พระเครื่อง

มีพระแท้เหมือนมีเงินสดอยู่ในมือ

มีพระแท้เหมือนมีเงินสดอยู่ในมือ

05 ก.พ. 2555

'มี พระแท้ เหมือนมีเงินสดอยู่ในมือ'สัญชัย กองโสภี (อ้วน) ผู้ผลิตหนังโฆษณา : เส้นทางนักพระเครื่อง โดย ตาล ตันหยง

             การสะสมพระเครื่อง ในทุกวันนี้ มีผู้คนจากหลากหลายอาชีพให้ความสนใจกันมากขึ้นเรื่อยๆ จนบางคนกลายเป็นนักสะสมพระเครื่องในระดับแถวหน้าก็มี โดยมีพระหลักยอดนิยมอยู่ในครอบครองมากพอสมควร และหนึ่งในนั้น คือ
   
              สัญชัย กองโสภี (อ้วน) ผู้บริหาร บริษัท จัมโบ้ เอ โปรดักชั่น จำกัด ผู้ผลิตภาพยนตร์โฆษณาสินค้าต่างๆ รายใหญ่ โดยมีผลงานด้านนี้มานานกว่า ๒๐ ปี จนเป็นที่เชื่อถือของลูกค้าในวงกว้าง
   
              คุณอ้วน เป็นชาวกรุงเทพฯ โดยกำเนิด สมัยเรียนหนังสือยังไม่ได้ให้ความสนใจในเรื่องพระเครื่องอะไรมากนัก นอกจากได้พบเห็นพระเครื่องของคุณพ่อคุณแม่ที่มักจะได้รับมาจากญาติพี่น้อง หรือคนรู้จักกันบ้าง รวมทั้งที่ได้รับแจกจากทางวัดเมื่อมีการทำบุญทอดผ้าป่าทอดกฐิน เท่านั้น
   
              "ผมเริ่มสนใจพระเครื่อง เมื่อ ๘ ปีก่อน จากคำแนะนำของเพื่อนร่วมงานว่า พระพุทธชินราช รุ่นอินโดจีน ปี ๒๔๘๕ เป็นพระเครื่องที่น่าใช้มาก เพราะองค์ใหญ่เหมาะสำหรับผู้ชาย เป็นพระที่มีเจตนาการสร้างดี พิธีใหญ่ มีพระเกจิอาจารย์เก่งๆ จากทั่วประเทศ ร่วมพิธีปลุกเสกเยอะมาก พระรุ่นนี้สร้างเพื่อแจกทหารที่ไปราชการสงครามอินโดจีน ซึ่งแน่นอนว่า พุทธคุณต้องดีแน่ ผมจึงไปหาซื้อตามแผงพระ โดยไม่มีความรู้อะไรเลย ดูพระก็ไม่เป็น ปรากฏว่าพระที่ได้มานั้น เมื่อเอาไปให้เซียนพระดู เขาบอกว่าเป็นพระปลอม ต่อมามีเพื่อนอีกคนหนึ่งบอกว่า หากอยากได้พระแท้ต้องไปซื้อจากร้านที่เชื่อถือได้เท่านั้น เขาได้แนะนำร้านพระนั้นให้ จึงไปได้พระแท้องค์แรกจากร้านพระ บนห้างบิ๊กซี ลาดพร้าว โดยเจ้าของร้านออกใบรับประกันให้ด้วย พร้อมกับบอกว่า หากมีปัญหาหรือสงสัยว่าเป็นพระไม่แท้ เอาไปคืนได้ทันที พอได้พระมาแล้ว ผมได้ฝากให้เพื่อนไปให้เซียนพระคนเดิมดู เขาบอกว่าแท้ดูง่าย ผมดีใจมาก ว่างเมื่อไรเป็นต้องหยิบพระองค์นี้ขึ้นมาส่องดู ดูไปนานๆ รู้สึกนึกรักชอบพระรุ่นนี้มาก เมื่อได้อ่านประวัติความเป็นมาด้วยแล้ว ยิ่งเกิดความเลื่อมใสศรัทธามากขึ้นไปอีก จึงติดตามเช่าหาพระรุ่นนี้มาอีกหลายองค์ โดยขอคำแนะนำจากคนขายว่า จุดสำคัญในการพิจารณาพระแท้ ดูตรงไหนบ้าง เพราะผมเป็นมือใหม่ ยังดูพระไม่เป็น คนขายก็แนะนำให้ เพราะผมได้ซื้อพระจากเขาหลายองค์ จนเกิดความคุ้นเคยกันพอสมควร ตรงนี้ผมคิดว่าเป็นสิ่งที่น้องใหม่ที่เพิ่งสนใจพระเครื่องต้องเรียนรู้เอาไว้บ้างก็ดี คือ อย่าซื้อพระอย่างสะเปะสะปะ ไม่มีคนแนะนำ ไม่มีข้อมูลมาก่อน และควรซื้อพระจากแหล่งที่เชื่อถือได้ มีอะไรไม่รู้ถามเขา หากเราซื้อพระจากเขาบ่อยๆ จนมีความคุ้นเคยกันแล้ว เขาก็จะสอนให้เสมอ" คุณอ้วน เล่าถึงจุดเริ่มในการสะสมพระเครื่อง
   
              ต่อมา คุณอ้วน ขึ้นไปบนชมรมพระเครื่องมณเฑียรพลาซา ได้รู้จักกับ คุณวิรัตน์ เอไอเอ นักสะสมพระเครื่องชื่อดัง และคุณยุทธนา วงศ์กนกสิน ร้านมงคลรัตน์ (ปัจจุบันย้ายไปอยู่ที่ห้างพาต้า ปิ่นเกล้า) เห็นพระในตู้น่าสนใจ จึงเช่าเอาไว้หลายองค์ โดยรับประกันให้ด้วยว่าเป็นพระแท้ทุกองค์ เอาไปแห่ได้เสมอ จากการพูดคุยกันรู้สึกถูกอัธยาศัยมาก จึงได้คบหาสมาคมตั้งแต่นั้นมา ทำให้ได้พระแท้มาโดยตลอด เอาไปให้ใครดูก็ล้วนบอกว่าเป็นพระแท้ทุกองค์ รวมทั้งส่งพระเข้าประกวดก็ได้รับรางวัลเสมอ จนทุกวันนี้มีความสนิทสนมกันมาก ที่สำคัญคือ คุณวิรัตน์ จะแนะนำวิธีดูพระอย่างชนิดเจาะลึกให้เป็นประจำ 
   
              จนทุกวันนี้ คุณอ้วน มีพระเครื่องยอดนิยมหลากหลายประเภท เมื่อมีเวลาว่างจะเอาพระแต่ละองค์ขึ้นมาส่องดู เพื่อศึกษาหารายละเอียดต่างๆ บนองค์พระ จนสามารถจำได้ในระดับหนึ่ง โดยเฉพาะ เหรียญพระอาจารย์ฝั้น อาจาโร วัดป่าอุดมสมพร จ.สกลนคร จำได้แม่นแทบทุกรุ่น ที่ชอบมากคือ เหรียญรุ่น ๑-๒ เพราะสร้างในปี ๒๕๐๗ อันเป็นปีเกิดของคุณอ้วน และที่สำคัญคือ คุณอ้วนเกิดวันเดียวกับพระอาจารย์ฝั้น คือ พระอาจารย์ฝั้นเกิดวันที่ ๒๐ สิงหาคม ๒๔๔๒ ส่วนคุณอ้วนเกิดวันที่ ๒๐ สิงหาคม ๒๕๐๗ ความผูกพันทางจิตใจจึงมีมากเป็นพิเศษ ดังนั้นเมื่อถึงวันเกิด ๒๐ สิงหาคม ของทุกปี นอกจากคุณอ้วนจะทำบุญวันเกิดของตัวเองแล้ว ยังได้ทำบุญถวายสังฆทานแด่พระอาจารย์ฝั้น อีกด้วย  
   
              คุณอ้วน กล่าวว่า "การสะสมพระเครื่องเป็นเรื่องสนุก สร้างความสุขให้แก่ผู้รักชอบทางนี้ นอกจากได้เพื่อนแล้วยังได้ความรู้ต่างๆ อีกมากมาย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การสร้างนิสัยให้เป็นคนใจเย็น มีความละเอียด รอบคอบ ซึ่งได้จากการนั่งส่องพระ ช่วงนั้นจิตจะสงบเป็นสมาธิ สนใจอย่างเดียวคือสิ่งต่างๆ ที่มองผ่านทางแว่นขยายส่องพระเป็นสำคัญ ตรงจุดนี้ได้สร้างความสุขให้แก่ทุกคนที่สนใจการสะสมพระด้วยกันทั้งนั้น"
   
              สำหรับ ประสบการณ์จากการใช้พระเครื่อง คุณอ้วน บอกว่า "ยังไม่เคยเกิดเหตุการณ์ร้ายแรงอะไรกับตัวเองมาก่อนเลย ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องที่ดี และเชื่อว่าสิ่งนี้เป็นประสบการณ์อย่างหนึ่งในทางที่ดี ที่บุญบารมีคุณพระได้ปกปักรักษาให้ปลอดภัยอยู่เสมอ ผมคิดว่านี่คือความต้องการของคนแขวนพระทุกคน ซึ่งในส่วนตัวผมแล้ว การแขวนพระยังเป็นสิ่งเตือนใจให้เราทำแต่ความดี เป็นคนดีของสังคม ละเว้นจากการทำบาปกรรมทั้งปวง หรือความชั่วต่างๆ ถ้าเราเป็นคนดี เชื่อแน่ว่า คุณพระย่อมคุ้มครองเราเสมอ"
   
              สำหรับ วงการพระเครื่อง ในทุกวันนี้ คุณอ้วน มองว่า คนรุ่นใหม่ให้ความสนใจกันมากขึ้น ทั้งนี้ก็ด้วยมีสื่อต่างๆ ให้การสนับสนุน ทำให้ผู้สนใจด้านนี้ได้ศึกษาข้อมูลต่างๆ มาก่อนที่จะตัดสินใจซื้อหาพระเครื่องที่ต้องการ นอกจากนี้ ร้านพระส่วนใหญ่ก็มีมาตรฐานที่ดีขึ้น โดยมีการออกใบรับรองพระแท้ให้ด้วย ทำให้ผู้ซื้อพระมีความมั่นใจและเชื่อถือศรัทธา ด้วยเหตุนี้ จึงทำให้คนรุ่นใหม่ที่หันมาสนใจสะสมพระเครื่อง มีความไว้วางใจในการซื้อพระต่างๆ ซึ่งสมัยนี้คนรุ่นใหม่ใจกล้ามาก พระองค์แพงๆ ก็กล้าซื้อ คนกลุ่มนี้มีจำนวนเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ในอนาคตจะเป็นกำลังสำคัญของวงการพระต่อไป
   
              ในวงการธุรกิจโฆษณา คุณอ้วน บอกว่า มีผู้สนใจสะสมพระเครื่องมากพอสมควร บางคนเล่นพระไม่เป็นก็จะถามผู้รู้ คนที่ผมรู้จักจะแนะนำให้ว่า อย่าซื้อพระโดยไม่มีข้อมูล เพราะจะไม่ได้พระแท้ ต้องเรียนรู้หาข้อมูลก่อน ทั้งจากองค์พระที่ต้องการ และร้านพระที่จะไปซื้อ ต้องรู้ก่อนว่า เป็นผู้มีความรับผิดชอบหรือไม่ เพราะการซื้อพระจากร้านที่มีมาตรฐาน และมีความผิดชอบ ย่อมได้พระแท้เสมอ
   
              "ผมมองว่า การมี พระแท้ เหมือนมีเงินสดอยู่ในมือ บอกขายเมื่อไรก็ได้เงินสดทันที นอกจากนี้ยังเป็นหลักทรัพย์ที่มั่นคง ยิ่งนานวันมูลค่าจะเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ พระเครื่องที่ผมสะสมในทุกวันนี้ ไม่แน่ว่า วันข้างหน้าเมื่อไม่ได้ทำงานแล้ว ผมอาจจะขายต่อออกไปบ้างก็ได้ ถึงวันนั้นมูลค่าขององค์พระย่อมสูงกว่าทุกวันนี้อย่างแน่นอน" คุณอ้วน กล่าวในตอนท้าย