
"หมอบุญ"สนร่วมวงเช่ารถเมล์เอ็นจีวี ยอมรับห่วงต้องลงทุนสูง-เสี่ยงขสมก.ไม่มีเงินจ่าย
"โสภณ" พร้อมแจงครม.เช่ารถเมล์ 4 พันคัน "บุญ วนาสิน" รับสนใจลงทุน แต่ห่วงลงทุนสูงอาจไม่คุ้มค่า ชี้ภาพขสมก.ติดลบ บริหารงานไม่มีประสิทธิภาพ หวั่นไม่มีเงินจ่ายค่าเช่า เผยมีสนใจร่วมลงทุนด้วยกัน 4-5 กลุ่ม ด้านขสมก.ยันเอกชนไม่มีความเสี่ยง แผนปฏิบัติได้จริง
นายโสภณ ซารัมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยถึงโครงการเช่าและซ่อมแซมบำรุงรักษารถยนต์โดยสารปรับอากาศใช้ก๊าซธรรมชาติเหลวเป็นเชื้อเพลิง (เอ็นจีวี) 4,000 คัน ขององค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) ว่า กระทรวงคมนาคมมีหน้าที่ต้องทำความเข้าใจข้อสงสัยของคณะรัฐมนตรี (ครม.) ซึ่งอัตราค่าใช้จ่ายต่างๆ ที่เสนอไปเป็นการใช้ตัวเลขตามความเป็นจริงในปัจจุบัน และพร้อมจะปรับเปลี่ยนในสิ่งที่ตอบคำถามไม่ได้ แต่ต้องมีเหตุมีผล
นพ.บุญ วนาสิน ประธานกรรมการโรงพยาบาลปิยะเวท กล่าวว่า ได้รับการชักชวนให้เข้าร่วมโครงการเช่ารถโดยสารเอ็นจีวี โดยมีแผนจะร่วมมือกับผู้ประกอบการที่ประกอบรถในประเทศไม่ต่ำกว่า 7 ราย แต่จากการคำนวณแผนการลงทุนมีความเป็นห่วงว่าขสมก.จะนำเงินจากที่ใดมาจ่ายค่าเช่ารถ รวมค่าซ่อมในอัตราวันละ 4,780 บาทต่อคัน สิ่งที่กังวลอีกประเด็นหนึ่งคือความไม่มีประสิทธิภาพของ ขสมก. อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่าการลงทุนในช่วงนี้หาทุนยาก ในฐานะผู้ลงทุนต้องพิจารณาความเสี่ยงว่าจะคุ้มทุนหรือไม่ ซึ่งข้อเสียของโครงการนี้คือต้องลงทุนสูง ขณะที่การบริหารงานของ ขสมก. มีการเมืองแทรกแซง และผลการบริหารงานประสบปัญหาขาดทุน มีภาระหนี้สินมาก
นพ.บุญ กล่าวอีกว่า ส่วนที่มีข่าวว่าตนจะร่วมมือกับกลุ่มมิตซูบิชิ ยังไม่สามารถระบุได้ แต่มีนักลงทุน 4 -5 กลุ่มที่เข้าร่วมดำเนินการ มีเงื่อนไขว่าต้องร่วมมือกับบริษัทธนบุรีประกอบรถยนต์ ซึ่งเป็นผู้ประกอบการรายใหญ่ของไทย จึงจะมีศักยภาพที่จะดำเนินการได้ ตนจึงเป็นผู้ชักชวนมา ต้องร่วมมือกับอู่ประกอบรถในประเทศอีก 6-7 ราย เช่น บริษัทบ้านโป่ง
นายชัยรัตน์ สงวนชื่อ อธิบดีกรมการขนส่งทางบก ในฐานะรักษาการ ผู้อำนวยการ ขสมก. กล่าวว่า แผนการดำเนินงานที่ขสมก.เสนอไป มีความเป็นไปได้ในทางปฏิบัติ และประมาณการผู้โดยสารไว้ขั้นต่ำสุดหรือประมาณ 50% เท่ากับว่าเอกชนไม่มีความเสี่ยง แต่ยอมรับว่าภาพของ ขสมก.ขาดทุน จึงกระทบต่อความเชื่อมั่นในการลงทุน
นายอรรคพล สรสุชาติ รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี (พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์) กล่าวว่า ได้ถอดสูตรคำนวณการคิดค่าเช่าโครงการเช่ารถเมล์เอ็นจีวี 4,000 คัน ตามทีโออาร์ของคณะกรรมการทีโออาร์ (ขสมก.) วงเงิน 69,788 ล้านบาท เทียบกับมติครม.วันที่ 2 กันยายน 2551 ซึ่งวงเงินโครงการอยู่ที่ 66,021 ล้านบาท และข้อเสนอของคณะกรรมการพิเศษระดับรัฐมนตรี ที่ปรับลดวงเงินอยู่ที่ 62,598.33 ล้านบาท พบว่ามีความไม่สมเหตุสมผล และมีส่วนต่างเกิดขึ้นเป็นวงเงินประมาณ 5,000 ล้านบาท ซึ่งร่างทีโออาร์ที่เสนอครม. มีความผิดปกติ 3 ประเด็น ได้แก่ 1.ค่าซ่อมรถ 2.การคิดค่าบริหารจัดการโครงการ และ 3.การกำหนดดอกเบี้ยข้อเสนอของขสมก.



