สจ.ดร.ไพโรจน์กับพลังศรัทธาใน'เสด็จพ่อ ร.๕' | คมชัดลึก

              "ทุกครั้งที่ผมจะต้องทำอะไรก็จะอธิษฐานขอพรจากท่าน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการเลือกตั้ง การทำธุรกิจ โดยเฉพาะธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ขายบ้าน ขายที่ดิน ก็จะประสบความสำเร็จ" นี่เป็นความศรัทธาในเสด็จพ่อ ร.๕ ดร.ไพโรจน์ สุขจั่น ประธานกรรมการบริหาร กลุ่มบริษัท บัวทอง พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด ซึ่งล่าสุดเขาขอพรให้ชนะเลือกตั้งสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดนนทบุรี (ส.จ.) เขตบางรักพัฒนา บางบัวทอง ก็สามารถชนะเลือกตั้งมาได้อย่างใสสะอาด ซึ่งเป็นสมัยที่ ๒ ของการเป็น ส.จ.
 
              สำหรับที่มาของพระบรมรูปแกะสลักเสด็จพ่อ ร.๕ นั้น ส.จ.ดร.ไพโรจน์ บอกว่า เดิมทีนั้นต้องการแกะสลักเพื่อมอบให้อำเภอบางบัวทองสร้างเป็นพระบรมสาวรีย์ แต่ด้วยขั้นตอนการมอบให้ยุ่งยากมากจึงอัญเชิญมาประดิษฐานไว้ที่บ้านพร้อมกับสร้างตำหนัก ทั้งนี้ เมื่อถึงวันที่ ๒๓ ตุลาคม  หรือวันปิยมหาราช ก็จะเปิดให้ประชาชนทั่วไปสักการะบูชาขอพร
 
              ทุกๆ วันปิยมหาราช ของทุกๆ ปี จะเป็นที่รู้กันว่า ส.จ.ดร.ไฟโรจน์ จะทำบุญเลี้ยงภัตตาหารเพลแด่พระเกจิอาจารย์และพระสงฆ์ จากนั้นจะเปิดถ้ำแก้วเนรมิต และให้ประชาชนที่สนใจเข้าสักการะขอพรและเข้าชมสิ่งศักดิ์สิทธิ์ภายในถ้ำแก้ว เนรมิต ตั้งแต่เวลา ๑๕.๐๐-๑๙.๐๐น.ด้วย ปรากฏว่ามีประชาชนแห่มาชมสิ่งศักดิ์สิทธิ์ภายในถ้ำแก้วเนรมิตอย่างล้นหลาม
  
              นอกจากพระพุทธรูปแกะสลักจากหินมงคลต่างๆ วัตถุมงคลที่จัดวางในถ้ำแก้วเนรมิต ยังได้แบ่งออกเป็นหมวดหมู่ดังนี้ ๑.เทพเจ้าและเครื่องรางของขลัง เช่น พระสิวลีพระพิฆเนศ พระแม่ธรณี จตุคามรามเทพ พระสังกัจจายน์ เจ้าแม่กวนอิม เทพปี่เซียะ เทพเจ้ากวนอู พระแม่โพสพ ปู่ฤาษี ๑๐๘ กุมารทอง เจ้าเงาะป่าแม่นางกวัก เรือสำเภาเรียกทรัพย์ และปลัดขิกยักษ์ ไม้พญางิ้วดำ ๒.พระอริยสงฆ์-พระเกจิอาจารย์ เช่น หลวงพ่อโต หลวงปู่ทวด และหลวงพ่อปาน ๓.วัตถุมงคลแปลก เช่น หินเขี้ยวหนุมาน หินอำพันล้านปี เพชรหน้าทั่ง เหล็กไหล ๗ สี (โคตรเหล็กไหล) สะเก็ดดาว นิล และ มักกะลีผล เป็นต้น
 
              วัตถุประสงค์ในการสร้างถ้ำแก้วเนรมิตนั้น ส.จ.ดร.ไพโรจน์ บอกว่า ใช้เป็นสถานที่นั่งสมาธิ ปฏิบัติธรรมของตนเองและครอบครัว เพื่อเป็นสถานที่เก็บหินธาตุกายสิทธิ์ต่างๆ นอกจากนี้แล้วได้รับแรงบันดาลใจที่เวลาเดินทางไปสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ตาม ถ้ำต่างๆ ในต่างจังหวัด แล้วรู้สึกชอบจึงต้องการที่จะสร้างไว้เพื่อเป็นสิริมงคลให้ตัวเอง โดยในเบื้องต้นตั้งใจว่าจะเปิดให้ชมฟรีทุกวันที่ ๒๓ ตุลาคม หรือวันปิยมหาราช นอกจากนี้แล้วอาจจะเปิดให้เข้าชมในช่วงเทศกาลสำคัญๆ ของปีและวันสำคัญทางศาสนา
 
              ส่วนประสบการณ์ปาฏิหาริย์แห่งหินศักดิ์สิทธินั้น ส.จ.ดร.ไพโรจน์ เล่าว่า ครั้งหนึ่งผมเคยประสบอุบัติเหตุขับรถประสานงากับรถบรรทุกสิบล้อมาครั้งหนึ่ง ชนิดที่เรียกว่ารถพังย่อยยับไม่เหลือสภาพเดิม ในครั้งนั้นไม่ได้แขวนพระเครื่องอะไรเลย แขวนเพียงแต่แขวนหินเขี้ยวหนุมานก้อนเดียวเท่านั้นซึ่งหินชนิดนี้เป็นแร่ควอตซ์ชนิดหนึ่ง มีความโปร่งใสโปร่งตา และมักมีมลทินแร่บางชนิดอยู่ภายในเนื้อ ทำให้เกิดมีรูปร่าง สีสัน ลวดลายแปลกประหลาดต่างๆ สวยงาม มีชื่อเรียกต่างๆ กัน เช่น ขนเหล็ก เข็มเหล็ก เข็มทอง ไหมทอง สายรุ้ง ฯลฯ แต่ทุกวันนี้ไม่ได้แขวนแล้ว โดยมาแขวนพระแทน ได้แก่ พระปิดตาหลวงปู่เอี่ยม วัดสะพานสูง พระท่ากระดาน จ.กาญจนบุรี หมู อาจารย์เฮง เสือแกะหลวงพ่อปาน วัดคลองด่าน หรือวัดบางเหี้ย และล็อกเกตรูปพ่อแม่
  
              "หินศักดิ์สิทธิ์พันก้อน พระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ร้อยองค์ หรือจะสู้ธรรมะของพระพุทธเจ้าเพียงหัวข้อเดียว หินและพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ช่วยได้แค่เป็นเพียงเครื่องยึดเหนี่ยวทางจิตใจเท่านั้น แต่สิ่งที่ช่วยทำให้ชีวิตและหน้าที่การงานเจริญรุ่งเรื่องคือพระธรรม สำหรับหัวข้อธรรมที่สามารถนำไปประยุกต์ใช้กับชีวิตและการทำงานได้เป็นอย่างดี คือ อิทธิบาท ๔ สังคหวัตถุ ๔ พรหมวิหาร ๔ และมงคล ๙ ซึ่งโดยส่วนตัวแล้วเชื่อว่าเป็นชาวพุทธรู้และเข้าใจเป็นอย่างดี แต่สิ่งที่ชาวพุทธขาด ดังคำพูดที่ว่ารู้ธรรมแต่ไม่ทำ ธรรมนั้นก็ไร้ค่า" ส.จ.ดร.ไพโรจน์ กล่าวทิ้งท้าย
 
              เมื่อถามถึงการทำใจกับมหาอุทกภัยเมื่อปลาย พ.ศ.๒๕๕๔ ส.จ.ดร.ไพโรจน์ บอกว่า "ต้องยึดถือหลักธรรมของพระพุทธเจ้าที่ว่า ใดใดในโลกล้วนอนิจจัง ทุกโครงการที่รับมาบริหารงานมูลค่าเกือบ ๒ พันล้านบาท จมไปกับน้ำ แต่เมื่อมองคนรอบข้างแล้วก็รับชะตากรรมเดียวกัน จึงคิดว่าเป็นธรรมดาโลก ที่ผมเจ็บไม่มากเพราะผมยึดหลักความพอเพียงของในหลวง คือ ขยายตามกำลังความสามารถของตนเองที่มีอยู่ไม่ทำอะไรที่เกินตัว"
 
 
สร้างพระดัง ๒ รุ่น

 
              "เหรียญเจ้าสัว ยันต์ห้าแถวหนุนดวง" เป็นเหรียญที่ ส.จ.ดร.ไพโรจน์ สร้างขึ้นประมาณ ๙,๐๐๐ เหรียญ เพื่อมอบให้เป็นของที่ระลึกแก่แขกผู้ใหญ่ที่มาร่วมงานในวาระครบรอบ ๑๕ ปี กลุ่มบริษัท บัวทอง พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด และมอบเหรียญเจ้าสัว ยันต์ห้าแถว เป็นที่ระลึกให้แก่ประชาชนทั่วไปที่มาร่วมงานสักการะเสด็จพ่อ ร.๕ ในวันที่ ๒๓ ตุลาคม ซึ่งเป็นวันปิยมหาราช เพียงวันเดียวเท่านั้น โดยไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น 
 
              โดยมีพระเกจิอาจารย์ชื่อดังแห่งยุคมาปรก เช่น ๑.พระสุนทรธรรมานุวัตร หรือหลวงพ่อละเอียด อินฺทวํโส เจ้าอาวาสวัดไผ่ล้อม อ.บางบาล จ.พระนครศรีอยุธยา ๒.พระครูสุนทรธรรมนิวิฐ หรือ หลวงพ่อรวย ปาสาทิโก เจ้าอาวาสวัดตะโก ต.ดอนหญ้านาง อ.ภาชี จ.พระนครศรีอยุธยา ๓.พระครูศิริภัทรกิจ หรือหลวงปู่ศรี ปริสุทโธ วัดหน้าพระลาน จ.สระบุรี ๔.พระครูประโชติธรรมวิจิตร หรือหลวงพ่อเพิ่ม อตฺตทีโป เจ้าอาวาส วัดป้อมแก้ว ต.บ้านกลึง อ.บางไทร จ.พระนครศรีอยุธยา
 
              ในการจัดสร้าง "เหรียญเจ้าสัว ยันต์ห้าแถวหนุนดวง" ส.จ.ดร.ไพโรจน์ พูดไว้อย่างน่าคิดว่า “ในเมื่อใครๆ ก็อยากมีของดีไว้กับตัว ดังนั้นการสร้างพระให้คนนิมนต์ขึ้นคออย่างสนิทใจนั้น ต้องมีวัตถุประสงค์ที่ดี พิธีกรรมที่ชัดเจน และพระเกจิอาจารย์ชื่อดังแห่งยุคมานั่งปรกในพิธี ซึ่งทุกวันนี้พระองค์หนึ่งที่นิมนต์ขึ้นคอ คือ เหรียญเจ้าสัว ยันต์ห้าแถวหนุนดวง นอกจากมีปาฏิหาริย์กับตัวเองแล้ว ผู้ได้รับแจกไปต่างเกิดปาฏิหาริย์มากมาย ทุกวันนี้กลายเป็นเหรียญที่ใครๆ อยากได้ แม้จะเป็นเหรียญแจกฟรี แต่หาซื้อไม่ได้ เพราะผู้ที่ครอบครองหวงแหน”
 
              นอกจากนี้ ส.จ.ดร.ไพโรจน์ ยังสร้างจตุคามรามเทพ รุ่นอสังหามหาเศรษฐี และรุ่นเจ้าสัวพารวย จัดสร้างถวายหลวงพ่อสังเวียนแก้วงาม อดีตเจ้าอาวาส วัดโบสถ์ (บน) บางคูเวียง เนื่องในวาระฉลองครบรอบ ๘๖ ปีของหลวงพ่อ เพราะเมื่อสมัยเด็กๆ ได้เคยเป็นเด็กวัด และเติบโตมาที่วัดโบสถ์แห่งนี้ โดยได้เพียรเสาะแสวงหามวลสารอย่างมากมาย ว่ากันว่าแค่จตุคามรุ่นต่างๆ กว่า ๒๐๐ รุ่น ที่นำมาผสมในการจัดสร้าง รวมถึงพระเครื่องรุ่นดังชนิดต่างๆ อีกกว่า ๕,๐๐๐ องค์ นี่ยังไม่รวมถึงตะกรุดของอาจารย์อ๊อด วัดสายไหม หลวงพ่อจำลอง วัดเจดีย์แดง และหลวงพ่อทวีศักดิ์ วัดศรีนวล ที่ฝังอยู่ในองค์พระ