พระเครื่อง

'มจร'ระดมสมองทำแผนบริการสังคม

'มจร'ระดมสมองทำแผนบริการสังคม

01 พ.ย. 2555

'มจร'ระดมสมองทำแผนบริการสังคม วางยุทธศาสตร์5ปีเน้นคุณภาพเป็นหลัก มุ่งเชื่อมการผลิตบัณฑิตทำวิจัยกับบริการสังคมเข้าด้วยกัน

              1พ.ย.2555 พระธรรมโกศาจารย์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย (มจร) กล่าวในการเปิดการสัมมนาจัดทำยุทธศาสตร์การบริการวิชาการแก่สังคมที่ มจร อ.วังน้อย   จ.พระนครศรีอยุธยา ที่มีผู้เข้าร่วมประกอบด้วยผู้บริหาร คณาจารย์ และเจ้าหน้าที่ทั้งส่วนกลางและวิทยาเขตและศิษย์เก่าทั้งสิ้น 200รูป/คนว่า การบริการสังคมนับเป็นยุทธศาสตร์หนึ่งในห้าของมหาวิทยาลัยนอกจากการผลิตบัณฑิต โดยเชื่อมการผลิตบัณฑิต การทำวิจัยเข้ากับการบริการสังคมเข้าด้วยกัน เพราะการบริการสังคมมีส่วนสำคัญในการจรรโลงพระพุทธศาสนาให้คงอยู่ เนื่องจากจะทำให้มีศาสนทายาทที่มีจิตอาสาทำงานเพื่อสังคมสืบต่อไป

               "การบริการสังคมของ มจร มีเป้า 3 ประการคือ คณะสงฆ์ ชุมชน และสังคม ซึ่งที่ผ่านมาถือว่าอยู่ในระดับที่ดี อย่างเช่น การเปิดค่ายเยาวชน เปิดการปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐานให้กับบุคคลทั่วไป  และการช่วยเหลือผู้ประสบภัยคราวน้ำท่วมจนทำให้เกิดเอ็มซียูโมเดลจนการมีคำแนะนำให้มีการต่อยอดโดยทำเป็นยุทธศาสตร์ต่อเนื่อง" อธิการบดี มจร กล่าวและว่า

               อย่างไรก็ตามผู้ให้การบริการสังคมจำเป็นจะต้องมีความรู้มียุทธศาสตร์ที่ดี เพราะไม่เช่นนั้นแล้วก็จะเป็นเหมือนกับพระนักเทศน์ชื่อดังแต่พื้นฐานความรู้ไม่แน่น เพราะว่าจบการศึกษาเพียงระดับนักธรรมตรี นักธรรมโทก็เทศน์แล้ว ตั้งตัวเป็นเกจิอาจารย์ เป็นนักสักยันต์แล้ว เพราะมีใจรักในการช่วยเหลือสังคม  แต่การบริการสังคมของพระนั้นแตกต่างจากนักสังคมสงเคราะห์กับพระที่ต้องรู้จักให้ธรรมะ ดังนั้น ความรู้จึงเป็นสิ่งสำคัญ อย่างน้อยๆควรมาเรียนที่ มจร แล้วถึงทำหน้าที่เป็นนักเทศน์


               พระธรรมโกศาจารย์ กล่าวต่อว่า ยุทธศาสตร์ของ มจร ส่วนกลางอีก 5 ปีจะมุ่งเน้นพัฒนาคุณภาพการศึกษาโดยเน้นด้านการวิจัยเป็นสำคัญ ทั้งนี้โดยต้องการต่อยอดจากผู้จบการศึกษาระดับปริญญาตรีจากวิทยาเขตและสถานการศึกษาต่างๆที่ต้องการเข้ามาศึกษาด้านพระพุทธศาสนา  เพราะไม่เช่นนั้นแล้วก็จะเป็นการแข่งขันกันเองและมหาวิทยาลัยข้างนอก

               พระธรรมโกศาจารย์ กล่าวด้วยว่า การจัดการศึกษานั้น อย่าเน้นเฉพาะการบริการ แต่ต้องเน้นการรับผิดชอบต่อสังคม  โดยการชี้นำสังคมในการนำเสนอภูมิปัญญา และร่วมแก้ปัญหาต่างๆ ที่สังคมประสบกับสภาวะตีบตันและไร้ทางออก ตัวแปรสำคัญคือการนำองค์ความรู้และงานวิจัยมาช่วยส่งเสริม การทำงาน และปัญหาและอุปสรรคจากการทำงานไปทำวิจัยเพื่อหาทางออก หากทำเช่นนี้จะทำเอื้อถึงกัน และเป็นการบูรณาการทั้งการผลิตบัณฑิต การวิจัย การบริการวิชาการ และการทำนุบำรุงศิลปะวัฒนธรรม ซึ่งจะนำไปสู่การพัฒนาให้มหาจุฬาฯ เป็นองค์กรแห่งการเรียนรู้  ไม่ใช่เน้นเฉพาะการเรียนรู้เฉพาะบุคคลต่อไป

               "นอกจากนี้ มจร มีนโยบายที่จะสร้างวิทยาลัยพระพุทธศาสนานาชาติขึ้น ขณะนี้กำลังสร้างอาคารที่มุงหลังคาด้วยโซล่าเซลล์เพื่อเป็นการอนุรักษณ์สิ่งแวดล้อม ให้นักศึกษาทั่วโลกมาศึกษาพุทธศาสนา แต่การศึกษานานาชาตินั้นไม่ใช่เปิดเฉพาะหลักสูตรภาษาอังกฤษ วิทยาเขตจะต้องเปิดการศึกษาเกี่ยวกับเพื่อนบ้านให้เก่งอย่างเช่นที่วิทยาเขตสุรินทร์ต้องเน้นการเรียนการสอนภาษาเขมร เรียนรู้วัฒนาธรมเขมร รวมถึงต้องประสานสัมพันธ์ความร่วมมือกับประเทศเพื่อนบ้านได้" อธิการบดี มจร กล่าว

               พระเมธีธรรมาจารย์  รองอธิการบดี มจร  ฝ่ายประชาสัมพันธ์และเผยแผ่กล่าวรายงานว่า ยุทธศาสตร์และแผนการดำเนินงานเป็นปัจจัยหนึ่งในหลายปัจจัยที่มีความสำคัญยิ่งต่อการสำเร็จขององค์กร โดยเฉพาะแผนบริการวิชาการด้านพระพุทธศาสนาเป็นตัวกำหนดผลผลิตและบริการของมหาวิทยาลัยไปสู่สาธารณชน การมีแผนบริการวิชาการด้านพระพุทธศาสนาแก่สังคมจะสามารถสร้างความเจริญเติบโตให้แก่องค์กรได้เป็นอย่างดี

               นอกจากนี้ยังมีการสัมมนายังมีการกลุ่มย่อย เรื่อง “การจัดทำเป้าประสงค์ ตัวชี้วัด กลยุทธ์ และกิจกรรมโครงการ ตามประเด็นยุทธศาสตร์”เพื่อระดมความคิดเห็นอีกด้วย พร้อมกันนี้ มจร ได้สถานีโทรทัศน์เพื่อการศึกษา มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย หรือ MCU TV โดยเริ่มทดลองออกอากาศด้วยช่องสัญญาณดาวเทียมไทยคม 5 ตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายนเป็นต้นไป