พระเครื่อง

จดหมายถึงชายที่ข่มขืนหญิง

จดหมายถึงชายที่ข่มขืนหญิง

18 มิ.ย. 2555

จดหมายถึงชายที่ข่มขืนหญิง : วิปัสสนาบนหน้าข่าว โดยพระชาย วรธัมโม

             ถึงชายที่ข่มขืนหญิง...
   
             คุณจะรู้บ้างไหมว่าหลังจากที่คุณได้ล่วงละเมิดทางเพศหญิงคนหนึ่งไปแล้ว หญิงคนนั้นต้องตกอยู่ในความทุกข์ทรมานเพียงใด เธอต้องทนอยู่กับความรู้สึกสูญเสียศักดิ์ศรีของความเป็นมนุษย์ ทนอยู่กับความรู้สึกไร้คุณค่าอย่างไม่เหลืออะไรอีกแล้ว บางคนต้องทนอยู่กับภาวะตกต่ำทางจิตอย่างสิ้นหวัง บางคนตกอยู่ในอาการช็อกหวาดผวานานนับปี มีอาการป่วยทางจิตและใช้เวลายาวนานกว่าอาการหวาดผวานั้นจะถูกบำบัดให้หายไป บางคนบุคลิกเปลี่ยนไป จากที่เคยร่าเริงก็กลายเป็นคนเงียบขรึมซึมเศร้า เป็นเรื่องยากที่แต่ละคนจะลืมประสบการณ์อันเลวร้ายนี้ไปได้ มันเป็นประสบการณ์ที่ยากจะเล่าให้ใครฟัง
   
             ที่แย่ไปกว่านั้นหญิงบางคนติดเชื้อเอชไอวีจากคุณ เธอต้องพบพานกับความทุกข์ทรมานซ้ำซ้อน เธอต้องอับอายที่ติดเชื้อเอชไอวี และถ้าเธอตั้งครรภ์ขึ้นมาก็ยิ่งกลายเป็นความทุกข์ยากเกินจะบรรยายที่จู่ๆ ก็มีอีกชีวิตหนึ่งมาร่วมชะตากรรมกับเธอทั้งๆ ที่เธอไม่ได้เตรียมตัวไว้ล่วงหน้า ผู้หญิงที่ถูกทำร้ายมีพ่อ มีแม่ มีพี่ มีน้องที่รักและเป็นห่วงเธอ คุณจะรู้ไหมว่าคุณไม่ได้ทำร้ายเธอแค่คนเดียว แต่คุณทำร้ายคนอื่นๆ อีกหลายคนที่อยู่รอบตัวเธอ กว่าความทุกข์ของพวกเขาจะจางคลายก็ใช้เวลาไม่น้อย
   
             บางคนพูดว่าอยากให้พี่สาว น้องสาว หรือลูกสาวของคุณถูกข่มขืนบ้าง คุณจะได้สำนึก แต่ในทางพุทธศาสนาบอกกับเราว่าในสังสารวัฏอันไม่มีเบื้องต้นไม่มีที่สุดนี้ ไม่มีใครที่ไม่เคยเป็นญาติพี่น้องกับเรามาก่อน เราทุกคนต่างเคยเป็นญาติพี่น้องกันมาทั้งสิ้น นั่นหมายความว่าแท้จริงแล้วบุคคลที่คุณข่มขืนก็คือพี่สาวน้องสาวของคุณนั่นเอง
   
             เรื่องไม่ได้จบเพียงเท่านี้ เมื่อคุณถูกจับได้ ก็ต้องถูกดำเนินคดี ชื่อเสียงและหน้าตาจะถูกเผยแพร่ไปยังโทรทัศน์ หนังสือพิมพ์ และอินเทอร์เน็ต คราวนี้ผลกระทบจะย้อนกลับมาหาคุณบ้าง ทั้งพ่อแม่และญาติพี่น้องของคุณต้องอับอายกับสิ่งที่คุณได้กระทำลงไป เมื่อต้องไปทำแผนประกอบคำสารภาพมีแต่คนรุมทำร้าย อนาคตของคุณต้องดับวูบเมื่อคุณต้องไปอยู่ในเรือนจำที่ขาดอิสรภาพ ในเรือนจำที่มีแต่คนที่มีความทุกข์มาอยู่รวมกัน ที่หลับที่นอนอึดอัดคับแคบ คราวนี้ความกดดันทางจิตจะเกิดกับคุณไม่ต่างกับที่คุณทำกับหญิงคนนั้น
   
             สิ่งที่คุณทำกับหญิงคนหนึ่งจะย้อนกลับมาหาคุณบ้าง เพียงเพราะ ‘อารมณ์ชั่ววูบ’ ที่คุณไม่ดูแลให้ดีทำให้เกิดเหตุการณ์ร้ายๆ กับตัวคุณ หากคุณมีสติสามารถดูแล ‘อารมณ์ชั่ววูบ’ ของคุณได้ คุณก็คงไม่ต้องมาประสบเคราะห์กรรมแบบนี้ คุณคงเห็นแล้วสินะว่าเมื่อคุณข่มขืนหญิงคนหนึ่งนั่นก็คือคุณกำลังข่มขืนตัวคุณเอง คุณทำร้ายคนอื่นก็คือคุณกำลังทำร้ายตัวคุณเอง
   
             คงจะดีกว่านี้หากคุณสามารถควบคุม "อารมณ์ชั่ววูบ" นั้นได้ คุณคงเห็นแล้วว่าเมื่อคุณล่วงละเมิดทางเพศผู้หญิงคนหนึ่ง คุณไม่ได้ล่วงละเมิดทางเพศแค่ผู้หญิงคนเดียว แต่คุณได้ล่วงละเมิดทางเพศคนทั้งสังคมเลยทีเดียว ความสงบสุขของสังคมต้องแตกกระจายออกเป็นเสี่ยงๆ ผลกระทบอันเลวร้ายใดๆ ที่คุณได้กระทำไว้จะย้อนกลับมาหาคุณเองในตอนจบ
   
             คุณรู้ไหมว่าบ่อยครั้งฉันเองรู้สึกละอายใจที่ประเทศไทยได้รับการยกย่องให้เป็นดินแดนแห่งพระพุทธศาสนา มีการจัดงานวิสาขบูชาโลกอย่างยิ่งใหญ่เป็นประจำทุกปี แต่เราจะเอาหน้าไปไว้ไหนหากมีคนลุกขึ้นมาบอกว่าที่เมืองพุทธแห่งนี้มีผู้หญิงถูกข่มขืนไม่เว้นแต่ละวัน ในประเทศที่ผู้ชายมีสิทธิ์ได้บวชเป็นพระภิกษุแต่กลับมีข่าวผู้หญิงถูกข่มขืนโดยผู้ชายในจำนวนที่น่าใจหาย ในหนังสือพิมพ์มีข่าวหญิงถูกข่มขืนสัปดาห์ละ ๒-๓ รายจนกลายเป็นเรื่องปกติ มันเป็นข้อมูลที่ไม่น่ายินดีเลย
   
             ฉันคิดว่าสถานการณ์อันเลวร้ายเหล่านี้สามารถเปลี่ยนแปลงได้หากคุณหันมาจัดการกับ ‘อารมณ์ชั่ววูบ’ ของคุณเองด้วยการหันมาเจริญเมตตาภาวนากับผู้หญิงให้มากขึ้น มองเห็นทุกข์ของผู้หญิงให้ชัดขึ้นว่าผู้หญิงต้องทุกข์อย่างแสนสาหัสอย่างไรบ้างจาก ‘อารมณ์ชั่ววูบ’ ที่คุณได้ทำลงไป พยายามมองเห็นผลกระทบที่เกิดขึ้นกับตัวเธอคุณก็จะเกิดเมตตา เมตตานั้นแหละจะสามารถเอาชนะกามราคะนั้นได้ เพราะเมตตาจะทำให้คุณเห็นผู้หญิงเป็นพี่น้องกับคุณมากขึ้น
   
             คุณจะรู้หรือไม่ว่าเพียงแค่คุณสามารถควบคุมกามราคะของคุณมิให้ล่วงละเมิดผู้อื่นด้วยการเจริญเมตตาภาวนา มองเห็นคนอื่นว่ามีทุกข์ไม่ต่างจากคุณ บุญกุศลมากมายมหาศาลจะเกิดกับคุณทันทีเพราะ ‘ด้านสว่าง’ ของคุณกำลังได้รับการพัฒนา ในขณะที่คุณก็ต้องต่อสู้กับ ‘ด้านมืด’ ในตัวเองซึ่งคุณก็ต้องใช้ความเพียร และเมื่อคุณทำได้ สังคมที่เราอยู่จะเกิดการเปลี่ยนแปลงมีความปลอดภัยกับหญิงทุกคนเพราะคุณมองเห็นทุกคนเป็นพี่น้องกัน
   
             ฉันไม่หวังจะเขียนสาปแช่งคุณหรอก เพราะฉันรู้ดีว่าคุณก็ติดอยู่ในวังวนของทะเลทุกข์แห่งสังสารวัฏนี้เหมือนกับคนอื่นๆ การสาปแช่งไม่ได้ช่วยให้สถานการณ์ดีขึ้น แต่การพูดให้เกิดความตระหนักรู้จะช่วยแก้ปัญหาได้ ฉันจึงหวังว่าจดหมายยาวๆ ฉบับนี้จะช่วยเหลือผู้ชายหลายๆ คนให้เกิดการ ‘ตื่นรู้’ จาก ‘อารมณ์ชั่ววูบ’ ของเขาเอง ขณะเดียวกันก็หวังว่ามันคงช่วยเหลือผู้หญิงอีกหลายๆ คนให้ปลอดภัยจาก ‘อารมณ์ชั่ววูบ’ ของผู้ชายอีกหลายๆ คนด้วยเช่นกัน

                                                                                                ขอให้คุณโชคดี 
                                                                                               พระชาย วรธัมโม
                                                                                          ภิกษุรูปหนึ่งในพุทธศาสนา
                      
             ‘จดหมายถึงชายที่ข่มขืนผู้หญิง’ มีที่มาจากข่าวหญิง ๒ คนถูกชายบุกเข้าไปข่มขืนเธอถึงในที่พัก สองเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นในกรุงเทพฯ เมื่อต้นเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ต่างสถานที่ แต่เกิดห่างกันเพียงไม่กี่วัน
   
             หญิงคนแรกพักอยู่ในห้องเช่าชั้นสอง เขตดินแดง ฝ่ายชายปีนขึ้นทางระเบียงเข้าทางประตูหลังแล้วบังคับข่มขืนเธอ ส่วนหญิงคนที่สองพักอยู่ในห้องเช่า เขตหนองจอก ฝ่ายชายปีนผ่านฝ้าเพดานห้องพักแล้วบุกเข้าขืนใจเธอ ที่น่าสลดใจก็คือหญิงคนแรกถูกข่มขืนและถูกฆาตกรรมในห้องของเธอเอง
   
             สิ่งที่สะดุดความนึกคิดของผู้เขียนก็คือ ความปลอดภัยของผู้หญิงอยู่ที่ไหน ทั้งๆ ที่เธออยู่ในที่พักของเธอเองอันเป็นที่ที่ปลอดภัยที่สุด ก็ยังมีคนบุกเข้าไปล่วงเกินและปลิดชีวิตเธอ ดูเหมือนไม่มีที่ไหนที่ปลอดภัยสำหรับผู้หญิงเลย ในพุทธศาสนาบอกว่า สตรีเป็นศัตรูของพรหมจรรย์ แต่เวลานี้สตรีกลายเป็นเหยื่อที่ถูกกระทำไปเสียแล้ว...