
วัตถุมงคลรุ่น๘๐ปี'หลวงพ่อสุนทร'
วัตถุมงคลรุ่น๘๐ปีแห่งความเมตตา'หลวงพ่อสุนทร'วัดหนองสะเดา : บุญนำพา
พระครูโสภณถิรคุณ(หลวงพ่อสุนทรจนฺทเถโร)เจ้าอาวาสวัดหนองสะเดาต.หนองปลิงอ.หนองแคจ.สระบุรีชาติกำเนิดเดิมเป็นชาวกัมพูชาในตระกูล"วัฒนาสาคร"โยมบิดาชื่อ"คงวัฒนาสาคร"โยมมารดาชื่อ"ริมคงควร"เกิดเมื่อวันจันทร์ที่๒มีนาคม๒๔๗๖มีพี่น้องร่วมบิดามารดาด้วยกัน๕คนคือหลวงพ่อสุนทรจนฺทเถโร,นายจอนวัฒนาสาคร,นายหอม วัฒนาสาคร,นางสาวรายวัฒนาสาครและน.ส.สุวรรณวัฒนาสาคร
ครอบครัวของหลวงพ่อประกอบอาชีพทำนาและค้าขายในหมู่บ้านสมัยนั้นท่านมักจะเที่ยวเล่นอยู่ในวัดตามประสาเด็กในชนบทจวบจนท่านอายุได้๑๒ปีจึงได้ขอโยมบิดามารดาบรรพชาเป็นสามเณรที่วัดเวียนเภาต.โพธิ์เรียงอ.โพธิ์เรียงจ.ไปรแวงประเทศกัมพูชาเมื่ออายุครบบวชได้อุปสมบทเป็นพระภิกษุที่วัดเดิมโดยมีหลวงพ่อสุยซึ่งเป็นสหายธรรมกับพระเทพรัตนากรวัดมหาธาตุกรุงเทพฯเป็นพระอุปัชฌาย์
เมื่ออุปสมบทแล้วได้ศึกษาเล่าเรียนอยู่กับหลวงพ่อสุย๑พรรษาในขณะเดียวกันบ้านเมืองกัมพูชาได้เกิดความแตกแยกและมีสงครามไม่เหมาะที่จะอยู่ปฏิบัติธรรมประกอบกับเกิดความเบื่อหน่ายสังคมบ้านเมืองจึงคิดที่จะออกธุดงค์เพื่อจะได้ไม่ต้องวุ่นวายหรือเกี่ยวข้องกับทางโลกท่านได้ตัดสินใจออกจากบ้านเกิดโดยเดินธุดงค์มุ่งหน้าสู่เมืองไทยผ่านอ.ตาพระยาจ.ปราจีนบุรีตลอดเส้นทางท่านได้แวะพักจำพรรษาตามวัดต่างๆเช่นวัดหนองหัวลิง,วัดหนองตะเข้,วัดเสนานฤมิตร,วัดหนองตาน้อย,วัดกระทงลอยและวัดหนองสะเดาต.หนองปลิงอ.หนองแคจ.สระบุรีณที่วัดแห่งนี้ท่านได้จำพรรษาเป็นการถาวรเพราะเห็นว่าเป็นสถานที่สงบไม่พลุกพล่านเหมาะแก่การปฏิบัติธรรมโดยอาศัยโบสถ์หลังเก่าเป็นที่จำพรรษาและประกอบกิจทางศาสนาซึ่งขณะนั้นมีพระครูสุวรรณเขมโกเป็นเจ้าอาวาสต่อมาพระครูสุวรรณได้ลาสิกขาชาวบ้านจึงได้นิมนต์ท่านขึ้นดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสแทนจนถึงทุกวันนี้
ขณะที่จำพรรษาอยู่ที่วัดหนองสะเดาท่านได้รับความเมตตาและความไว้วางใจจากพระครูสรกิจพิจารณ์(หลวงพ่อผัน)วัดราษฎร์เจริญ(วัดแปดอาร์)เช่นให้ท่านลงอักขระตะกรุดและจัดทำเครื่องรางให้หลวงพ่อผันอยู่เสมอ
ครั้งหนึ่งฝ่ายสังฆาธิการมีคำสั่งให้คณะปกครองสงฆ์ทั่วประเทศตรวจสอบพระภิกษุต่างด้าวที่จำพรรษาอยู่ในประเทศทั้งหมดเพื่อจัดระเบียบการปกครองเจ้าคณะจังหวัดสระบุรีจึงได้มีคำสั่งให้พระภิกษุต่างด้าวเข้ารายงานตัวที่วัดพระพุทธบาทซึ่งหลวงพ่อสุนทรก็ได้ไปรายงานตัวเช่นกันพระภิกษุที่ไปรายงานตัวจะถูกจับสึกเป็นส่วนใหญ่เนื่องจากเป็นการบวชเพื่อแอบอ้างอาศัยอยู่ในเมืองไทยความทราบถึงหลวงพ่อผันด้วยความเป็นห่วงและมีความเมตตาต่อหลวงพ่อสุนทรท่านจึงรีบเดินทางไปที่วัดพระพุทธบาทหลังจากกราบเจ้าคณะจังหวัดสระบุรีแล้วหลวงพ่อผันถึงกับแปลกใจที่เห็นหลวงพ่อสุนทรยังครองสมณเพศอยู่มิได้ลาสิกขาเหมือนกับพระภิกษุต่างด้าวทั่วไป จึงได้เรียนถามหลวงพ่อสุนทรว่ารอดมาได้อย่างไรเนื่องจากเจ้าคณะจังหวัดสระบุรีขณะนั้นเป็นที่ทราบดีว่าท่านเคร่งครัดในกฎระเบียบวินัยมากปรากฏว่าที่หลวงพ่อสุนทรไม่ได้ถูกจับสึกก็เพราะท่านเป็นพระสงฆ์ที่บวชถูกต้องด้วยความศรัทธาเลื่อมใสเป็นที่ตั้งขณะเดียวกันพระอุปัชฌาย์ของหลวงพ่อสุนทรก็เป็นเพื่อนเรียนรุ่นเดียวกันกับเจ้าคณะจังหวัดสระบุรีเมื่อครั้งบวชเรียนอยู่ที่สำนักเรียนวัดมหาธาตุกรุงเทพฯนับเป็นความโชคดีของหลวงพ่อสุนทรและเป็นนิมิตหมายที่ดีที่ท่านจะได้อยู่บำรุงและอุปถัมป์พระพุทธศาสนาในเมืองไทยต่อไปเหตุการณ์ครั้งนั้นนับเป็นความเมตาของหลวงพ่อผันที่มีต่อหลวงพ่อสุนทรอย่างหาที่เปรียบมิได้
หลวงพ่อสุนทรได้ปฏิบัติศาสนกิจและบำรุงพระพุทธศาสนามาอย่างต่อเนื่องจนปี๒๕๓๘ท่านได้ดำริที่จะก่อสร้างอุโบสถหลังใหม่แทนหลังเดิมที่ชำรุดทรุดโทรมตามกาลเวลาแต่ยังขาดปัจจัยที่จะดำเนินการก่อสร้างเนื่องจากเป็นวัดบ้านนอกด้วยข้อจำกัดนี้ก็ไม่เป็นอุปสรรคท่านตัดสินใจเดินหน้าก่อสร้างอุโบสถหลังใหม่ด้วยคิดว่าเมื่อตั้งใจทำแล้วการใดที่เป็นบุญเป็นกุศลก็ต้องทำให้สำเร็จ
ท่านบอกว่าหลังจากเริ่มก่อสร้างแล้วเหมือนปาฏิหาริย์ได้มีคณะศิษย์ที่ทราบข่าวต่างร่วมอนุโมทนาและเป็นกำลังสำคัญในการดำเนินงานจนการก่อสร้างอุโบสถหลังใหม่สำเร็จลุล่วงไปได้ด้วยดีโดยได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมาเมื่อปี๒๕๓๘และได้เฉลิมฉลองจัดงานปิดทองฝังลูกนิมิตในปีต่อมานับว่าหลวงพ่อสุนทรท่านได้อุทิศทั้งแรงกายและแรงใจในการที่จะทำนุบำรุงและบูรณปฏิสังขรณ์ศาสนสมบัติและศาสนสถานไว้เป็นอนุสรณ์แก่คนรุ่นหลังสืบไป
โดยปกติหลวงพ่อสุนทรท่านเป็นพระที่รักสันโดษพูดน้อยถ้าคนที่ไม่คุ้นเคยหรือใกล้ชิดมักจะฟังท่านพูดไม่ถนัดต้องถามย้ำอยู่เสมอแต่เป็นเรื่องแปลกไม่ว่าท่านจะให้ศีลหรือให้พรผู้คนส่วนใหญ่จะได้ยินถนัดด้วยน้ำเสียงดังฟังชัดเสมอ
หลวงพ่อมีความเมตตามากจะเห็นได้จากทุกครั้งที่ลูกศิษย์มากราบไหว้ท่านและขอของดีจากท่านไม่ว่าจะเป็นตะกรุดหรือวัตถุมงคลใดๆโดยเฉพาะ"สีผึ้ง"ที่ท่านหุงเองท่านจะหยิบให้เสมอโดยไม่ต้องมีปัจจัยทำบุญแต่อย่างใดขณะเดียวกันโดยส่วนตัวของท่านเองก็ไม่นิยมสะสมทรัพย์สมบัติสิ่งของใดๆทั้งสิ้นรวมทั้งปัจจัยที่มีลูกศิษย์นำมาถวายท่านจะนำไปทะนุบำรุงพระศาสนาทั้งหมดโดยเฉพาะการอนุเคราะห์ค่าเล่าเรียนของพระภิกษุในวัดของท่านเองและวัดละแวกใกล้เคียงตลอดจนค่าใช้จ่ายภายในวัดและต่างวัดท่านจะอนุเคราะห์หมดตามกำลังที่มีอยู่
เนื่องในโอกาสที่หลวงพ่อสุนทรเจริญมงคลอายุครบ๘๐ปีในวันที่๒มีนาคม๒๕๕๖คณะกรรมการและศิษยานุศิษย์ได้ขออนุญาตจัดสร้างวัตถุมงคลขึ้นมาชุดหนึ่งเพื่อถวายแด่หลวงพ่อโดยทางวัดเป็นผู้ดำเนินการจัดสร้างขึ้นเองได้ตั้งชื่อรุ่นเป็นมงคลนามว่า"จนฺทเถโร๘๐"เป็นการน้อมรำลึกถึงความเมตตาอันยิ่งใหญ่ของหลวงพ่อที่มีต่อศิษยานุศิษย์และชาวบ้านทุกคน
วัตถุมงคลที่จัดสร้างคือเหรียญเสมา๘๐ปีหลวงพ่อสุนทร,เหรียญเสมาหลวงพ่อสำเร็จศักดิ์สิทธิ์,พระกริ่งพระชัยวัฒน์,ล็อกเกตหลวงพ่อสุนทรและเหรียญพระพิฆเนศ
วัตถุประสงค์ในการจัดสร้างวัตถุมงคลรุ่นนี้๑.เพื่อหาปัจจัยสมทบทุนก่อสร้างวิหารกลางน้ำณวัดหนองสะเดาซึ่งคณะศิษย์ได้ตั้งใจสร้างถวายแด่หลวงพ่อขณะนี้งานก่อสร้างในส่วนฐานรากได้แล้วเสร็จและกำลังดำเนินการเทพื้นเพื่อขึ้นเสาต่อไปคาดว่างานส่วนนี้จะเสร็จสมบูรณ์ประมาณต้นปี๒๕๕๗
๒.จัดหาคอมพิวเตอร์จำนวน๑๐ชุดพร้อมเชื่อมต่อระบบอินเตอร์เนตให้กับโรงเรียนวัดหนองสะเดาเพื่อพัฒนาเยาชนในท้องถิ่นได้มีโอกาสทางการศึกษามากขึ้นซึ่งโรงเรียนแห่งนี้หลวงพ่อสุนทรได้ให้การอุปถัมป์มาโดยตลอด
กำหนดพิธีอธิษฐานจิตครั้งแรกโดยหลวงพ่อสุนทรในวันที่๒๒มกราคม๒๕๕๖ณวิหารหลวงพ่อสำเร็จศักดิ์สิทธิ์ต.คชสิทธิ์อ.หนองแคจ.สระบุรีและพิธีพุทธาภิเษกณอุโบสถวัดหนองสะเดาในวันที่๒๔มกราคม๒๕๕๖ส่วนกำหนดการจัดงานฉลองอายุหลวงพ่อจะมีขึ้นในวันที่๒มีนาคม๒๕๕๖
ศิษยานุศิษย์และผู้ศรัทธาเลื่อมใสวัตถุมงคลรุ่นนี้สั่งจองได้ที่วัดตั้งแต่วันที่๕พฤศจิกายนนี้เป็นต้นไปติดต่อสอบถามโทร.๐๘-๗๙๒๑-๓๑๓๒,๐๘-๗๐๙๑-๙๓๒๐