พระเครื่อง

ทับหลังหลวงพ่อฉาย๑เดียวแห่งสยาม

ทับหลังหลวงพ่อฉาย๑เดียวแห่งสยาม

04 พ.ค. 2555

ทับหลังหลวงพ่อฉาย๑เดียวแห่งสยามประเทศที่ชัยนาท : ท่องไปในแดนธรรม โดยเรื่อง ไตรเทพ ไกรงู / ภาพ กุลพันธ์ ศิริพิมพ์อัมพร

             ทับหลัง คือ ลวดลายที่ทำประดับไว้บนหลังตู้ หรือ ท่อนหินรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้าที่สลักเป็นลวดลายต่าง ๆ ประดับอยู่เหนือประตูเข้าปราสาทหิน นอกจากนี้ยังใช้เรียกตัวไม้ที่อยู่ตอนบนหน้าต่างหรือประตูหลังกรอบเช็ดหน้า ใช้บังคับปลายเดือยบานแผละหน้าต่างหรือประตูว่า ทับหลังหน้าต่าง หรือ ทับหลังประตู
 
             ส่วนทับอันเป็นที่รู้จักของคนไทยทั้งประเทศ คือ ทับหลังนารายณ์บรรทมสินธุ์เป็นทับหลังที่ปราสาทหินพนมรุ้ง นับเป็นโบราณวัตถุที่มีชื่อเสียงมากที่สุด ที่ถูกโจรกรรมไป เมื่อราว พ.ศ.๒๕๐๓ และถูกนำไปจัดแสดงอยู่ที่สถาบันศิลปะชิคาโก ประเทศสหรัฐอเมริกา แต่ในที่สุดชาวไทยก็ได้ทับหลังชิ้นนี้คืนมา ทันวันพิธีเปิดอุทยานประวัติศาสตร์พนมรุ้งพอดี เมื่อ พ.ศ.๒๕๓๑
 
             อย่างไรก็ตามยังมี "ทับหลัง" อีกชิ้นหนึ่ง แม้จะไม่เป็นที่รู้จักของคนทั่วๆ ไปนัก แต่สถานที่ประดิษฐานทับหลังชิ้นดังกล่าวกลับมีความพิเศษและแตกต่างจากชิ้นอื่นๆ อย่างสินเชิง ด้วยเหตุผลที่ว่า "ทับหลังชิ้นประดิษฐานอยู่บริเวณด้านหลังหลวงพ่อฉาย" พระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ของ วัดพระแก้ว ต.แพรกศรีราชา อ.สรรคบุรี จ.ชัยนาท
  
             พระครูรัตนวิสุทธิธรรม เจ้าอาวาสวัดพระแก้ว บอกว่า มีหลวงพ่อฉาย เป็นพระพุทธรูปศิลาแลงสีแดง สันนิษฐานว่ามีอายุประมาณ ๘๐๐ ปี ด้านหลังองค์หลวงพ่อฉายมี "ทับหลัง" แกะสลักติดอยู่เป็นพระอินทร์ทรงช้างเอราวรรณอยู่ในซุ้มเรือนแก้ว ส่วนบนสุดเป็นรูปพระอินทร์หรือพระศิวะกำลังหลั่งน้ำมนต์มีทางน้ำมนต์ไหลถึงตัวช้างที่นอนหงายบนแท่น สันนิษฐานว่าเมื่อขอมเสื่อมอำนาจลง คงจะมีผู้นำวัตถุโบราณชิ้นนี้มาจากซุ้มประตูเทวาลัยแห่งใดแห่งหนึ่งในอาณาจักรขอม และได้นำมาแกะเป็นพระพุทธรูป แต่ได้หงายเศียรช้างเอางวงขึ้นด้านบน ทั้งนี้อาจจะเป็นการทิ้งปริศนาธรรมของคนโบราณที่ว่า
 
             "ผู้ใดต้องการความสำเร็จสูงสุดดังเช่นพระสัมมาสัทพุทธเจ้า จะต้องรู้จักฝึกหัดปฏิบัติตนทวนกระแสแห่งกิเลส คือ ความโลภ ความโกรธ และความหลง"
 
             อย่างไรก็ตาม เดิมที่นั้นหลวงพ่อฉาย ในสภาพชำรุดหักเป็น ๓ ท่อน อยู่ในป่าแฝก ทั้งนี้พระสมุห์โปร่งอดีตเจ้าอาวาสได้พบจึงจัดทำฐานไว้ชั่วคราว และต่อมา พ.ศ.๒๔๙๘ ได้บูรณะซ่อมแซมให้สมบูรณ์ดังเช่นในปัจจุบันและประดิษฐานอยู่ในวิหารหน้าเจดีย์วัดพระแก้ว
 
             นอกจากนี้แล้วบริเวณด้านหลังวิหารมีองค์เจดีย์  ลักษณะเป็นเจดีย์แบบศิลปะละโว้ทรงสูง ผสมกับทวารวดีตอนปลาย ฐานเรือนธาตุแบบลดท้องไม้ ซึ่งเป็นศิลปะสมัยสุโขทัย และศรีวิชัยผสมผสานกัน ซึ่งมีความสวยงามแปลกตา จนมีผู้กล่าวว่า "เป็นเจดีย์ที่สมบูรณ์และงดงามที่สุดในประเทศไทย เป็นราชินีแห่งเจดีย์ในเอเซียอาคเนย์"
 
             ส่วนที่มาของชื่อวัดพระแก้วนั้น พระครูรัตนวิสุทธิธรรม บอกว่า แต่เดิมชื่อวัดป่าแก้ว เป็นสถานที่ปฏิบัติธรรมของคณะสงฆ์ฝ่ายอรัญวาสีหรือวิปัสสนาธุระ ต่อมามีคนพบพระพุทธรูปเล็กเท่าปลายนิ้วมือจากในเจดีย์สร้างจากแก้วมีหลากสี ส่องแสงเป็นประกายเมื่อต้องแสงไฟ จึงเรียกติดปากกันมาว่า วัดพระแก้ว โดยไม่มีประวัติการสร้างที่ชัดเจนว่าสร้างเมื่อปีใด แต่มาเริ่มบูรณปฏิสังขรณ์ใหม่ประมาณ พ.ศ.๒๔๕๐
 
             วิหารหลวงพ่อฉาย วัดพระแก้ว เปิดให้ประชาชนได้กราบไหว้ขอพรทุกวัน พุทธศาสนิกชนสอบถามเส้นทางไปวัดได้ที่ โทร.๐๕๖-๔๒๔-๔๖๒ และ ๐๘-๙๕๑๓-๒๕๖๒


ส.พยากรณ์ศาสตร์จัดพิธีครอบครู

             ฤกษ์งามยามมงคลประจำเดือนพฤษภาคม วันที่ ๕  ตรงกับวันเสาร์ เรียกว่า “วันเสาร์ ๕” คือ ตรงกับวันเสาร์ที่ ๕ พฤษภาคม และตรงกับวันฉัตรมงคล ถือว่าเป็นวันมหามงคลวันสำคัญของปวงชนชาวไทย และเป็นวันพระ ขึ้น ๑๕ ค่ำ เป็นวันที่โลกมนุษย์ สวรรค์ และบาดาลพิภพเปิดถึงกัน ซึ่งเป็นวันที่ท้าวจตุโลกบาลทั้ง ๔ เสด็จมายังโลกมนุษย์ เพื่ออนุโมทนาในบุญกุศลแห่งสาธุชนที่ได้ประกอบกุศลวัตรและคุณงามความดี
 
             ประกอบกับในวันที่ ๕ พฤษภาคม ปีนี้ ตรงกับปีพุทธศักราช ๒๕๕๕ ปีมะโรง ปีพญานาค เป็นมงคลปีที่บรรดาเหล่านาคจะได้มาอนุโมทนาในบุญวิถีของท่านทั้งหลาย และตรงกับปีมังกรของชาวจีน ซึ่งเป็นปีที่ยิ่งใหญ่ เป็นสัตว์เทพเจ้าที่เป็นมหามงคล เป็นสุดยอดดวงฤกษ์มหามงคล ดาวพฤหัสบดีได้ตำแหน่งราชาโชค ดาวอาทิตย์ ได้ตำแหน่งมหาอุจจ์ ดาวจันทร์ได้ตำแหน่งจุลจักร ถือเป็นฤกษ์ดี “จันทร์คุรุสุริยา” ฤกษ์ชนะมาร ชนะคน เกิดมงคลแก่ชะตาชีวิต  อย่างไรก็ตามในมหามงคลวันเสาร์ ๕ ประจำปีพุทธศักราช ๒๕๕๕ นี้วัดบัวขวัญ พระอารามหลวง จ.นนทบุรี และ สถาบันพยากรณ์ศาสตร์ โดย อ.ลักษณ์ เรขานิเทศ เจ้าของฉายา "โหรฟันธง" จัดงานเพื่อให้เกิดความเป็นสิริมงคล มีพิธีการไหว้ครูครอบครู เพื่อให้เกิดความเป็นสิริมงคลที่ยิ่งใหญ่ แก่บรรดาศิษย์โหราศาสตร์ ของสถาบันพยากรณ์ศาสตร์ และประชาชนทั่วไปที่ต้องการความเป็นสิริมงคล โดยมีครู เผด็จพัฒน์ พลับกระสงค์ ที่สืบทอดการครอบครูจาก อาจารย์อาคม ฉายาคม ได้รับครอบครูจากองค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จะมาเป็นประธานครอบครู ทั้งครูโหร ครูโขน ครูช่าง และพราหมณ์ ตั้งแต่เวลา ๐๘.๐๙ น. เป็นต้นไป
 
             นอกจากนี้แล้วเวลา ๑๕.๐๐ น. จะมีพิธีเจริญพระพุทธมนต์ สมโภชพระพุทธรูปประจำวันเกิด ๙ พระองค์ สถาบันพยากรณ์ศาสตร์เป็นเจ้าภาพเททองหล่อเมื่อปลายปีพุทธศักราช ๒๕๕๓ ณ วัดไผ่เงินโชตนาราม สร้างเพื่ออุทิศถวายให้ดวงวิญญาณเด็กทารก ๒๐๐๒ ศพ บัดนี้พระพุทธรูปสำเร็จเสร็จสิ้นแล้ว เรียนเชิญสาธุชนร่วมพิธีสมโภชพระพุทธรูป ๙ พระองค์ดังกล่าว