่อง แต่ถ้าเป็นการสร้างพระเครื่องนั้นได้รับเป็นประธานเพียงรุ่นเดียว คือ "เหรียญหลวงปู่ผ่าน รุ่นเมตตา" ที่จัดสร้างเมื่อ พ.ศ.๒๕๕๓ โดยมีวัตถุประสงค์ ๑.เพื่อสมทบทุนจัดสร้างพิพิธภัณฑ์หลวงปู่ผ่าน ปัญญาปทีโป บ้านเซือม อ.อากาศอำนวย จ.สกลนคร ๒.เพื่อสมทบทุนจัดสร้างอาคารกายภาพบำบัดหลวงปู่ผ่าน ปัญญาปทีโป โรงพยาบาลอากาศอำนวย จ.สกลนคร และ ๓.เพื่อสมทบทุนจัดสร้างอาคารศูนย์พัฒนาเด็กก่อนวัยเรียน หลวงปู่ผ่าน ปัญญาปทีโป บ้านเซือม อ.อากาศอำนวย จ.สกลนคร
 
               "หลวงปู่ผ่าน ปัญญาปทีโป" อดีตเจ้าอาวาสวัดป่าปทีปปุญญาราม บ้านเซือม ต.โพนแพง อ.อากาศอำนวย จ.สกลนคร พระป่าสายกรรมฐานชื่อดัง สายหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต ศิษย์รุ่นสุดท้าย เป็นพระป่านักปฏิบัติกรรมฐานอีกรูปหนึ่ง ที่มีศีลาจารวัตรที่งดงามน่าเลื่อมใสศรัทธา เป็นศิษย์หลวงปู่มั่น เป็นพระสุปฏิปันโนเนื้อนาบุญของชาวโลก เมื่อครั้งที่ท่านยังมีชีวิตอยู่ท่านได้ออกมาต้อนรับคณะญาติโยมที่เดินทางมาจากแดนใกล้ไกลเป็นจำนวนมาก

               ทุกครั้งที่คณะศรัทธาญาติโยมขอพรขอศีล ท่านจะบอกว่า มีหลักอยู่ ๓ อย่าง คือ “ขออย่าได้เจ็บ อย่าได้ป่วยไข้ และสุดท้ายอย่าลืมหายใจ” ครั้นเมื่อได้สดับตรับฟังหลักธรรมจากท่านแล้ว จะทำให้จิตใจสงบและร่มเย็นเป็นสุข ทั้งนี้ ท่านเคยแสดงไว้ในอดีตมาเสนอดังนี้ “จิตไม่ระเริงหลงในรูป ในเสียง ในกลิ่น ในรส โผฏฐัพพะ ธรรมารมณ์ อันนั้นแหละเรียกว่าผู้เห็นธรรม ธรรมะ คือ ธรรมดาสิ่งเกิดขึ้น ตั้งอยู่ และดับไป"
 
               ปัจจุบัน "เหรียญหลวงปู่ผ่าน รุ่นเมตตา" ได้รับกล่าวขวัญและได้รับความนิยมอย่างสูงในแวดวงนักสะสม ด้วยคติความเชื่อด้านพุทธคุณของที่ว่า "มีหลวงปู่ผ่าน เมื่อมีปัญหาอุปสรรคใดๆ ก็จะผ่านทุกเรื่อง"