
นรก-อบายภูมิ : คำวัด
นรก-อบายภูมิ : คำวัด โดยพระธรรมกิตติวงศ์
วัดพืชอุดม สร้างขึ้นเมื่อราวๆ พ.ศ. ๒๔๑๗ ณ เลขที่ ๒๕ คลองสิบสองสายหกวา หมู่ ๙ ต.พืชอุดม อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี แต่เดิมมีชื่อว่า "วัดราษฎร์ศรัทธาราม” ปัจจุบันถือว่าเป็นสถานที่ท่องเที่ยว ที่มีชื่อเสียงของจังหวัดปทุมธานี เป็นที่รู้จักกันดีในเชิงธรรมทัศนศึกษาที่ได้รับความนิยมสูงสุด จากนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างประเทศ
จุดเด่นและจุดขาย รวมทั้งถือว่าเป็นวัดต้นแบบ คือ วัดพืชอุดมเป็นวัดเดียวของไทยที่ได้หยิบยก เน้นเอาเรื่องราวของพระปฐมสมโพธิ ตอนทรงทำยมกปาฏิหาริย์ เปิดโลกตลอดทั่วทั้งหมื่นจักรวาลขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระบรมศาสดา ซึ่งได้นำเอามาเทศน์สั่งสอนกันมากที่สุดและและเป็นตอนที่มีความสำคัญดีเยี่ยมที่สุดที่ได้ทรงแสดงไว้ในพระไตรปิฎก โดยได้สร้างวิหารพระเจ้าเปิดโลกเพื่อแสดงเรื่องราวเกี่ยวกับนรก-สวรรค์ ๓๑ ภูมิ เผยแพร่ให้สาธารณชนทั่วไปได้เที่ยวชมทัศนศึกษากันไม่เก็บค่าเข้าชมแต่อย่างใด เพื่อเป็นอนุสติเตือนใจให้คนละเว้นความชั่วมุ่งทำแต่ความดี ตามหลักการที่ว่า "ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว" ปลูกฝังคุณธรรมและให้ความรู้ในชาติกำเนิดภพภูมิต่างๆ รวมทั้งในด้านศิลปวัฒนธรรมทั้งทางคดีโลกและคดีธรรม
อย่างไรก็ตาม พระธรรมกิตติวงศ์ (ทองดี สุรเตโช ป.ธ.๙ ราชบัณฑิต) เจ้าอาวาสวัดราชโอสาราม ได้ให้ความหมายของคำว่า "นรก" ไว้ว่า ภูมิ หรือ ดินแดนที่ปราศจากความเจริญ หุบเหวแห่งความทุกข์
นรก เป็นภูมิที่เกิดของผู้ทีทำบาปกรรมไว้หลังจากตายไปแล้ว เป็นภูมิที่มีแต่ความทุกข์ทรมานหาความสุขมิได้ เป็นภูมิหนึ่งในจำนวนอบายภูมิ ๔ เรียกอีกอย่างหนึ่งว่า นรกภูมิ
นรก มีหลายชั้น ตามกรรมของผู้ทำ เช่น โลหกุมภีนรก หรื นรกหม้อทองแดง สิมพลีนรก หรือ นรกต้นงิ้ว เป็นต้น
เรียกการไปเกิดในนรกว่า ตกนรก
นอกจากนี้ยังมีอีกคำหนึ่งซึ่งใช้แทนคำว่านรก และมีความหมายเหมือนกัน คือ คำว่า นิรย เช่นใช้ว่า
นิรยภูมิ แปลว่า แผ่นดินนรก
นิรยบาล แปลว่า ผู้ดูแลนรก หรือ ผู้คุมนรก
ส่วนคำว่า “อบายภูมิ” (อะ-บาย-ยะ-ภูมิ) เจ้าคุณทองดีไดให้ความหมายไว้ว่า ภูมิหรือดินแดนที่ปราศจากความเจริญ หมายถึง ภูมิที่มีแต่ความทุกข์ทรมาน เป็นที่เกิดของผู้ทำบาปกรรมไวขณะมีชีวิตอยู่ ผลแห่งบาปกรรมนั้นจะส่งเขาไปเกิดในอบายภูมิหลังจากเขาตายไปแล้ว
อบายภูมิมี ๔ ระดับตามบาปกรรมของคน คือ
๑.นรก เป็นที่เกิดของคนที่มากด้วย โทสะ ชอบฆ่าฟัน ขอบทำร้ายผู้อื่น
๒.เปรต เป็นที่เกิดของคนที่มากด้วย โลภะ ชอบฉ้อโกง ลักขโมย และ เบียดบังทรัพย์
๓.อสุรกาย เป็นที่เกิดของคนที่มากด้วยโลภะ
๔.ดิรัจฉาน เป็นที่เกิดของคนที่มากด้วยโมหะ หลงงมงาย อกตัญญู และเห็นผิด