พระเครื่อง

พระกริ่ง'พุทธคุณรักษาโรคร้าย'

พระกริ่ง'พุทธคุณรักษาโรคร้าย'

24 เม.ย. 2555

พระกริ่ง'พุทธคุณรักษาโรคร้าย' : พระองค์ครู โดยเรื่อง ไตรเทพ ไกรงู / ภาพ กุลพันธ์ ศิริพิมพ์อัมพร

              "อโรคยา ปรมาลาภา" หมายถึง "ความไม่มีโรคเป็นลาภอันประเสริฐ" สัจธรรมข้อนี้ผู้คนทั่วไปคงได้ยินกันอยู่บ่อยๆ ปัจจุบันนี้ หากเจ็บไข้ได้ป่วยก็ไปคลินิกไปโรงพยาบาล แต่ถ้าเป็นในอดีต การแพทย์ไม่เจริญเท่าทุกวันนี้พระและวัดจึงเป็นที่พึ่งทุกๆ เรื่อง รวมทั้งเรื่องการรักษาโรคด้วย และแม้ว่า ปัจจุบันนี้การแพทย์จะเจริญเพียงใด บทบาทของพระรักษาโรคก็ไม่ได้ลดน้อยลง ขณะเดียวกัน ความเชื่อเรื่อง พุทธคุณพระเครื่องรักษาโรคก็ยังอยู่กับสังคมไทยอย่างเหนียวแน่น
 
              ประวัติการสร้าง"พระกริ่ง" เริ่มขึ้นที่ประเทศทิเบต และจีน จึงเรียกติดปากว่า พระกริ่งทิเบตและพระกริ่งหนองแส พระกริ่งเป็นพระพุทธเจ้าปางมาช่วยโปรดสัตว์โลกหรือเรียกกันว่า "พระไภสัชคุรุ" เป็นพระพุทธเจ้าปางหนึ่งของลัทธิมหายานซึ่งหมายความว่า ทรงเป็นครูในด้านเภสัช คือ การรักษาพยาบาล ต่อมาได้แพร่หลายมาก นิยมสร้างในเขมรเรียกว่า พระกริ่งอุบาเก็ง หรือพระกริ่งพนมบาเก็ง และพระกริ่งพระปทุมสุริยวงศ์
 
              ตามความเชื่อโบราณาจารย์จึงนิยมนำพระกริ่งอธิษฐานแช่น้ำทำเป็นน้ำพระพุทธมนต์แล้วดื่มกินด้วยความเชื่อว่า จะรักษาโรคภัยไข้เจ็บได้ นอกจากนี้ ยังมีพุทธานุภาพช่วยขจัดอันตรายทั้งหลายทั้งปวง เดินทางแคล้วคลาดปลอดภัย ต่างๆ อธิษฐานปรารถนาโชคลาภสิ่งใดย่อมจะสำเร็จดังมโนรถทุกประการ
 
              ด้วยเหตุนี้ จึงนิยมสร้างรูปจำลองของพระพุทธองค์ขึ้นมา โดยมีการบรรจุเม็ดกริ่งเป็นเม็ดโลหะเล็กๆ ไว้ภายในองค์พระ เพื่อที่จะเขย่าให้เกิดเสียงดัง เวลาสวดมนต์ขอพรจากพระพุทธองค์จะทรงได้ยินและเสด็จลงมาช่วยขจัดปัดเป่าทุกข์ให้ พระกริ่งมี ๓ ขนาดคือขนาดใหญ่ สำหรับบูชาประจำบ้าน ขนาดเล็ก สำหรับทำน้ำมนต์และบูชาห้อยติดตัว ขนาดจิ๋วสำหรับบูชาติดตัว นิยมเรียกว่า พระชัยหรือพระชัยวัฒน์ (ไม่บรรจุกริ่งเพราะมีขนาดจิ๋ว)
 
              พระกริ่งนิยมสร้างด้วยนวโลหะ หรือโลหะทั้ง ๙ ชนิด คือ ทองคำ เงิน ทองแดง พลวง ดีบุก สังกะสี ชิน ปรอท เจ้าน้ำเงิน ตามตำราของโบราณาจารย์ที่นับถือว่าเป็นโลหะศักดิ์สิทธิ์ เชื่อว่าเมื่อโลหะทั้ง ๙ รวมตัวกันแล้วจะเกิดพุทธคุณสรรพคุณทางยาโดยนำพระกริ่งมาแช่ในน้ำสะอาด ๑ ชั่วยาม (๔ ชั่วโมง) จึงจะออกฤทธิ์ ต้องวางพระกริ่งไว้ในน้ำที่สงบนิ่ง ห้ามสะเทือนแล้วนำมาอธิษฐานดื่มกินหรืออาบ ฉะนั้น พระกริ่งจึงมีพระพุทธคุณความขลังความศักดิ์สิทธิ์ และสรรพคุณทางโลหะโอสถที่ได้จากนวโลหะอันศักดิ์สิทธิ์
 
              สำหรับพระที่มีชื่อเสียงทรงคุณวิเศษหลายประการมีผู้นิยมนับถือกันมาก ยิ่งในปัจจุบันนี้ยิ่งหายาก ต้องยกให้พระกริ่งวัดสุทัศนฯ เพราะสมเด็จพระสังฆราช (แพ) ทรงสร้างไว้จำนวนไม่มาก สาเหตุที่ทรงสร้างพระกริ่งนั้น เนื่องจากเมื่อครั้งที่ สมเด็จพระวันรัต (แดง) พระอุปัชฌาย์อาพาธเป็นอหิวาตกโรค สมเด็จพระมหาสมณเจ้ากรมพระยาปวเรศวริยาลงกรณ์ ซึ่งเป็นพระอุปัชฌาย์ของพระองค์ทรงเคยรักษาผู้ป่วยเป็นอหิวาตกโรคให้หายได้ ด้วยการอาราธนาพระกริ่งลงในน้ำ ทำเป็นน้ำพระพุทธมนต์ แล้วโปรดให้น้ำนั้นแก่ผู้ป่วยดื่ม ปรากฏว่า หายอย่างน่าอัศจรรย์