พระเครื่อง

'พ่อท่านอิ้น'อ.เคียนซา'ช้างเผือกในป่าสีแดง'

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

'พ่อท่านอิ้น'อ.เคียนซา'ช้างเผือกในป่าสีแดง' : ศิษย์กวง

                ในยุคที่พระเกจิอาจารย์ผู้ได้รับการยอมรับว่า เชี่ยวชาญในเวทวิทยาคม มีเหลือให้กราบไหว้น้อยลงทุกที แต่ที่วัดเล็กๆ แห่งหนึ่งใน อ.เคียนซา จ.สุราษฎร์ธานี ยังมีพระสงฆ์สุปฏิปันโนท่านหนึ่ง ที่ดำรงตนให้ผู้คนกราบไหว้ได้อย่างสนิทใจ ชื่อเสียงของท่านอาจไม่ได้โด่งดังเป็นที่รู้จักกว้างขวางนัก แต่สำหรับคนในท้องถิ่น หรือผู้ที่เคยไปกราบไหว้ท่านมาแล้ว หรือเคยรอยชีวิตจากวัตถุมงคลของท่าน ต่างกล่าวยกย่องว่าท่านเป็นดั่ง “ช้างเผือกในป่าสีแดง”
 
                ชื่อของท่าน คือ “พ่อท่านอิ้น ปภากโร” เจ้าอาวาสวัดทับใหม่พัฒนา อ.เคียนซา อดีตพื้นที่สีแดงของประเทศไทย
 
                ท่านเล่าว่า ก่อนที่ท่านจะตัดสินใจบวช ท่านได้ดำรงชีวิตผ่านประสบการณ์ด้านต่างๆ มาแล้วอย่างโชกโชน เคยถูก ขุนพันธรักษ์ราชเดช อดีตนายตำรวจมือปราบจอมขมังเวทย์ (ปัจจุบันได้ถึงแก่กรรมแล้ว) ไล่ล่าจนประชิดตัว  แต่ด้วยอำนาจของตะกรุดโทนที่ท่านได้ทำใช้เองตามตำรา ทำให้ท่านสามารถรอดพ้นมาได้อย่างหวุดหวิด บางครั้งเมื่อต้องขึ้นโรงขึ้นศาล ท่านก็ได้อาศัยบารมีของตะกรุดโทนนี้ ทำให้ศาลยกฟ้องคดีมานับครั้งไม่ถ้วน
 
                ต่อมาท่านได้ฉุกคิดว่า การมีบริวารห้อมล้อมและมีคนยำเกรงจำนวนมาก หาใช่ความสุขอย่างแท้จริงของชีวิตไม่ ท่านจึงได้ย้อนคิดถึงเรื่องราวต่างๆ ที่ผ่านมาในชีวิต ทำให้ท่านทราบถึงสัจธรรมของชีวิตคือ “ความไม่เที่ยงแท้แน่นอน” แต่ด้วยความเป็นห่วงชีวิตของชาวบ้านที่อยู่ในการปกครองของท่าน ซึ่งท่านอยากให้คนเหล่านั้นเป็นคนดี และได้มีโอกาสรับใช้ชาติ ท่านจึงได้ยกที่ดินและทรัพย์สมบัติต่างๆ ออกแจกจ่ายแก่ชาวบ้าน เช่น การยกที่ดิน ๑๐๐ ไร่เพื่อจัดตั้งเป็น โรงเรียนบ้านเขารักษ์ ตั้งกองทุนเพื่อการศึกษาของเด็กนักเรียน ฯลฯ
 
                จากนั้นท่านได้หันหลังให้กับความวุ่นวายในทางโลก ก้าวเข้าสู่ร่มกาสาวพัสตร์ ณ พัทธสีมาวัดบางสะพาน จ.นครศรีธรรมราช และได้กลับมาตั้ง “สำนักสงฆ์บ้านทับใหม่” บนที่ดินที่ชาวบ้านในละแวกนั้นร่วมกันบริจาคให้ท่านด้วยความศรัทธา
 
                สำนักสงฆ์บ้านทับใหม่ ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นวัดขึ้นในปี ๒๕๕๓ บนพื้นที่ ๑๙ ไร่ของวัด ท่านได้จัดสร้างกุฏิสำหรับพระสงฆ์ ศาลาปฏิบัติธรรม เมรุและปัจจุบันที่ยังคงก่อสร้างค้างอยู่คือ อุโบสถ
 
                ทั้งนี้เพื่อให้เป็นไปตามเจตนารมณ์เดิมของท่าน เมื่อแรกออกบรรพชา คือ การสร้างวัดให้สมบูรณ์ที่สุด เพื่อรองรับชาวบ้านที่เข้ามาสู่ร่มเงาของพระพุทธศาสนา
 
                เมื่อวันจันทร์ที่ ๒ มกราคม ๒๕๕๕ ขึ้น ๙ ค่ำ เดือนอ้าย ปีมะโรง พ่อท่านอิ้น ได้จัดสร้างวัตถุมงคลชุด “ปภากโร นิรันตรายมหาบารมี” เพื่อนำรายได้สร้างอุโบสถของวัดทับใหม่พัฒนาให้แล้วเสร็จ ซึ่งอุโบสถดังกล่าวเป็นแบบเรียบง่าย (ตามแบบที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงมีพระราชดำริ คือ เน้นถึงประโยชน์และประหยัดสูงสุด รวมไปถึงเข้ากับชุมชนได้ดี) โดยคณะกรรมการวัดทับใหม่พัฒนา ได้ทำหนังสือถึงมูลนิธิชัยพัฒนา และได้รับอนุญาตเรียบร้อยแล้ว
 
                ในการจัดทำพิธีมหาพุทธาภิเษก และเทวาภิเษกครั้งนี้ ท่านพระครูพราหมณ์สิทธิชัยบดี จากกองพระราชพิธี สำนักพระราชวัง เป็นผู้บวงสรวงอัญเชิญทวยเทพและบูชาฤกษ์ พระเกจิอาจารย์ที่เข้าร่วมพิธีพุทธาภิเษก จำนวน ๑๕ รูป อาทิ หลวงปู่ประ วัดภูเขาดิน อายุ ๑๑๕ ปี, หลวงปู่พุ่ม สำนักสงฆ์เจดีย์ อายุ ๑๑๐ ปี, หลวงปู่เอื้อม วัดบางเนียน อายุ ๑๐๗ ปี, หลวงปู่ไข่ วัดลำนาว อายุ ๑๐๐ ปี, พ่อท่านนวล วัดไสหรา อายุ ๙๐ ปี, พ่อท่านชื่น วัดในปราบ อายุ ๘๘ ปี ฯลฯ
 
                นับได้ว่าวัตถุมงคลชุดนี้เพียบพร้อมไปด้วยพิธีกรรมทั้งพราหมณ์และพุทธ อีกทั้งยังเป็นงานมหาพุทธาภิเษกที่ยิ่งใหญ่มากพิธีหนึ่งในรอบปี ๒๕๕๕ เพราะเป็นการรวมพระเกจิอาจารย์ที่สูงอายุ และเชี่ยวชาญในไสยเวทย์รูปสำคัญๆ ของภาคใต้ ซึ่งเป็นที่รู้จักของคนทั้งประเทศ มาร่วมนั่งปรกปลุกเสกพร้อมกัน โอกาสเช่นนี้นับได้ว่าหาได้ยากยิ่ง
        
                นอกจากนี้หลังเสร็จสิ้นพิธีมหาพุทธาภิเษกแล้ว พ่อท่านอิ้นยังได้ทำพิธีปลุกเสกเดี่ยว อีกครั้งหนึ่งตามกรรมวิธีและตำราของท่าน จนถึงวันที่ ๖ เมษายน ๒๕๕๕ ตรงกับวันจักรี ก่อนที่จะนำออกให้ศรัทธาสาธุชนทำบุญบูชา
 
                รายการวัตถุมงคลประกอบด้วย ๑.พระบูชาพุทธสิหิงค์ปางชนะมารขนาด ๕ นิ้ว, ๒.พระบูชารูปเหมือนหลวงปู่อิ้น อุ้มบาตร ขนาด ๕ นิ้ว, ๓.พระบูชาพระแม่สุรัสวดีมหาเทวีแห่งปัญญาบารมี รูปยืนขนาด ๑๔ นิ้ว, ๔.เหรียญรูปเหมือนหลวงปู่อิ้น อุ้มบาตร,  ๕.รูปหล่อลอยองค์หลวงปู่อิ้น อุ้มบาตร, ๖.พระกริ่งใหญ่ ปภากโร นิรันตราย, ๗.พระชัยวัฒน์พุทธสิงหิงค์ ปางชนะมาร, ๘.พระรูปเหมือนเนื้อผง พิมพ์หยดน้ำ, ๙.พระผงรูปพระพุทธ พิมพ์กลีบบัว และ ๑๐.เหรียญพระแม่สุรัสวดี มหาเทวีแห่งปัญญาบารมี
 
                ปัจจุบันพ่อท่านอิ้นวัย ๙๔ ปี ยังคงปฏิบัติภารกิจของสงฆ์ตามพระวินัยอย่างเคร่งครัด เช่น การทำวัตรเช้าเย็นไม่เคยขาด การเจริญสมาธิภาวนา รวมไปถึงกิจกรรมในทางโลก เช่น การสงเคราะห์แก่พุทธศาสนิกชนทั่วไปอย่างมีเมตตาและเสมอภาค ไม่ว่าผู้นั้นจะเป็นชาวบ้านยากจนหรือคนร่ำรวยมาจากไหนก็ตาม ท่านจะกล่าวเสมอว่า “ทุกคนเมื่ออยู่ต่อหน้าท่านก็คือคนที่มีศักดิ์ศรีเท่าเทียมกันทุกคน”
 
                และคำพรที่ท่านมักจะกล่าวกับพุทธศาสนิกชนทุกคนที่ไปกราบท่าน และเมื่อจะลากลับ คือ “อยู่ให้ปลอดภัย ไปให้มีโชคลาภ”
 
                ศรัทธาสาธุชนสามารถร่วมทำบุญกับท่านได้โดยโอนเงินผ่านบัญชีธนาคารกรุงไทย สาขาสุราษฎร์ธานี เลขที่ ๘๐๗-๐-๖๓๑๘๗-๒ ชื่อบัญชี “พระอิ้น ปภากโร” หรือติดต่อบูชาวัตถุมงคลได้ที่วัดใหม่พัฒนา หมู่ ๔ ต.บ้านเสด็จ อ.เคียนซา จ.สุราษฏร์ธานี ๘๔๐๒๖๐ โทร.๐๘-๑๗๑๙-๐๑๒๓

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ