พระผู้นำบุญสร้าง'พุทธอุทยานนครสวรรค์' | คมชัดลึก

             "พุทธอุทยานนครสวรรค์" ตั้งอยู่หมู่ ๖ ต.นครสวรรค์ออก อ.เมือง จ.นครสวรรค์ เป็นชื่อที่สมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ (ช่วง วรปุญฺญมหาเถร ป.ธ.๙) เจ้าคณะผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช กรรมการมหาเถรสมาคม เจ้าคณะใหญ่หนเหนือ แม่กองบาลีสนามหลวง เจ้าอาวาสวัดปากน้ำ กรุงเทพมหานคร ได้เมตตาตั้งไว้เมื่อปี พ.ศ.๒๕๔๙ ที่ตรงกับปีที่ ๖๐ แห่งการครองราชย์ของในหลวงรัชกาลปัจจุบัน
 
             หน่วยงานในพุทธอุทยานนครสวรรค์ จะประกอบด้วย ๑.วิทยาลัยสงฆ์นครสวรรค์ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ประกอบด้วยพื้นที่ ๑๙๙ ไร่ ๒.พุทธมณฑลจังหวัดนครสวรรค์ สิ่งก่อสร้างประกอบด้วย พระประธานพุทธอุทยานนครสวรรค์ และสังเวชนียสถาน ๔ ตำบล ได้แก่ ประสูติ ตรัสรู้ ปฐมเทศนา และปรินิพพาน ๓.สำนักงานเจ้าคณะจังหวัดนครสวรรค์ เพื่อใช้เป็นสถานที่ปฏิบัติงานของเจ้าคณะจังหวัดนครสวรรค์ รองเจ้าคณะจังหวัดนครสวรรค์ เลขานุการและเจ้าหน้าที่ ประกอบด้วยพื้นที่ในการก่อสร้าง จำนวน ๑๖ ไร่ และ ๔.วัดภัทรสิทธาราม เป็นวัดและศาสนสถานที่ก่อสร้างขึ้นตามเจตนารมณ์ของเจ้าของที่ดิน
 
             ทั้งนี้เมื่อต้นปี พ.ศ.๒๕๔๘ คุณนงลักษณ์ ภัทรประสิทธิ์ และครอบครัว พร้อมเครือญาติตระกูลภัทรประสิทธิ์ ได้แสดงความจำนงกับพระราชปริยัติ (สฤษฏิ์ สิริธโร) เจ้าอาวาสวัดนครสวรรค์ ผู้อำนวยการวิทยาลัยสงฆ์ นครสวรรค์ เจ้าคณะจังหวัดนครสวรรค์ ขอบริจาคที่ดิน ๓๒๗ ไร่ ในพื้นที่ตำบลนครสวรรค์ออก เพื่อใช้ในกิจการพระพุทธศาสนาตามเจตนารมณ์ของคุณวิศาล ภัทรประสิทธิ์ ที่ได้เสียชีวิตลงก่อนและได้ ประกอบพิธีถวายที่ดินอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ ๔ กันยายน ๒๕๔๘
 
             อย่างก็ตามต่อมาคณะสงฆ์จังหวัดนครสวรรค์ วิทยาลัยสงฆ์นครสวรรค์ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ส่วนราชการ ผู้แทนชุมชน ผู้ทรงคุณวุฒิ และผู้มีจิตศรัทธาได้พร้อมใจกันจัดทำโครงการก่อสร้างพุทธอุทยานนครสวรรค์ขึ้น เพื่อใช้ที่ดินแปลงนี้ ให้เกิดประโยชน์อย่างสูง ต่อประเทศชาติ ต่อพระพุทธศาสนา และประชาชนทั่วไป
 
             ตั้งแต่ พ.ศ.๒๕๔๘ เป็นต้นมาโครงการก่อสร้างพุทธอุทยานนครสวรรค์ มีความคืบหน้าตามลำดับ งานก่อสร้างอาการต่างเสร็จเรียบร้อยไปเกือบ ๘๐% และโครงการหนึ่งที่ถือว่าเป็นโครงการใหญ่ คือ พระพุทธศรีสัพพัญญู พระประธานพุทธอุทยาน หล่อด้วยโลหะใหญ่ที่สุด ขนาดหน้าตัก ๙ วา (๑๘ เมตร) เพื่อถวายเป็นพุทธบูชา ธรรมบูชา สังฆบูชา และเพื่อเฉลิมพระเกียรติถวายเป็นพระราชกุศลแด่องค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ผู้ทรงคุณอันประเสริฐ ในวโรกาสที่ทรงเจริญพระชนมายุ ๘๔ พรรษา โดยสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา สยามบรมราชกุมารี ได้พระราชทานพระราชานุญาตให้อัญเชิญอักษรย่อพระนามาภิไธย “ส.ธ.” ซึ่งเมื่อสร้างเสร็จก็จะถือว่า พุทธอุทยานนครสวรรค์สร้างเสร็จ ๑๐๐% เช่นกัน
 
             พระราชปริยัติ เป็นพระดีอีกรูปหนึ่งที่ชาวเมืองนครสวรรค์ให้ความเลื่อมใสศรัทธา เป็นแบบอย่างที่ดีในความเรียบง่าย เป็นพระนักพัฒนา นักปกครอง และนักการศึกษาผู้เสียสละ มีความสามารถในหลากหลาย ทั้งในด้านปริยัติและปฏิบัติ ท่านมีความสามารถในการสวดพระปาติโมกข์ มีความชำนาญในการใช้คอมพิวเตอร์ มีความชำนาญในด้านนวกรรม ควบคุมการก่อสร้าง การอ่านแบบแปลนการก่อสร้าง และความสามารถในการแสดงพระธรรมเทศนา ปาฐกถาธรรม บรรยายธรรม
 
             นอกจากนี้ยังดำรงตำแหน่งผู้ช่วยอธิการบดีมหาวิทยาลัยจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ศูนย์ศึกษาวัดนครสวรรค์ เป็นผู้อำนวยการวิทยาลัยสงฆ์นครสวรรค์ เป็นรองผู้อำนวยการศูนย์วิทยบริการมหาวิทยาลัยนเรศวร จ.นครสวรรค์ และเป็นคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในสถานศึกษาอีกมากมาย ในเขตพื้นที่การศึกษานครสวรรค์และมหาวิทยาลัยราชภัฏนครสวรรค์
 
             ผลงานด้านการเผยแผ่พระพุทธศาสนา พระราชปริยัติ ได้เป็นผู้นำการจัดพิธีในวันสำคัญทางพระพุทธศาสนา เชิญชวนพระภิกษุ-สามเณรและประชาชนมาร่วมพิธีในวันสำคัญทางพระพุทธศาสนา อบรมธรรมะให้แก่ประชาชนทั่วไป นอกจากนี้ ยังได้บรรยายธรรมะทางวิทยุกระจายเสียง และเชิญชวนประชาชนปฏิบัติธรรม สวดมนต์ เจริญจิตตภาวนา เป็นวิทยากรบรรยายให้ความรู้ธรรมะแก่ส่วนราชการต่างๆ
 
             ในส่วนของการส่งเสริมการศึกษาของพระสงฆ์นั้น ท่านจะให้ความสนใจเป็นพิเศษ โดยส่งเสริมให้พระสังฆาธิการและพระสงฆ์ในสังกัดให้ศึกษาต่อในระดับปริญญาตรี ปริญญาโทและปริญญาเอก พร้อมทั้งจัดหาทุนการศึกษาให้พระสงฆ์ทุกรูปและรับบริจาคเงินเพื่อเป็นทุนการศึกษาแก่เด็กยากจน เด็กที่มีความบกพร่องทางกายเป็นประจำทุกปี
 
             สำหรับการพัฒนาวัดนครสวรรค์ ในฐานะเจ้าอาวาสท่านได้ปรับปรุงภูมิทัศน์ภายในวัดนครสวรรค์ให้ดูโปร่ง โล่ง สะอาด นอกจากนี้ ท่านให้ความเอาใจใส่บริหารจัดการดูแลคณะสงฆ์อย่างทั่วถึง ด้วยการออกตรวจเยี่ยมไปตามวัด ตามอำเภอต่างๆ จนครบทั้ง ๑๕ อำเภอ
 
             พระราชปริยัติเคยปรารภว่า "การส่งเสริมความรู้ให้ทั้งบรรพชิตและฆราวาสอย่างทั่วถึง เป็นสิ่งที่ดี พระภิกษุ-สามเณรที่มีความรู้ทางธรรมจะช่วยสืบทอดพระพุทธศาสนาให้ยั่งยืน ส่วนชาวบ้านที่มีความรู้จะได้ใช้วิชาความรู้ทำมาหากินและช่วยทำให้ชาติบ้านเมืองเจริญรุ่งเรือง"

พลังศรัทธาจากสารทิศ

             ในการจัดสร้างพุทธอุทยานนครสวรรค์นั้น พระเทพปริยัติเมธี บอกว่า มาจากพลังศรัทธาจากสารทิศ เช่น อาคารเรียนพระเทพวิทยาคม (หลวงพ่อคูณ ปริสุทฺโธ) มีลักษณะเป็นอาคาร ค.ส.ล.สูง ๒ ชั้น ทรงไทยประยุกต์ งบประมาณในการก่อสร้าง ๓๕ ล้านบาท โดยมีเจ้าภาพในการก่อสร้าง คือ พระเทพวิทยาคม (หลวงพ่อคูณ ปริสุทฺโธ)
 
             อาคารรับรองพระเทพญาณมุนีมีลักษณะเป็นอาคาร ค.ส.ล.สูง ๑ ชั้น ทรงไทยประยุกต์ งบประมาณก่อสร้าง ๑.๗๕ ล้านบาท โดยมีเจ้าภาพในการก่อสร้าง คือ พระเทพญาณมุนี (วิศิษฏ์ ปญฺญาปโชโต) รองเจ้าคณะภาค๔ วัดวรนาถบรรพต จ.นครสวรรค์
 
             อาคารอำนวยการวิทยาลัยสงฆ์นครสวรรค์ งบประมาณก่อสร้าง ๗ ล้านบาท โดยมีเจ้าภาพในการก่อสร้าง คือ คุณสิทธิกร บุญฉิม ได้ถวายเงินผ่านสมเด็จพุทธโฆษาจารย์ เจ้าคณะภาค ๔ และเจ้าอาวาสวัดสุทัศเทพราราม เมื่อ พ.ศ.๒๕๕๐
 
             อาคารเรียน ส.มหารัช สูง ๔ ชั้น ทรงไทยประยุกต์  งบประมาณในการก่อสร้าง ๒๕ ล้านบาท โดยมีเจ้าภาพในการก่อสร้าง คือ สมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ และ มูลนิธิหลวงพ่อวัดปากน้ำ
 
             พระเทพปริยัติเมธี ยังบอกว่า พลังศรัทธาหนึ่งที่มีมาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่แรกเริ่มสร้างพุทธอุทยานนครสวรรค์ คือ คุณสิทธิกร โดยได้ช่วยหาทุนสร้างประมาณ ๕๐ ล้านบาท เมื่อ พ.ศ.๒๕๔๙ และในวันที่ ๓ เมษายน ๒๕๕๕ ซึ่งเป็นวันคล้ายวันเกิดปีที่ ๔๑ แม้ว่าตัวยังอยู่ในเรือนจำ แต่เขาได้ส่งจิตาส่งใจมาทำบุญ โดยได้ถวาย “พระกริ่งเกศทองคำแท้” เพื่อประดิษฐานไว้ในอาคารอำนวยการวิทยาลัยสงฆ์นครสวรรค์ พร้อมกับมอบพระหลวงพ่อเงินรุ่น ทรงเจริญ ไว้แจกสำหรับผู้รวมงานด้วย