รูป'มือตบ-ปืน'โผล่โบสถ์หลวงพ่อปัญญา | คมชัดลึก

               น่าสนใจไม่น้อยเมื่อพบว่า พระอุโบสถกลางน้ำที่ตั้งอยู่ภายในพื้นที่ของมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย (มจร) อ.วังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา หนึ่งในปณิธานของพระพรหมมังคลาจารย์ (ปัญญานันทภิกขุ) อดีตเจ้าอาวาสวัดชลประทานรังสฤษฏ์ จ.นนทบุรี ที่ละสังขารไปแล้วถึง 5 ปีแล้ว ซึ่งขณะนี้ดำเนินการสร้างเสร็จสมบูรณ์พร้อมส่งมอบให้ มจร โดยภายในพระอุโบสถกลางน้ำนั้นมีภาพของหลวงพ่อปัญญานันทภิกขุพร้อมกับภาพอดีตและปัจจุบัน ที่สำคัญภาพยังสื่อสะท้อนให้เห็นภาพของสังคมไทยที่แบ่งออกเป็นสีต่างๆ ภาพส่วนหนึ่งสื่อออกมาเป็นมือตบ ตีนตบ ปืน รวมทั้งเครื่องตรวจวัตถุระเบิดทางภาคใต้
    
               นายสมหมาย สุภาษิต รองผู้อำนวยการสำนักงานบริหารสำนักส่งเสริมพระพุทธศาสนาและบริการสังคม มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ในฐานะผู้ประสานงานในการสร้างอุโบสถกลางน้ำ เปิดเผยว่า พระอุโบสถกลางน้ำดังกล่าวเป็นหนึ่งในปณิธานของหลวงพ่อปัญญานันทภิกขุ ที่ต้องการสร้างแล้วมอบให้เป็นสถานที่ทำสังฆกรรมของพระสงฆ์ที่ศึกษาอยู่ใน มจร แต่ปณิธานของหลวงพ่อยังไม่แล้วเสร็จก็ละสังขารก่อน พระธรรมวิมลโมลี (รุ่น ธีรปญฺโญ) เจ้าอาวาสวัดชลประทานรังสฤษฏ์ จึงได้สืบสานปณิธานดำเนินการสร้างอุโบสถกลางน้ำต่อ ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากทุกฝ่าย จนมีความคืบหน้าใกล้แล้วเสร็จพร้อมที่จะส่งมอบให้ มจร
    
               นายสมหมายกล่าวต่อว่า ก่อนจะมีการวาดภาพดังกล่าวนั้น พระธรรมวิมลโมลี (รุ่น ธีรปญฺโญ) ได้ปรึกษาหารือกับคณะกรรมการสร้างอุโบสถกลางน้ำลงความเห็นว่า จะสะท้อนมุมมองของพระพรหมมังคลาจารย์ (ปัญญานันทภิกขุ) อดีตเจ้าอาวาสผู้ล่วงลับ ที่มีแนวความคิดที่ทันสมัยเข้ากับสถานการณ์
     
               "หลวงพ่อปัญญานันทภิกขุเคยกล่าวไว้ว่าคนสมัยก่อนได้สร้างโบสถ์สร้างวิหารแล้ววาดภาพที่สะท้อนสังคมในสมัยนั้นๆ แล้วทำไมคนในยุคนี้จะทำเช่นนั้นไม่ได้" นายสมหมายกล่าวและว่า
    
               ทั้งนี้ คณะกรรมการจึงได้ให้ความคิดดังกล่าวกับช่างวาดภาพ จึงได้ภาพสะท้อนออกมาให้เป็นภาพที่สังคมไทยแบ่งออกเป็นสีต่างๆ สื่อออกมาเป็นมือตบ ตีนตบ ปืน และเครื่องตรวจวัตถุระเบิดทางภาคใต้ ซึ่งนับเป็นภาพเด่นที่สุดโดยให้ชื่อว่า "มารผจญ"  พร้อมแฝงไว้ด้วยความคิดว่า แม้สังคมจะมีความขัดแย้ง แต่หากยึดหลักธรรมในพระพุทธศาสนาแล้วความสงบความปรองดองก็จะเกิดขึ้นได้ นอกจากนี้ ด้านนอกอุโบสถกลางน้ำยังมีภาพเหตุการณ์สึนามิในช่วงที่หลวงพ่อยังมีชีวิตอยู่ รวมถึงภาพหมีแพนด้าด้วย
   
               สำหรับผู้วาดภาพคือ นายเมืองสิงห์ จันทร์ฉาย ช่างวาดภาพชาว อ.สองพี่น้อง จ.สุพรรณบุรี ที่เคยวาดภาพในลักษณะเช่นนี้มาแล้วหลายแห่งอย่างเช่นที่วัดในพื้นที่ อ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี แต่ที่อุโบสถกลางน้ำแห่งนี้ถือว่าเด่นที่สุด ทั้งนี้เพื่อให้ศิษยานุศิษย์ของหลวงพ่อปัญญานันทภิกขุ และพุทธศาสนิกชนทุกหมู่เหล่าได้ทราบถึงความคืบหน้าของการก่อสร้างพระอุโบสถกลางน้ำ จึงพร้อมเปิดให้ชมจิตรกรรมฝาผนังซึ่งเป็นศิลปกรรมร่วมสมัย ทางวัดชลประทานรังสฤษฏ์ และ มจร จะแถลงข่าวให้สาธารณชนได้ทราบในวันจันทร์ที่ 29 ตุลาคม เวลา 11.00  น. ณ พระอุโบสถกลางน้ำ มจร