พระเครื่อง

หลวงปู่มหาเจิมละสังขารพระป่าสาย'หลวงปู่มั่น'

หลวงปู่มหาเจิมละสังขารพระป่าสาย'หลวงปู่มั่น'

09 ก.ค. 2555

หลวงปู่มหาเจิมละสังขารปิดอีก ๑ ตำนาน พระป่าสาย "หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต" : เรื่อง / ภาพ โดย อริย์ธัช พรอัศวโยธิน (นครปฐม)

              เมื่อวันเสาร์ที่ ๒๓ มิถุนายน ๒๕๕๕ ที่โรงพยาบาลนครปฐม ได้แจ้งว่า พระครูภาวนาปัญญาดิลก หรือหลวงปู่มหาเจิม ปัญญาภโร วัย ๙๕ ปีเศษ เจ้าอาวาสวัดสระมงคล ต.สระสี่มุม อ.กำแพงแสน จ.นครปฐม ถึงแก่มรณภาพแล้ว หลังจากเข้ารักษาตัวมาเป็นเวลานานกว่า ๓ เดือน ด้วยโรคชรา เป็นอัมพฤกษ์ อัมพาต
   
              พระครูบวรธรรมสถิต รักษาการเจ้าอาวาส บอกว่า หลวงปู่เจิมมีอาการป่วยมาเป็นเวลานานกว่า ๓ ปีแล้ว โดยเป็นโรคเกี่ยวกับอัมพฤกษ์ อัมพาต ขยับตัวไม่ได้ ต้องนอนซมรักษาตัวระหว่างวัดกับโรงพยาบาลมาเป็นเวลานาน จนล่าสุดเมื่อประมาณ ๓ เดือนที่ผ่านมา อาการของหลวงปู่ไม่ดีขึ้นมีอาการทรุดตัวลง ทางวัดซึ่งมีเพียงพระลูกวัดไม่กี่รูปต้องผลัดกันดูแลหลวงปู่ และในที่สุดต้องนำหลวงปู่ส่งไปรักษาตัวที่ รพ.นครปฐม ซึ่งแพทย์ได้รับตัวไว้รักษาเป็นเวลากว่า ๓ เดือน และเห็นว่าอาการหลวงปู่เริ่มจะดีขึ้นจึงไม่คิดว่าจะมรณภาพ
   
              พระครูบวรธรรมสถิต รักษาการเจ้าอาวาสวัดสระมงคล กล่าวว่า หลวงปู่มหาเจิมนับเป็นพระเถราจารย์ชื่อดัง เป็นพระสายปฏิบัติลูกศิษย์หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต เริ่มมีอาการป่วยมานานกว่า ๓ ปีแล้ว เกี่ยวกับอัมพฤกษ์ อัมพาต ขยับตัวไม่ได้ ต้องนอนรักษาตัว เดินทางระหว่างวัดกับโรงพยาบาลมาเป็นเวลานาน  เมื่อประมาณ ๓ เดือนก่อนมรณภาพ หลวงปู่มีอาการไม่ค่อยดี ศิษยานุศิษย์ช่วยกันนำหลวงปู่ส่งโรงพยาบาลศูนย์นครปฐม เมื่อวันที่ ๑๓ มีนาคม ๒๕๕๕ ที่ผ่านมา แพทย์ได้รับไว้เป็นผู้ป่วยใน อาการป่วยดีขึ้นเป็นลำดับ
     
              จนถึงเมื่อวันเสาร์ที่ ๒๓ มิถุนายน ที่ผ่านมา เวลาประมาณ ๑๐.๔๕ น. หลวงปู่ก็ละสังขารลงอย่างสงบ ใบหน้าปกติเหมือนนอนหลับ และมีรอยยิ้มนิดๆ พระที่เฝ้าอยู่ยังไม่รู้หลวงปู่ละสังขารแล้ว แพทย์ลงความเห็นว่ามรณภาพด้วยอาการหัวใจล้มเหลว และได้รับออกจากโรงพยาบาลเมื่อเช้าวันอาทิตย์ที่ ๒๔ มิถุนายนนี้ นำกลับมาประกอบพิธีตามศาสนาที่วัด เปิดให้ศิษยานุศิษย์ได้สรงน้ำ ก่อนจะบรรจุโลงไม้สักทอง ๓ ชั้น
   
              ทั้งนี้วันอาทิตย์ที่ ๒๔ มิถุนายนที่ผ่านมา ทางวัดได้จัดให้มีพิธีสรงน้ำศพ และสวดพระอภิธรรมเป็นเวลา ๗ คืน เวลา ๒๐.๐๐ น. ณ ศาลาการเปรียญ หลังจากนั้นสวดทุกวันพระ จนกว่าจะพระราชทานเพลิง ทั้งนี้ได้กำหนดงานทำบุญครบรอบวันมรณภาพ ๕๐ วัน ในวันเสาร์ที่ ๑๑ สิงหาคม ๒๕๕๕ และกำหนดงานทำบุญครบรอบวันมรณภาพ ๑๐๐ วันและชาตกาลครบ ๘ รอบ ๙๖ ปีใน วันศุกร์ที่ ๑๒ ตุลาคม ๒๕๕๕ ส่วนงานพระราชทานเพลิงศพนั้นขณะนี้ยังไม่ได้มีกำหนดการใดๆ ทั้งนี้จะต้องหารือกับพระชั้นผู้ใหญ่และคณะลูกศิษย์อีกครั้ง
   
              สำหรับชาติภูมิของลวงปู่มหาเจิมนั้น เกิดเมื่อวันที่ ๑๒ ตุลาคม ๒๔๕๙ ปัจจุบัน สิริรวมอายุได้ ๙๕ ปี ๙ เดือน พรรษา ๗๔ เป็นชาวจ.ฉะเชิงเทรา นับเป็นพระเถราจารย์ชื่อดังอีกรูปหนึ่งในปัจจุบัน เป็นพระปฏิบัติกัมมัฏฐาน เป็นศิษย์พระอุบาลีคุณูปมาจารย์ (จันทร์ สิริจันโท) และหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต การศึกษาบาลีและนักธรรม ได้เริ่มศึกษาเมื่อปี ๒๔๗๑ หลวงปู่สอบบาลีไวยากรณ์ได้ที่ ๔ เมื่อปี พ.ศ. ๒๔๗๒ และในปี พ.ศ. ๒๔๗๗ สอบได้นักธรรมเอก และหลวงปู่ยังสามารถสอบได้เปรียญธรรม ๕ ประโยค ได้ในปีเดียวกัน
   
              หลวงปู่มหาเจิม เป็นพระผู้ปฏิบัติดี ปฏิบัติชอบ ในสายหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต สหธรรมิกของท่านที่เคยอยู่ร่วมกันมามีมากมายหลายท่าน เช่น หลวงปู่เทศก์ เทสรังษี วัดหินหมากเป้ง อ.ศรีเชียงใหม่ จ.หนองคาย หลวงปู่เหรียญ วรลาโภ วัดอรัญญบรรพต ต.บ้านหม้อ อ.ศรีเชียงใหม่ จ.หนองคาย หลวงปู่สิม พุทธาจาโร สำนักสงฆ์ถ้ำผาปล่อง อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ หลวงปู่เจี๊ยะ จุนโท วัดป่าภูริทัตตปฏิปทาราม อ.สามโคก จ.ปทุมธานี หลวงปู่มหาเนียม สุวโจ วัดเจริญสมณกิจ หรือวัดหลังศาล อ.เมือง จ.ภูเก็ต รวมทั้งหลวงปู่จันทร์แรม เขมสิริ วัดระหาร หรือ วัดเกาะแก้ว ธุดงคสถาน บ้านระหาร อ.บ้านด่าน จ.บุรีรัมย์ เป็นต้น
   
              หลวงปู่ท่านเป็นพระที่ชอบสันโดษไม่หวังลาภยศใดๆ มีลูกศิษย์มาถามท่านว่าทำไมท่านไม่เทศน์บ้าง ท่านตอบว่า "ธรรมมีมากมาย พระเทศน์เก่งๆ ก็มีเยอะ แต่คนเอาธรรมไปใช้มีน้อย มีลูกศิษย์ท่านหนึ่งขอธรรมะจากท่าน ท่านได้ให้ธรรมะสั้นๆ แต่ออกจากใจท่านแท้ๆ ท่านเขียนไว้ว่า ปล่อยว่าง วางเบา เอาหนัก ท่านบอกว่าใครทำได้ถึงตรงนี้พ้นทุกข์ได้แน่นอน"
   
              หัวข้อธรรมที่ท่านมักบอกกับลูกศิษย์เสมอๆ ว่า "ท่านไม่เคยมีความลังเลสงสัยในพระพุทธเจ้า ในพระธรรม ในพระอริยสงฆ์ ในมรรคผลนิพพาน ความสงสัยเหล่านั้นได้หมดไปจากใจของหลวงปู่อย่างสิ้นเชิง เพราะได้รู้ได้เห็นด้วยปัญญา ในการปฏิบัติภาวนาอย่างแจ่มแจ้งแล้วว่า พระพุทธเจ้ามีอยู่จริง พระธรรมเมื่อนำมาปฏิบัติแล้วได้รับผลจริง พระอริยสงฆ์สาวกของพระพุทธเจ้าเมื่อปฏิบัติตามพระธรรมของพระพุทธเจ้าแล้ว บรรลุธรรมเป็นพระอรหันต์จริง"



วัตถมงคลรุ่นแรกและรุ่นเดียว

   
              "เป็นพระอรหันต์ที่ยังดำรงขันธ์อยู่ในปัจจุบันนี้"
   
              เป็นคำกล่าวของพระธรรมวิสุทธิมงคล หรือ หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน อดีตเจ้าอาวาสวัดป่าเกษรศีลคุณ หรือ วัดป่าบ้านตาด อ.เมือง จ.อุดรธานี ที่ยกย่องหลวงปู่มหาเจิมเมื่อครั้งที่ท่านยังมีชีวิตอยู่
   
              ด้วยคำกล่าวข้างต้นจึงมีนักสร้างวัตถุมงคลทั้งที่เป็นลูกศิษย์ และวัดต่างๆ ได้ทำหนังสือขออนุญาตจัดสร้างนับร้อยราย แต่หลวงปู่มหาเจิม ท่านได้อนุญาตให้จัดสร้างวัตถุมงคลของท่านเป็นกรณีพิเศษ เมื่อเดือนตุลาคม ๒๕๔๙  เนื่องในงานวันเกิดครบ ๙๐ ปี โดยมีข้อแม้ว่า "อนุญาตให้จัดสร้างเพียงครั้งเดียว และครั้งสุดท้าย จากนั้นให้เลิกโดยเด็ดขาด" และนับเป็นครั้งแรกและครั้งเดียว ที่หลวงปู่ได้อนุญาตให้จัดสร้าง ประกอบด้วย พระยอดธง รูปเหมือนลอยองค์ เหรียญรูปไข่ เหรียญเสมา ล็อกเกต รูปเหมือนหลวงปู่ยืนถือไม้เท้า และพระปิดตาเนื้อผง
   
              วัตถุมงคลรุ่นนี้มีการตั้งชื่อรุ่นว่า "ปัญญาบารมี" ทั้งนี้เพื่อหาปัจจัยสร้างพิพิธภัณฑ์บริขารของท่าน โดยได้ประกอบพิธีพุทธาภิเษก ณ อุโบสถวัดสระมงคล โดยหลวงปู่พระมหาเจิม เป็นประธานจุดเทียนชัยอธิษฐานจิตภาวนาร่วมกับ พระเกจิคณาจารย์ดังสายกรรมฐานของวัดป่า อาทิ หลวงปู่พระมหาเจิม วัดสระมงคล จ.นครปฐม, หลวงปู่ท่อน วัดศรีอภัยวัน จ.เลย, หลวงปู่แผ้ว ปวโร วัดกำแพงแสน จ.นครปฐม,
   
              หลวงปู่จันทร์แรม เขมสิริ วัดเกาะแก้วธุดงคสถาน จ.บุรีรัมย์, หลวงปู่บุญเพ็ง กัปโป วัดป่าวิเวกธรรม จ.ขอนแก่น, หลวงปู่อ่อนสา สุขกาโร วัดประชาชุมพลพัฒนาราม จ.อุดรธานี, หลวงปู่เหรียญ วรลาโภ วัดอรัญบรรพต จ.หนองคาย, หลวงพ่อมาลัย อุทโย วัดบางหญ้าแพรก,ห ลวงพ่อสุพจน์ ฐิตพฺพโต วัดห้วงพัฒนา จ.ตราด และ หลวงปู่บุญหลาย อัคคจิตโต วัดโนนทรายทอง จ.อำนาจเจริญ