
'สร้างคนเริ่มที่ใจไม่ใช่กระดาษ'วจีหลวงปู่สาคร
'สร้างคนเริ่มที่ใจไม่ใช่กระดาษ'หลวงปู่สาคร ธมฺมาวุโธ พึ่งตนพึ่งธรรม : มนสิกุล โอวาทเภสัชช์ เรื่อง ฐานิส สุดโต ภาพ
"สมัยนี้ คนมีต้นทุนความเป็นมนุษย์น้อย มีแต่ใบประกาศ มีแต่กระดาษ กระดาษก็เลยไม่มีค่า เพราะคนไม่มีค่า ดังนั้นจะต้องเปลี่ยนวิธีการคิดใหม่ เอาคนรุ่นใหม่มาศึกษากติกาสังคม ดูอย่าง ส.ส., ส.ว. ทั้งหลายนั้น มีค่าของคนสัก ๓ เปอร์เซ็นต์ไหม ส.ส.ในสภา ๖๐๐ คน มีคนที่มีค่าสักกี่เปอร์เซนต์ คนที่เห็นค่าของคน ส่วนมากไม่เห็นค่าของกระดาษ โครงการนี้ได้เท่าไหร่ ยกมือแล้วได้เท่าไหร่ แบ่งค่ากันไป ต้องวิ่งล็อบบี้กันแล้ว สุดท้ายก็เอาทรัพยากรโลกไปแบ่งกันเอง พอแบ่งกันไปกันมา บัดนี้ทรัพยากรของส่วนกลางไม่มี หมด เพราะไปแบ่งกันเอง ฉะนั้น ต้องเปลี่ยนพันธุกรรมของคนใหม่ ให้มีกติกาสังคมเป็นตัวตั้ง มีความละอาย มีความเกรงกลัวต่อบาป"
ปิดเทอมนี้ หลวงปู่สาคร ธมฺมาวุโธ ประธานสงฆ์วัดป่ามณีกาญจน์ อ.บางกรวย จ.นนทบุรี หนึ่งในบูรพาจารย์ ลูกศิษย์หลวงปู่ฝั้น อาจาโร ได้จัดทำโครงการ "เปลี่ยนพันธุกรรมของคนใหม่" ขึ้น หลังจากโครงการหนึ่งบวกหนึ่งเป็นสาม (๑+๑ เป็น ๓) ซึ่งเป็นโครงการที่ปลูกฝังคุณธรรมให้แก่เด็กประสบผลสำเร็จมากในช่วงหลายปีที่ผ่านมา
หลวงปู่สาครอธิบายว่า ต้องให้เด็กรุ่นใหม่มีนิสัยเรื่องศีล ๕ มีหิริโอตตัปปะ เมื่อเขาโตขึ้นไปประกอบอาชีพอะไร หากมีศีล มีสมาธิ มีปัญญา เป็นฐานทางใจแล้ว เขาจะดูแลตัวเองเป็นและดูแลคนอื่นได้ด้วย สิ่งที่พระพี่เลี้ยงสอน คือให้นิสัยนี่แหละ
"อย่างโครงการหนึ่งบวกหนึ่งเป็นสามก็มาจากว่า พอเด็กเข้ามาปฏิบัติบวชเรียน แม่ก็ต้องมาดู พ่อก็ต้องมาคอยดู เพราะเด็กเล็กอยู่ พ่อแม่ก็จะได้เรียนรู้นิสัยลูกด้วยว่าเขาเป็นอย่างไร เมื่อมาวัดก็เลยได้ปฏิบัติธรรมกันทั้งครอบครัว บางทีพ่อแม่ไม่เข้าใจลูก เขาอยากเป็นตัวของตัวเอง อยู่บ้านชอบบังคับเขาให้เป็นอย่างใจพ่อแม่ วันหนึ่ง พ่อมากางเต็นท์ให้ลูกชาย แต่ลูกไม่ไปนอนในเต็นท์ ไปนอนให้ยุงกัดประชดพ่อ อันนี้พอพ่อเห็นพฤติกรรมก็ต้องกลับมาถามตัวเองว่าเราทำอะไรผิดไป ก็เกิดการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรม ไม่ใช่แค่ลูก แต่เปลี่ยนพ่อแม่ด้วย จึงเป็นโครงการหนึ่งบวกหนึ่งเป็นสาม การเลี้ยงลูก ต้องเลี้ยงเขาให้โตทีละนิด ไม่รู้สึกตัวว่าถูกสอน เขามาอยู่วัดมีเพื่อนมาก ให้เขาหัดล้างถ้วยล้างจาน ซักผ้าเอง ทำอะไรเองหมด เขาจะรู้คุณค่าของทุกอย่าง"
โครงการเปลี่ยนพันธุกรรมของคนใหม่ในปิดเทอมนี้ เริ่มต้นตั้งแต่วันที่ ๑ เมษายน ๒๕๕๕ ไม่ต้องสมัคร ปิดเทอมแล้วไปได้เลย รับเด็กตั้งแต่อายุสี่ขวบทั้งหญิงและชาย
หลวงปู่บอกว่า หลายคนคิดว่า เด็กจะปฏิบัติธรรมได้ไหม ไม่ต้องห่วง เด็กอายุ ๔ ขวบปฏิบัติได้ดีกว่าคนโตอีก
"มีแต่พ่อแม่นั่นแหละ ทำไม่ได้ เด็กๆ ทำได้หมด อายุสี่ขวบ เดินจงกรมได้ นั่งสมาธิได้ รู้จักอารมณ์ตัวเอง การสร้างนิสัย เราจะไปทำทีเดียวไม่ได้ เราค่อยๆ ทำ เราจะให้อะไรใครก็ตาม ต้องให้แบบไม่รู้สึกตัว อาตมาอยู่ที่นี่ ๙ ปี มีคนมาปฏิบัติเป็นหมื่นในแต่ละปี บางคนมีปัญหาทางครอบครัว บางคนมีปัญหาทางเศรษฐกิจ บางคนจะลงไปว่ายน้ำเจ้าพระยาแล้วก็มี มีตั้งแต่จบหมอ ไปจนถึงคนที่ไม่ได้จบอะไรจะจมน้ำอยู่แล้ว เราก็เอามาช่วยกัน เป็นการลงทุนโดยไม่รู้สึกตัว
"ถ้าเราไม่สร้างคน คุณสมบัติของคนก็เหลือน้อยลงไปๆ ในที่สุดก็หมดคนดี มีแต่คนชั่วครองเมืองเสียแล้วบัดนั้น เราจึงต้องมีวิธีการคิดเปลี่ยนแปลงสังคม ต้องกลับมาพัฒนาด้านจิตใจของคน ไม่ใช่ไปพัฒนากระดาษ"
หรือให้เด็กเรียนกับแท็บเล็ตอย่างทุกวันนี้ ต่อไป คนรุ่นใหม่ของประเทศไทยจะเป็นอย่างไร โปรดตรองดู
ลูกแม่ต้องหัดยอมและยิ้ม
อริยา ลิ่มสกุล ชาวจังหวัดสงขลา แต่งงานกับวิชา ลิ่มสกุล ชาวมาเลเซีย จึงย้ายไปอยู่ที่นั่นกับสามี ทั้งคู่มีลูกสาวสองคน คนเล็กคือ น.ส.พิชชาภา ลิ่มสกุล หรือน้องเจอร์รี่ ได้มาปฏิบัติธรรมกับหลวงปู่สาครที่วัดป่ามณีกาญจน์มาหลายปีแล้ว เล่าว่า ก่อนหน้านี้ ลูกสาวก็เป็นเด็กดี แต่ช่วงหนึ่ง ทางโรงเรียนเห็นว่าเจอร์รี่เป็นเด็กเรียบร้อยก็ให้ไปช่วยเพื่อนที่ครอบครัวแตกแยกหน่อย
"ปรากฏว่าเจอร์รี่ ไปรับกิริยา มารยาทของเพื่อนที่ก้าวร้าวมาหมดเลย กับพี่สาวก็ทะเลาะกัน ไม่ได้อะไรก็กระฟัดกระเฟียด เราก็สังเกต ลูกไม่เคยเป็นอย่างนี้ เราเลี้ยงมากับมือ แต่ทำไมเปลี่ยนไป ก็ไปถามครู ครูก็บอกว่า สงสัยที่ให้เจอร์รี่ไปช่วยเพื่อน ก็เลยเอานิสัยเพื่อนมา เราก็เสียใจ ตอนนั้นได้ดูรายการธรรมะบันดาลใจ ผ่านดาวเทียม WBTV ที่มีคุณบัณฑิต ปิ่นมงคลกุล ดำเนินรายการ สัมภาษณ์หลวงปู่สาคร เลยโทรศัพท์มาที่วัด คุยกับพระ ครูบาบอย พระก็บอกว่า เอาลูกมาที่วัดเลย เราก็ถามว่า ต้องเตรียมอะไรมาบ้าง พระบอกว่าไม่ต้องเอาอะไรมา ตอนนั้นลูกเรียนอยู่ที่ปีนัง ประเทศมาเลเซีย ก็ให้ลูกนั่งรถเข้ามาหาดใหญ่ แล้วมากันทั้งครอบครัว
"โครงการ๑+๑ได้ ๓ เป็นโครงการที่ทะลุเป้ามาก ดึงให้เรามาทั้งพ่อแม่ลูก พอเจอร์รี่มาปฏิบัติ สองสามวันแรกรับไม่ได้ ยังดื้ออยู่ แต่พอผ่านไปวันที่สี่ พระอาจารย์อำนวย เจ้าอาวาสวัดป่ามณีกาญจน์ ท่านก็เล่าเรื่องแม่ว่า รักลูกขนาดไหน แม่ต้องอุ้มท้องลูกตั้ง ๙ เดือน กว่าที่ลูกจะคลอดออกมา แล้วยังอุ้มชูเรากว่าจะเดินได้ ต้องป้อนข้าวป้อนน้ำอีกเท่าไหร่ เล่าจนเจอร์รี่ร้องไห้ แม่ก็ร้องไห้ ครูบาก็ร้องไห้ พระอาจารย์ให้คาถากับเจอร์รี่สองคำ คือ ยอม และยิ้ม กับแม่ เจอร์รี่ทำได้ อยู่ไปหลายวันก็เปลี่ยนไป กลับไปเป็นเด็กดี มากไปกว่านั้น คือเราได้มาทำบุญ มาปฏิบัติธรรมกันทั้งครอบครัวอย่างต่อเนื่อง เจอร์รี่เองก็ได้กลับมาปฏิบัติอยู่ยาวอีกหลายเดือนต่อเนื่องในช่วงก่อนที่หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน จะละสังขาร ก็รู้สึกว่า เป็นบุญกุศลมาก เราทั้งครอบครัวคงไม่ออกไปนอกเส้นทางนี้กันอีกแล้ว"
คุณพ่อคุณแม่ที่สนใจให้ลูกสาวและลูกชายเข้าโครงการเปลี่ยนพันธุกรรมใหม่ปิดเทอมนี้ สอบถามรายละเอียดได้ที่วัดป่ามณีกาญจน์ จ.นนทบุรี โทร.๐-๒๔๔๙-๒๒๓๔
www.watpamaneekarn.com