พระเครื่อง

พระพุทธโสธรเหรียญนามสกุลสุดยอดพุทธาภิเษก

พระพุทธโสธรเหรียญนามสกุลสุดยอดพุทธาภิเษก

24 ก.ย. 2555

พระพุทธโสธรเหรียญนามสกุล สุดยอดแห่งตำนานพิธีกรรมพุทธาภิเษกและตำนานแห่งชื่อรุ่น : พระองค์ครู ไตรเทพ ไกรงู"

               "หลวงพ่อโสธร" เป็นพระพุทธรูปที่ชาวไทยให้ความเลื่อมใสศรัทธามาอย่างยาวนาน ประดิษฐาน ณ พระอุโบสถวัดโสธรวรารามวรวิหาร จ.ฉะเชิงเทรา ด้วยความนิยมจากประชาชนอย่างมากมายทั่วประเทศ ทำให้มีการจัดสร้างเป็นเหรียญหลวงพ่อโสธร ที่ผู้นิยมสะสมพระเครื่องให้ความสนใจ
   
              อย่างไรก็ตาม เมื่อ พ.ศ.๒๕๔๗ ได้เกิดเป็นตำนานการสร้างเหรียญพระพุทธโสธร ทั้งในด้านพิธีกรรม การออกแบบเหรียญ การตั้งชื่อรุ่น ยอดการเช่าบูชา ร่วมทั้งข่าวความขัดแย้งที่ดังไปทั้งประเทศ คือ จัดสร้างพระเครื่องพระพุทธโสธร เหรียญนามสกุล เพื่อหาทุนจัดสร้างอาคารหอฉันมหาจุฬาลงกรณ์ราชวิทยาลัย (มจร.) อ. วังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา มูลค่าประมาณ ๒๐๐ ล้านบาท
   
               ในครั้งนั้นนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กราบบังคมทูลขอพระมหากรุณาจากสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ให้นายสิทธิกร บุญฉิม เป็นประธานจัดหาทุนสร้างอาคารหอฉัน โดยให้มหาวิทยาลัยขออนุญาตจากวัดโสธรวรารามวรวิหาร จัดสร้างพระเครื่องพระพุทธโสธร เหรียญนามสกุล จัดพิธีอาราธนาพระสงฆ์ชั้นผู้ใหญ่จากสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว และพระสงฆ์วัดต่างๆ ๑ หมื่นรูป ประกอบพิธีกรรมวันที่ ๑-๓ กุมภาพันธ์ พ.ศ.๒๕๔๗ ณ พระอุโบสถเฉลิมพระเกียรติ วัดโสธรฯ
   
              การพิธีครั้งนั้นนายสิทธิกรริเริ่มจัดสร้างพระพุทธโสธรองค์ใหญ่ เพื่ออัญเชิญมาเป็นพระประธานให้ มจร. ทั้งนี้สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร เสด็จพระราชดำเนินมาทรงเป็นประธานเททอง ณ วัดโสธรวรารามวรวิหาร เมื่อวันที่ ๑๓ กุมภาพันธ์ พ.ศ.๒๕๔๗  ต่อมาเมื่อวันที่ ๒๓ มกราคม พ.ศ.๒๕๔๙ เวลา ๑๒.๐๙ น. พระราชพิพัฒน์โกศล และนายสิทธิกร ได้ร่วมจัดพิธีอัญเชิญพระพุทธโสธรองจำลอง ออกจากวัดโสธรวรารามวรวิหาร ลงแพแม่น้ำบางปะกงขบวนแห่ออกปากอ่าวไทยเข้าแม่น้ำเจ้าพระยา เข้าประดิษฐาน ณ มณฑลพิธีท้องสนามหลวงเมื่อวันที่ ๒๖ มกราคม พ.ศ.๒๕๔๙ และเริ่มสมโภชตั้งแต่วันที่ ๒๘ มกราคม-๕ กุมภาพันธ์ พ.ศ.๒๕๔๙ รวม ๙ วัน ๙ คืน พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี พระวรราชาทินัดดามาตุ เสด็จมาทรงเป็นประธานเบิกพระเนตร และทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี เสด็จมาทรงเป็นประธานปิดทองคำเป็นปฐมฤกษ์
   
              งานครั้งนั้นมีผู้คนทั้งประเทศให้ความสนใจอย่างมาก ในครั้งนั้นนายสิทธิกรได้มอบเงินให้ มจร.๑๐๐ ล้านบาท และเหรียญนามสกุล มูลค่ากว่า ๓๐๐ ล้านบาท ทำให้นายสิทธิกรเป็นที่รู้จักของคณะสงฆ์ไทยอย่างมาก ถึงขนาดที่ว่า หลวงพ่อปัญญา นันทภิกขุ วัดชลประทานรังสฤษฏ์ จ.นนทบุรี ได้มีบันทึกอนุโมทนาด้วยลายลักษณ์อักษรประกาศยกย่องให้เป็น “มหาอุบาสกสิทธิกร บุญฉิม” ในขณะมีอายุ ๓๒ เท่านั้น
   
              ด้วยกระแสความนิยมอย่างล้นหลาม หลังจากนั้นเพียงไม่ถึงเดือน มีการทำเหรียญปลอมออกมาเขย่าวงการตลาดพระใหม่ ขณะเดียวกันชื่อของรุ่นที่ว่า "เหรียญนามสกุล ประจำตระกูล" ยังถูกใช้ในการจัดสร้างมาตั้งแต่บัดนั้นจนถึงทุกวันนี้ยังมีการตั้งชื่อรุ่นเป็นชื่อเดียวกัน
   
              ประเด็นหนึ่งที่น่าสนใจอยู่ไม่น้อย คือ ณ วันนี้เหลือเวลาอีกประมาณ ๙ เดือน ที่นายสิทธิกรจะพ้นโทษจากคดีการสร้างพระสมเด็จเหนือหัว ปรากฏว่ามีองค์กรการกุศลระดับประเทศ หน่วยงานราชการ วัดดัง รวมทั้งองค์กรการกุศลที่นายสิทธิกรเคยหาทุนให้ ขอเข้าเยี่ยมพร้อมกับขอให้ช่วยจัดสร้างพระเครื่องให้เกือบ ๕๐ ราย