พระเครื่อง

เฉิน ปากน้ำ‘มีเงินล้านขณะอายุไม่ถึง๒๐ปี’

เฉิน ปากน้ำ‘มีเงินล้านขณะอายุไม่ถึง๒๐ปี’

22 เม.ย. 2555

‘มีเงินล้านขณะอายุไม่ถึง๒๐ ปี’เฉิน ปากน้ำ (ภูมิศักดิ์ ดำรงกิตติกุล) : เส้นทางนักพระเครื่อง โดย ตาล ตันหยง

           เส้นทางเดินของนักพระเครื่อง แต่ละคนที่ผ่านมามีความหลากหลายแตกต่างกันไป สุดแต่ว่าบุคคลผู้นั้นมีพื้นฐานอยู่ในสถานะเช่นใด บางคนมีเส้นทางเดินที่ราบรื่น ในขณะที่หลายคนมีเส้นทางที่เต็มไปด้วยปัญหา มีอุปสรรคนานัปการ แต่เมื่อถึงจุดหนึ่งที่ได้ประสบความสำเร็จในชีวิตแล้ว ล้วนแต่มีความสุขที่เหมือนๆ กัน ขณะเดียวกันก็มีฐานะความเป็นอยู่ที่เพียบพร้อมสมบูรณ์ในทุกด้าน แต่จะดำรงสถานะเช่นนี้ไปได้ตลอดชีวิตหรือไม่ ก็อยู่ที่พฤติกรรมของตัวเอง หากเป็นคนดีมีคุณธรรม ซื่อสัตย์ สุจริตต่อตนเองและผู้อื่น ก็ย่อมได้รับคำสรรเสริญยกย่อง และความเคารพนับถือจากสังคมวงการพระตลอดไป
      
             เส้นทางนักพระเครื่อง วันนี้ขอนำเสนอเรื่องราวของ เฉิน ปากน้ำ (ภูมิศักดิ์ ดำรงกิตติกุล) ผู้ประสบความสำเร็จบนเส้นทางสายนี้อีกคนหนึ่งที่น่าสนใจยิ่ง
      
             เฉิน ปากน้ำ เป็นชาว จ.สมุทรปราการ สมัยเด็กเรียนหนังสือที่วัดด่านสำโรง วัดที่มีพระเกจิอาจารย์ชื่อดังในอดีต คือ หลวงพ่อแย้ม เจ้าของพระปิดตาเนื้อผงคลุกรักอันโด่งดัง และได้รับการยกย่องให้เป็นพระปิดตายอดนิยมพิมพ์หนึ่งของวงการพระเครื่องเมืองไทย
      
             เมื่อจบชั้นมัธยมศึกษาแล้ว ‘เฉิน’ ได้ไปเรียนต่อที่วิทยาลัยพณิชยการบางนา จนจบชั้น ปวช. ขณะเรียนชั้น ปวส. ได้เพียงเทอมเดียวก็ออกมาเปิดร้านซื้อขายพระทันที
      
             “ผมเริ่มสนใจพระเครื่องตั้งแต่สมัยเรียน ม.๓ เพราะที่บ้านเป็นร้านขายหนังสือพิมพ์และนิตยสารต่างๆ วันหนึ่งได้อ่านหนังสือพระเครื่องฉบับหนึ่งก็เกิดความสนใจ ที่ร้านมีหนังสือพระเครื่องหลายหัว ผมจะอ่านจนหมดทุกฉบับ ทำให้อยากรู้อยากเห็นพระเครื่องของพระเกจิอาจารย์ต่างๆ มาก จึงไปหาซื้อตามแผงพระแถวที่บ้าน เพราะไม่มีประสบการณ์มาก่อน พระส่วนใหญ่ที่ได้จึงเป็นพระปลอมมากกว่า ต่อมามีคนขับรถให้ผู้ใหญ่คนหนึ่งเอาพระผงของขวัญหลวงพ่อสด วัดปากน้ำ รุ่น ๔ (หลังตัว ภ) มาขายให้องค์ละ ๑,๐๐๐ บาท ยืนยันว่าเป็นพระแท้ ผมจึงซื้อไว้แล้วเอาไปขายต่อคนในสนามพระ ได้เงินถึง ๑ หมื่นบาท ทำให้รู้ว่าพระแท้ขายได้มีกำไร จุดประกายให้ผมอยากซื้อขายพระขึ้นมาอีก จึงหาตำราพระต่างๆ มาศึกษาอย่างจริงจัง พร้อมกับเข้าสนามพระบนห้างดังย่านสำโรง โดยซื้อพระจากเซียนที่เชื่อถือได้ และมีการรับประกันให้ด้วย ช่วงที่เรียนพาณิชย์ (ปวช.) ผมซื้อขายพระทุกวัน โดยเฉพาะพระวัดปากน้ำ รุ่น ๔ ที่กำลังดัง ทำให้ได้เงินมากขึ้นเรื่อยๆ ต่อมาได้ขยับชั้นเล่นพระวัดปากน้ำ รุ่น ๒-๓ และรุ่น ๑ พระบางองค์ที่ได้มาผมจะเอาไปขายให้ ‘พี่ปี๊บ’ ที่สนามท่าพระจันทร์ พี่เขาเก่งพระวัดปากน้ำ และมักจะสอนให้ผมดูพระสายนี้เสมอ ถือได้ว่า ‘พี่ปี๊บ’ เป็นอาจารย์คนแรกของผม” เฉิน ปากน้ำ เล่าถึงความเป็นมาของตัวเอง
     
             ช่วงนั้นจิตใจของ ‘เฉิน’ ไม่ได้อยู่ที่การเรียนหนังสือเลย เพราะรู้สึกว่าธุรกิจซื้อขายพระได้เงินง่าย จึงแอบไปเปิดตู้พระบนศูนย์พระเครื่องห้างอิมพีเรียล สำโรง โดยไม่ให้ทางบ้านรู้ ตอนเช้าแต่งตัวเหมือนจะไปเรียนหนังสือ แต่กลับไปที่ตู้พระตลอดทั้งวัน จนนานวันเข้าทางวิทยาลัยมีจดหมายไปสอบทางบ้านว่า ‘เฉิน’ หายไปไหนถึงไม่ไปเรียนหนังสือ ในที่สุดทางบ้านก็รู้ความจริง
     
             เหตุการณ์ครั้งนั้น ‘เฉิน’ เล่าว่า “ทุกคนในบ้านโกรธผมมาก ไม่ยอมพูดกับผมนานเป็นปี แต่ผมก็ไม่เดือดร้อน เพราะไม่ได้ขอเงินทางบ้านใช้จ่ายอยู่แล้ว ผมมีรายได้จากการซื้อขายพระมากพอสมควร ช่วงนั้นผมเรียนหนังสือชั้น ปวส.ได้เพียงเทอมเดียวก็เลยลาออกมาทำธุรกิจซื้อขายพระอย่างเต็มตัว จนมีเงินเก็บเป็นล้าน ขณะอายุยังไม่ถึง ๒๐ ปี”
      
             จากการที่ได้ซื้อขายพระบ่อยๆ ทำให้เกิดทักษะในการดูพระแท้ได้แม่นขึ้น สิ่งแรกที่ต้องจดจำคือ พิมพ์ทรง ต่อมาคือ เนื้อพระ อายุความเก่า และที่สำคัญคือ ต้องหาโอกาสดูพระแท้องค์จริงให้ได้ เมื่อได้พระมาแต่ละองค์ ‘เฉิน’ บอกว่าจะส่องดูอย่างละเอียดทุกซอกมุม เป็นเวลานานๆ นานเท่าไรก็ยิ่งดีเท่านั้น
      
             ครั้งหนึ่ง ‘เฉิน’ ได้ซื้อพระสมเด็จ วัดระฆัง องค์หนึ่งด้วยความรู้พื้นฐานที่มีอยู่ ทำให้มั่นใจว่าพระองค์นี้แท้แน่ จึงซื้อไว้ในราคาไม่มากนัก เมื่อเอาไปขายให้เซียนใหญ่ ปรากฏว่าเขาซื้อ ได้เงินหลายแสนบาท แสดงว่าเป็นพระแท้ หากเซียนใหญ่ไม่ซื้อแสดงว่าเป็นพระปลอม ตรงจุดนี้ทำให้ ‘เฉิน’ ภูมิใจมาก เพราะเท่ากับว่าเขาสอบผ่านการดู พระสมเด็จ วัดระฆัง ได้แล้วในระดับหนึ่ง
     
             ต่อมา ‘เฉิน’ ได้รู้จักกับ เปี้ย ท่าพระจันทร์ ผู้ชำนาญพระชุดเบญจภาคี ก็ได้เมตตาแนะนำวิธีดูพระสมเด็จและพระเนื้อผงยอดนิยมพิมพ์ต่างๆ ให้แก่ ‘เฉิน’ ถือได้ว่าเป็นอาจารย์อีกคนหนึ่งที่ ‘เฉิน’ ให้ความเคารพนับถือมาก
     
             รวมทั้ง โกเนี้ยว สำโรง (มงคล เมฆมานะ) เซียนพระอาวุโส ชาวสำโรงด้วยกัน ได้สอนให้ ‘เฉิน’ ดูพระหลักยอดนิยมต่างๆ ในทุกแง่มุม เมื่อได้พระอะไรดีๆ ก็จะนำไปขายให้ ‘โกเนี้ยว’ ก่อนเสมอ ความผูกพันกันตรงนี้ ทำให้ ‘เฉิน’ มีโอกาสได้เล่นพระหน้ากว้างขึ้นเรื่อยๆ ขณะเดียวกันก็มีลูกค้ามากขึ้นด้วย
     
             “เพราะผู้ใหญ่ให้โอกาสผม เมตตาผม ทำให้ทุกวันนี้ผมแกร่งขึ้นกว่าแต่ก่อนมาก จึงได้เปิดการซื้อขายพระทางเว็บไซต์ขึ้น มีลูกค้าจากทั่วประเทศสั่งซื้อพระของผมเป็นประจำ รวมทั้งจากต่างประเทศก็มี โดยผมได้เน้นขายแต่พระสวย พระแท้ และดูง่ายเป็นหลัก พระทุกองค์ที่ขายออกไป ผมรับประกันให้ด้วย หากมีปัญหาหรือไม่ชอบใจจะรับคืนทันที ขณะเดียวกัน ก็มีคนเอาพระมาขายผม โดยรู้จากสื่อสิ่งพิมพ์ หรือทางเว็บไซต์ รวมทั้งการบอกกล่าวปากต่อปาก ผมจะรับซื้อพระด้วยราคาที่เป็นธรรม ผมเป็นคนซื้อพระง่าย ไม่จุกจิก เมื่อพอใจในเรื่องราคาด้วยกันทั้ง ๒ ฝ่ายก็ตกลงซื้อขายกันทันที เพราะถ้าเราเอาเปรียบคนขายมากๆ ต่อไปเขาจะไม่เอาพระมาขายเราอีก” เฉิน กล่าวในตอนหนึ่ง
      
             วงการพระทุกวันนี้ ‘เฉิน’ เห็นว่า มีคนรุ่นใหม่เข้ามาสนใจสะสมพระกันมากขึ้น โดยเฉพาะพระเกจิอาจารย์ เพราะมีหลักการดูได้ง่ายกว่าพระกรุพระเก่า มีข้อยุติ พระใหม่ส่วนใหญ่มีการตอกโค้ด มีหมายเลขกำกับ มีจุดสังเกตที่สำคัญๆ ให้พิจารณามากมาย หากเป็นเหรียญหรือรูปเหมือนปั๊ม สามารถดูที่รอยตัดขอบได้อีกด้วย
      
             อย่างไรก็ตาม สำหรับพระกรุพระเก่า ก็ยังมีการซื้อขายกันอยู่เหมือนกัน ไม่ได้หายเงียบไปเสียทีเดียว ในหมู่นักสะสมพระรุ่นเก่า ยังชอบในพุทธศิลป์ของพระเก่าอยู่เหมือนเดิม เพียงแต่ว่าทุกวันนี้ขาดผู้ชำนาญการดูพระเก่าน้อยลงไปมาก
      
             “ผมมองว่า อนาคตวงการพระจะเติบโตยิ่งกว่านี้ ถ้าหากการซื้อขายพระมีมาตรฐานมากขึ้น และทุกคนมีคุณธรรม ไม่มุ่งหน้าหาแต่ผลประโยชน์ หรือหลอกขายพระปลอมให้ลูกค้า ซึ่งส่วนใหญ่ยังดูพระไม่ค่อยเป็น ที่เขากล้าซื้อก็เพราะความเชื่อถือในตัวคนขาย หากคนขายพระขาดคุณธรรม หลอกขายพระปลอมให้เขาไม่กี่ครั้ง เขาก็เข็ดขยาด และเลิกซื้อพระไปเลย ตรงนี้อันตรายต่อวงการพระมาก ผมถึงได้บอกกล่าวเสมอว่า วงการพระนั้นเข้ามาง่าย แต่การจะยืนอยู่อย่างมั่นคงตลอดไปนั้นยาก หากขาดความรับผิดชอบ หรือขาดคุณธรรม เพียงอย่างเดียวก็จบ” เฉิน กล่าว
      
             ‘เฉิน’ เป็นคนที่ชอบสะสมภาพพระเครื่องมาก รวมทั้งหนังสือตำราพระแท้ เพื่อเอาไว้ศึกษาพิมพ์ทรงองค์พระต่างๆ แล้วจดจำให้แม่นยำ เมื่อได้พบเห็นพระองค์จริงก็สามารถพิจารณาได้ในระดับหนึ่งว่า พระองค์นั้นแท้หรือปลอม หากได้เรียนรู้เรื่องเนื้อพระและได้ดูเนื้อพระแท้บ่อยๆ ก็จะช่วยให้การเรียนรู้ดูพระเป็นได้เร็วขึ้นด้วย สำหรับ ‘เฉิน’ สามารถดูพระได้ทุกหน้า โดยเฉพาะพระวัดปากน้ำ แม่นเป็นพิเศษ
     
             ทุกวันนี้ ‘เฉิน’ มีร้านพระอยู่ที่ชั้น ๓ ห้างเซ็นทรัลบางนา, ชมรมพระเครื่องมรดกไทย ชั้น ๓ ห้างพันธุ์ทิพย์ งามวงศ์วาน และที่เว็บ thaprachan.com