พระเครื่อง

พระยอดขุนพลสนิมแดงกรุวัดเสมาสามชั้นจ.เพชรบุรี

พระยอดขุนพลสนิมแดงกรุวัดเสมาสามชั้นจ.เพชรบุรี

28 มิ.ย. 2555

พระยอดขุนพลสนิมแดงกรุวัดเสมาสามชั้นจ.เพชรบุรี : สาระสังเขปพระเนื้อชิน โดยชาติ วิศิษฏ์สรอรรถ

           เพชรบุรี เป็นเมืองโบราณที่สำคัญเมืองหนึ่ง ตามหลักฐานทางด้านโบราณคดีที่พบในเมืองเพชรบุรี แสดงให้เห็นว่า เป็นเมืองแห่งประวัติศาสตร์ ที่มีความเป็นมาด้านอารยธรรมรุ่งเรืองอย่างยาวนาน ตั้งแต่สมัยทวารวดี ลพบุรี สุโขทัย อยุธยา เรื่อยมาจนถึงทุกวันนี้
    
               ในอดีต คนเมืองเพชรบุรี ก็คงไม่ต่างกับผู้คนในเมืองสำคัญอื่นๆ ในดินแดนประเทศไทย  ที่มีความศรัทธาเชื่อถือในพระพุทธศาสนาอย่างเปี่ยมล้น ดังจะเห็นว่า วัดวาอารามในเมืองเพชรบุรีมีอยู่อย่างมากมาย และเป็นแหล่งรวมงานศิลปกรรมล้ำค่า ของช่างฝีมือในอดีต ที่ได้สร้างสรรค์ผลงานเอาไว้เป็นมรดกตกทอดมาจนถึงปัจจุบัน
   
               พระกรุเมืองเพชรบุรี ที่รู้จักกันโดยทั่วไป คือ พระหูยาน กรุสมอพรือ พระนาคปรก พระเทริดขนนก กรุวัดค้างคาว พระร่วงนั่ง กรุวัดปากน้ำ พระกรุวัดศาลาลอย ศาลาลิง พระกรุสวนพริก พระยอดขุนพล พระกรุวัดกุฎีทอง พระซุ้มเสมาทิศ กรุวัดนก พระปรุหนัง กรุวัดรัตนตรัย และพระเทริดขนนก กรุวัดเสมาสามชั้น
    
               ในบรรดาพระกรุเก่า ที่เป็นหนึ่งของเมืองเพชรบุรี คือ พระยอดขุนพล กรุวัดเสมาสามชั้น สนิมแดง อันเป็นพระกรุที่งดงามทรงคุณค่า มีอายุกว่า ๗๐๐ ปี ขุดพบที่วัดเสมาสามชั้น ซึ่งเดิมเป็นวัดร้าง ปัจจุบันคือที่ตั้งของวิทยาลัยเทคนิคเพชรบุรี (เดิมชื่อ โรงเรียนการช่างชายเพชรบุรี)
      
               พระยอดขุนพล กรุวัดเสมาสามชั้น จ.เพชรบุรี แตกกรุออกมา ๒ ครั้ง ครั้งแรกในราว พ.ศ.๒๔๗๓ ครั้งที่ ๒ ประมาณ พ.ศ.๒๕๑๓ เกิดจากนักเรียนและภารโรง โรงเรียนการช่างชายเพชรบุรี ได้ช่วยกันทำความสะอาดพื้นที่ด้านหลังโรงเรียนซึ่งติดกับวัดร้าง (วัดเสมาสามชั้น) โดยจุดไฟเผาพงหญ้าแห้งซึ่งสุมกองเป็นเนินไว้ ไฟได้ลุกลามไปถึงเนินดินแห่งหนึ่งใกล้ๆ กัน แล้วไฟก็ดับมอดไปเฉยๆ ทั้งที่บนเนินดินนั้นมีหญ้าแห้ง และวัชพืชรกรุงรัง อันเป็นเชื้อไฟได้อย่างดี
   
               นักเรียนและภารโรงจึงเอากระดาษจุดไฟโยนใส่กองหญ้าอีก แต่ก็ไม่เป็นผล ไฟติดแค่ประเดี๋ยวเดียว ก็ดับมอดเหมือนเช่นเคย
    
               เมื่อเหตุการณ์เป็นเช่นนั้น บรรดาครู นักเรียนและภารโรง ต่างวิพากษ์วิจารณ์กันว่า ใต้พื้นดินแถวนี้คงจะมีของดีของขลังซุกซ่อนอยู่เป็นแน่แท้ จึงช่วยกันขุดคุ้ยเนินดินนั้นดู ปรากฏว่าขุดพบเศษอิฐเก่ามากมาย และเมื่อขุดลึกลงไปอีกประมาณ ๑ เมตรเศษ จึงได้พบอิฐโบราณขนาดใหญ่ปูเรียงไว้ แต่ไม่สามารถงัดแงะ หรือทุบทำลายให้แตกได้ ประจวบกับเวลานั้นใกล้มืดค่ำ ทั้งหมดจึงเลิกขุด โดยนัดกันว่า วันพรุ่งนี้ค่อยมาขุดกันต่อ
    
               ในตอนกลางคืนของวันนั้นเอง มีชาวบ้านคนหนึ่งซึ่งทราบข่าวจากเพื่อนภารโรง จึงชวนกันมาขุดต่อ และสามารถทำลายแผ่นอิฐโบราณขนาดใหญ่นั้นได้
   
               ปรากฏว่า ใต้แผ่นอิฐได้พบพระเครื่องเนื้อชินสนิมแดง ประมาณ ๒๐๐ องค์ ทั้งหมดเป็นพระศิลปะลพบุรี มี ๒ พิมพ์ คือ พิมพ์ที่มีองค์พระประทับนั่งในซุ้มเรือนแก้วเรียกกันว่า พระยอดขุนพล และอีกพิมพ์หนึ่ง พิมพ์ทรงองค์พระเหมือนกัน แต่ตัดปีกชิด จนเห็นแค่เพียงองค์พระ เรียกกันว่า พระเทริดขนนก
   
               คำว่า เทริด (อ่านว่า เซิด) หมายถึงเครื่องหมายวรรณสูง หรือความเป็นผู้มีศักดิ์สูง กล่าวกันง่ายๆ ว่า เป็นเครื่องประดับศีรษะของกษัตริย์ในสมัยโบราณ ส่วนสาเหตุที่นำคำนี้มาตั้งเป็นชื่อพระ ก็เพราะว่า เศียรพระคล้ายมงกุฎครอบ ประดับลวดลายเป็นกลีบๆ คล้ายขนนกเสียบไว้
   
               ข้อสังเกต พระเทริดขนนก เป็นพระแบบไม่มีปีก แบบพิมพ์และเนื้อหาเหมือนกับพระเทริดขนนก กรุวัดค้างคาว จ.เพชรบุรี มาก ซึ่ง พระเทริดขนนก กรุวัดค้างคาวนั้น แตกกรุก่อนกรุวัดเสมาสามชั้น  สมัยก่อนนักเลงพระมักเรียกกันว่า พระตะกั่วแดง วัดค้างคาว
   
               ข้อแตกต่างของพระทั้ง ๒ กรุนี้ คือ พระเทริดขนนก กรุวัดค้างคาวนั้น บริเวณด้านหน้าเทริดขนนกจะมีเฉพาะขนนกสามกลีบเท่านั้น แต่ของกรุวัดเสมาสามชั้น จะเพิ่มกลีบเล็กๆ เป็นเส้นโค้งอยู่ด้านหน้า เหนือกระจังอีกชั้นหนึ่ง ส่วนพุทธลักษณะอื่นๆ เหมือนกันทุกอย่าง
   
               พระเทริดขนนก กรุวัดเสมาสามชั้น มีขนาดกะทัดรัด กำลังแขวนใช้ คือ กว้าง ๒.๒ ซม. สูง ๓.๗ ซม. น้ำหนักประมาณ ๙.๒๐ กรัม ถือว่าไม่เล็กไม่ใหญ่จนเกินไป เป็นพระเนื้อชินตะกั่วสนิมแดง มีไขขาว และดินขี้กรุแบบบางๆ เกาะครอบคลุมผิวพระ
   
               พระเทริดขนนก เป็นพระศิลปะลพบุรี องค์พระประทับนั่งขัดสมาธิราบ ปางมารวิชัย บนฐานบัวเล็บช้าง ๓ กลีบ มีเส้นแซมเล็กๆ อีก ๒ กลีบ รวม ๕ กลีบ ลักษณะเป็นพระทรงเครื่อง คือ พระเศียรทรงเทริด ประดับมงกุฎแบบหมวกขนนก รอบพระศอประดับด้วยสังวาลห้อยระย้า ด้านหลังเป็นแอ่งเล็กน้อย และมีลายผ้าทั่วหลังองค์พระ
  
               อ.พงษ์ศักดิ์ ภู่อารีย์ ศิลปากรวรรณศิลป์ปู่ แห่งบริษัทอมรินทร์ฯ ผู้เขียนเข้าพบครั้งแรกก็ถูกสั่งสอนว่า “ห้ามโกหกและห้ามผิดนัด” จึงเป็นที่มาของฉายา "อาจารย์ปู่หกนัด" ได้กรุณาแต่งกลอนสดๆ โดยบรรยาย พระเทริดขนนก กรุวัดเสมาสามชั้น ไว้ว่า
  
               ประดับมงกุฎเทริดขนปักษ์  เทริดชี้นอกศักดิ์เอกลักษณ์กษัตริย์ทรงลพบุรี สังวาลศอลออรับขับศรีสง่าบารมี มารวิชัยสมาธิราบปราบมารลง งามทรงเครื่องเนื้อชินดั่งอินทร์วงศ์ สนิมทั่วองค์แดงรัดร้อยคอยป้องทุกผองภัย
   
               พระยอดขุนพล กรุวัดเสมาสามชั้น ที่มีการขุดพบพร้อมกันนั้น องค์พระจะมีขนาดใหญ่โตกว่า และมีจำนวนที่พบน้อยกว่าพระเทริดขนนก พระทั้ง ๒ พิมพ์ต่างกันที่มีซุ้มที่ครอบองค์พระเพิ่มมา ซุ้มมีลักษณะแบบ ๕ เหลี่ยมทรงกว้างที่ไม่สูงมากนัก มีลายกนกโค้งชนิดลายเส้นนูนใหญ่แบบลายกนกชั้นเดียวปรากฏตรงบริเวณช่วงหัวเสาทั้ง ๒ ข้าง และที่หัวเสายังมีลวดลายขีดเล็กๆ ๓ ขีด เป็นแนวนอนที่ด้านบนของหัวเสาทั้ง ๒  รองรับซุ้มแบบลงตัวให้สวยงามอลังการยิ่ง 
  
               นอกจากนี้ ยังมีการขุดพบ พระยอดขุนพล พิมพ์พิเศษ เพียงไม่กี่องค์เท่านั้นในกรุ ที่เป็นพิมพ์สุดแสนอลังการของการสร้างแต่โบราณมา ในรูปแบบซุ้มลวดลาย ๒ ชั้น คือ มีการเพิ่มต่อยอดอีกชั้นด้านบน ด้วยลวดลายเส้นเป็นแฉกๆ คล้ายรัศมี แลดูแล้ววิจิตรงดงามสมกับการเป็นพระที่อาจกล่าวได้ว่า เป็นพระในตำนานอีกองค์หนึ่งของวงการพระที่หายากมากๆ นั่นเอง
  
               สนนราคาเช่าหา พระเทริดขนนก กรุวัดเสมาสามชั้น องค์ที่มีสภาพสวยพอประมาณ เช่าหากันที่หลักแสนต้นๆ สภาพสวย พระเทหล่อติดชัดลึก พร้อมมีไขหนา ดินขี้กรุเดิมๆ ราคาอยู่ที่ ๒ แสนขึ้นไป ยิ่งพิมพ์ที่มีองค์พระประทับนั่งในซุ้มเรือนแก้ว แบบ พระยอดขุนพล ราคาจะทวีสูงขึ้นกว่านั้น