พระเครื่อง

เทพชุมนุม งานวันนัดพบของ...'คนมีองค์'

เทพชุมนุม งานวันนัดพบของ...'คนมีองค์'

05 มิ.ย. 2555

เทพชุมนุม งานวันนัดพบของ...'คนมีองค์' : โดย... เรื่อง ไตรเทพ ไกรงู/ภาพจาก www.thongthailand.com

                  คติความเชื่อเกี่ยวกับ "การเข้าทรง" และ "คนมีองค์" และ "ร่างทรง" นั้นเกี่ยวข้องกับคนไทยมาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน โดยคนส่วนใหญ่ก็รับได้ เพราะเป็นสิ่งที่คุ้นเคยดี โดยมีคติความเชื่อว่าคนมีองค์ หมายถึง คนที่สามารถสื่อจิตไปถึงสิ่งศักดิ์สิทธิ์ได้ หรือไม่ก็อาจจะเป็นคนที่ไม่มีองค์มาแต่กำเนิด แต่อาศัยการฝึกฝนจิต นั่งสมาธิ สวดมนต์บูชาต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์ จนสามารถสื่อจิตถึงเทพเจ้าได้ เมื่อคนมีองค์แล้ว ไม่หมั่นฝึกจิต สวดมนต์ นั่งสมาธิ การรับรู้สื่อจิตไปถึงองค์ก็จะค่อยๆหายไป กลับมาเป็นคนที่ ไม่มีองค์ ไปในที่สุด...

                  ในขณะที่ร่างทรง คือ คนที่ตั้งตนเป็นใหญ่เหนือสามัญชนทั่วๆ ไป ด้วยการแสดงอิทธิฤทธิ์ เช่น อมควันธูป เดินลุยไฟ เหยียบหนาม เสกของ จัดสร้างวัตถุมงคลระดับต่ำ ทำนายทายทัก รักษาโรค ทำไสยศาสตร์ เล่นของดำ โดยส่วนใหญ่มักจะแอบอ้างพระนามของเทพเจ้าในศาสนาพราหมณ์-ฮินดู เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือและทำให้ดูยิ่งใหญ่เหนือมนุษย์

                  อย่างไรก็ตามในโอกาสชาตกาล ๑๐๐ ปี พระมงคลสิทธิการ หรือ หลวงพ่อพูล อัตตะรักโข อดีตเจ้าอาวาสวัดไผ่ล้อม เมื่อวันศุกร์ที่ ๑ มิถุนายน ๒๕๕๕ ที่วัดไผ่ล้อม  ต.พระปฐมเจดีย์ อ.เมือง จ.นครปฐม ได้จัดให้มีพิธีบูชาครูบูรพาจารย์  ชุมนุมเทพ บูชาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ เพื่อรวมพลังแรงศรัทธา ท่ามกลางดวงจิตแห่งความกตัญญูกตเวที

                  สำหรับพิธีการจัดชุมนุมองค์เทพ นับเป็นบรรยากาศการรวมตัวกันของกลุ่มคนผู้ศรัทธา มีร่างทรงและคนมีองค์มาร่วมชุมนุมกว่า ๑,๐๐๐ คน ที่มาด้วยชุดหลากสีสันตามองค์เทพที่มาประทับร่าง ส่วนใหญ่จะเป็นชุดแบบอินเดีย ชุดไทยโบราณ ชุดจีน ชุดไทย รวมทั้งชุดพื้นเมือง สุดแล้วแต่จะอยู่ที่จินตนาของใคร มีทั้งที่มาเดี่ยวและเป็นหมู่คณะห้อมล้อมด้วยหมู่ลูกศิษย์นับร้อย ในกรณีร่างทรงกรมหลวงชุมพรฯ มีสารวัตรทหารเรือ ๔ คนมาคอยอำนวยความสะดวกคล้ายกับองครักษ์

                  บรรยากาศภายในวัดตกแต่งซุ้มงดงามด้วยดอกไม้หลากสีสัน เติมเต็มมนต์ขลัง กลิ่นธูปควันเทียน ขับขานบูชาด้วยจังหวะดนตรี และบทสวดแบบอินเดีย เนรมิตสถานที่ ให้เป็นสถานแห่งเทพอันศักดิ์สิทธิ์ เป็นประเพณีแห่งความเชื่อ และศรัทธาในร่างทรงและองค์เทพ

                  ทั้งนี้ "คมชัดลึก" ได้รวบรวมรายเทพที่มางานกว่า ๑,๐๐๐ ร่าง เช่น ๑.พระลักษมีมาตา พ่อจ้าวทุ่ง (แม่หนอมสุพรรณ) ๒.แม่ย่าโขนสุโขทัย บางแพ ๓.พ่อนารายน์ แม่ลักษมี(พ่อกุมารเนื้อทอง) ปราณบุรี ๔.ปู่สมิงนารายน์ ตะโกสูง ๕.พ่อเอกาทศรถ หุบกระพง ๖.เจ้าพี่เอกชัย มาลัยแก้ว กาญจนบุรี ๗.เสด็จพี่พลายชุมพล พระงาม ๒ ๘.เสด็จพ่อปิยะ บางเลน ๙.พ่อเจ้าหลวงกาวิละ ณ เชียงใหม่ ๑๐.เสด็จพ่อจุลทิพวรรณ เจ้าพ่อกวนอู กำแพงเหนือ ๑๑.ปู่ศรีเทพ บ้านโพธิ์คู่ ๑๒.สมิงขาว บ้านดอนชะเอม และ ๑๓.อากงไถ่เซียงเหล่ากุง ดอนเสลา บ้านโป่ง เป็นต้น

                  พระครูปลัดสิทธิวัฒน์ หรือ หลวงพี่น้ำฝน เจ้าอาวาสวัดไผ่ล้อม อธิบายให้ฟังว่า ในทางพระพุทธศาสนา ก่อนพระพุทธศักราช พระศาสนาของตถาคต องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ก่อนที่ท่านจะเสด็จดับขันธ์เข้าสู่พระปรินิพพาน ได้ตรัสถามพระอานนท์ว่าในศาสนาของตถาคต รวมทั้งหมด ๕,๐๐๐ ปี ใครจะมาทำหน้าที่อะไรบ้าง พระอานนท์กราบทูลว่า ขอให้พระภิกษุสงฆ์ สามเณร ภิกษุณี นางชีพราหมณ์ อุบาสก อุบาสิกา เป็นผู้ดูแลและบำรุงพระศาสนา กึ่งหนึ่งเป็นเวลา ๒,๕๐๐ ปี พระพุทธเจ้าท่านทรงอนุญาต แล้วทรงถามต่อไปอีกว่า ใครจะขออะไรบ้าง ปวงเทพทั้งหลาย มีพระอินทร์ พระพรหม พระยม พระกาฬ และเหล่าเทวดาอารักษ์ทั้งหลาย จึงพร้อมใจกันกราบทูลขอให้ปวงเทพได้ดูแล และบำรุงพระพุทธศาสนาต่อไป

                  ส่วนอีกครึ่งหนึ่งของพระอานนท์ คือ เป็นเวลาอีก ๑,๒๕๐ ปี ให้พวกเราดูแลจนเสื่อมลงไปจนหมดพอดี ๕,๐๐๐ปี ตามที่พระพุทธฎีกาได้กำหนดไว้ พอปี ๒,๕๐๐ เป็นต้นไป จึงเป็นหน้าที่ของปวงเทพทั้งหลาย ที่จะดูแลบำรุงศาสนาต่อไป จึงเป็นที่มาว่า ร่างทรงในปัจจุบันจึงมีมากมาย ซึ่งองค์เทพเป็นเพียงอากาศธาตุ มีเพียงธาตุลม ดังนั้นจึงต้องอาศัยมนุษย์ซึ่งมีธาตุทั้ง ๔ คือ ดิน น้ำ ลม ไฟ มาประทับร่างเพื่อติดต่อกับมนุษย์ได้จุดประสงค์เพื่อจะดูแลและบำรุง

                  "องค์เทพแต่ละองค์ มีความประสงค์ลงมาสร้างบารมี ช่วยมนุษย์ บำรุงพระศาสนา ท่านจึงต้องเลือกร่างทรงที่มีคุณสมบัติและความดีงาม มีจิตใจเป็นกุศล เพื่อท่านจะได้ลงมาโปรดมนุษย์ได้ ท่านจะเลือกคนดี มีบารมีเท่านั้น องค์พรหม ท่านจะเลือกร่างทรงที่ปฏิบัติ เคร่งในศีล มีบารมีมากๆ ยึดมั่นในคุณธรรม เช่น พรหมวิหาร ๔ มี เมตตา กรุณา มุทิตา อุเบกขา พระพรหมจะช่วยมนุษย์ในการประทานพร รักษาโรค ในกรณีคนที่ถูกทักว่า "มีองค์" อย่าเพิ่งไปหลงเชื่อหลงดีใจ เพราะคนมีองค์ไม่ใช่ว่ามีได้ง่ายๆ บุญกุศลไม่ถึงพอก็ไม่สามารถมีได้เลยตลอดชีวิตนี้ ที่สำคัญ คือ คนมีองค์ ไม่จำเป็นต้องเป็น ร่างทรง ในขณะที่ร่างทรงอาจจะไม่มีองค์เลยก็ได้ (ผู้ที่เข้าข่ายหลอกลวง)" หลวงพี่น้ำฝนกล่าว

มติของศาสนาพราหมณ์-ฮินดู

                  มติขององค์กรทางศาสนาฮินดูเกี่ยวกับเรื่อง "การเข้าทรง" โดย : ศรีหริทาส (อาจารย์คมกฤช มหาวิทยาลัยศิลปากร) เนื่องจากว่า หลายท่านสงสัยเรื่องการทรงเจ้า มันจะจริงเท็จอย่างไร โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การทรงเจ้าที่มีการอ้างถึงเทพเจ้าต่างๆ ในศาสนาฮินดู ผมซึ่งได้ทำงานรับใช้องค์ศาสนาฮินดูบ้างตามวาระโอกาส และได้มีโอกาสสอบถามพูดคุยกับท่านพราหมณ์ อาจารย์ผู้รู้ต่างๆ ที่ได้สังกัดในองค์กรทางศาสนาฮินดูอย่างถูกต้อง จึงได้นำมติของท่านเหล่านี้มาเผยแพร่ให้ทราบกัน 

                  องค์กรทางศาสนาฮินดูในประเทศไทย องค์กรหลักคือเทวสถานโบสถ์พราหมณ์ และของชาวอินเดีย ได้แก่ สมาคมฮินดูสมาช (วัดเทพมณเฑียร), สมาคมฮินดูธรรมสภา (วัดวิษณุ) วัดพระศรีมหาอุมาเทวี (วัดแขกสีลม) รวมทั้งองค์กรอื่นๆ ที่ไม่ใช่องค์กรหลัก คือ อารยสมาช องค์กรทั้งหมดถือว่า ท่านพระราชครูวามเทพมุนี ประธานพราหมณ์ฝ่ายไทย เป็นประมุขขององค์กรศาสนาฮินดูทั้งหมด 

                   ในเรื่องการทรงเจ้า ท่านพระราชครูวามเทพฯ ได้มีมติในเรื่องนี้ ซึ่งท่านปรารภไว้ในคำนำของหนังสือทางโบสถ์พราหมณ์ไว้ว่า "ความมั่นคง โดยไม่มีความงมงาย ซึ่งคนส่วนใหญ่มักจะคิดว่าองค์เทพเจ้าเป็นภาวะ อาจบันดาลสิ่งที่ผิดปกติ หรือเนรมิตสิ่งที่ปรารถนาโดยไม่มีการสร้างคุณงามความดีเป็นที่ประจักษ์ และยังมีการแอบอ้างกล่าวถึงองค์เทพต่างๆ ว่าตนนั้นมีภาวะอย่างนั้นอย่างนี้เทียบเท่าองค์เทพเจ้า สิ่งต่างๆเหล่านี้ไม่อยู่ในแนวทางเพื่อความหลุดพ้น พราหมณ์ผู้ประพฤติปฏิบัติและประกอบพิธีเองก็ไม่เคยกล่าวอ้างหรือแอบแฝงองค์เทพต่างๆ แต่ได้ปฏิบัติต่อองค์เทพด้วยความนอบน้อมและเกรงกลัวต่อบาป...." 

                  "พิธีการจัดชุมนุมองค์เทพ นับเป็นบรรยากาศการรวมตัวกันของกลุ่มคนผู้ศรัทธา มีร่างทรงและคนมีองค์มาร่วมชุมนุมกว่า ๑,๐๐๐ คน ที่มาด้วยชุดหลากสีสันตามองค์เทพที่มาประทับร่าง ส่วนใหญ่จะเป็นชุดแบบอินเดีย ชุดไทยโบราณ ชุดจีน ชุดไทย รวมทั้งชุดพื้นเมือง สุดแล้วแต่จะอยู่ที่จิตนาของใคร มีทั้งที่มาเดี่ยวและเป็นหมู่คณะห้อมล้อมด้วยหมู่ลูกศิษย์นับร้อย"

....................................
(เทพชุมนุม งานวันนัดพบของ...'คนมีองค์' : โดย... เรื่อง ไตรเทพ ไกรงู/ภาพจาก  www.thongthailand.com)