พระเครื่อง

พระร่วงนั่งกรุช่างกลเนื้อชินเงินจ.ลพบุรี

พระร่วงนั่งกรุช่างกลเนื้อชินเงินจ.ลพบุรี

02 ก.พ. 2555

พระร่วงนั่งกรุช่างกลเนื้อชินเงินจ.ลพบุรี : สาระสังเขปพระเนื้อชิน โดยชาติ วิศิษฏ์สรอรรถ

              วิทยาลัยเทคนิคลพบุรี แต่เดิมมีชื่อว่า "โรงเรียนช่างกลลพบุรี" เป็นโรงเรียนที่เปิดสอนมาเป็นเวลานานพอสมควร สังกัดกรมอาชีวศึกษา กระทรวงศึกษาธิการ เป็นสถาบันแห่งหนึ่งที่มีชื่อเสียงโด่งดังและดีเด่นใน จ.ลพบุรี ตั้งอยู่ด้านทิศตะวันออกของศาลเจ้าพ่อพระกาฬ ห่างกันเพียง ๕๐๐ เมตรเศษ ด้านตรงข้ามกับโรงเรียนช่างกล คือ ค่ายสมเด็จพระนารายณ์มหาราช (หรือศูนย์สงครามพิเศษ) ปัจจุบัน หน่วยทหารพลร่ม รับผิดชอบพื้นที่แห่งนี้ทั้งหมด
 
              อาณาบริเวณภายในค่าย โรงเรียน หรือสิ่งปลูกสร้าง อาคารบ้านเรือน ในพื้นที่ดังกล่าวนี้ มีประวัติศาสตร์ และความเป็นมาอันยาวนานหลายยุคหลายสมัย ตั้งแต่สมัยทวารวดีเรื่อยมาถึงสมัยรัตนโกสินทร์
 
              โดยเฉพาะบริเวณโรงเรียนช่างกลลพบุรี คือ สถานที่เคยเป็นวัดเก่าวัดหนึ่งในสมัยโบราณ ต่อมาเป็นวัดร้าง ที่ไม่มีซากเหลืออยู่เลย มีเพียงคันคูเมือง หรือกำแพงเมือง ที่สร้างขึ้นในสมัยสมเด็จพระราเมศวร พ.ศ.  ๑๙๓๑-๑๙๓๘ พระองค์ขึ้นมาครองเมืองลพบุรี และทรงสร้างค่ายประตูหอรบของเมืองลพบุรีอย่างมั่นคงแข็งแรง เพื่อป้องกันการโจมตีของฝ่ายกรุงสุโขทัย
 
              สมัยก่อน บริเวณโรงเรียเทคนิคแห่งนี้ยังไม่เจริญเติบโตมากเท่าปัจจุบัน เดิมมีอาคารและห้องเรียนต่างๆ ไม่มากนัก ต่อมามีการปรับปรุง จัดสร้างสถานที่เพิ่มขึ้น เพื่อให้เพียงพอกับจำนวนนักเรียนนักศึกษา การก่อสร้างนี้เองที่เป็นจุดเริ่มต้นในการขุดพบพระกรุหนึ่ง ที่มีชื่อเสียงของ จ.ลพบุรี โดยมีการขุดพบในบริเวณวิทยาลัยแห่งนี้ถึง ๒ ครั้ง
 
              ครั้งแรก เมื่อปี ๒๕๑๑ พบกรุพระโดยบังเอิญ จากการพัฒนาอาคารต่างๆ ภายในโรงเรียน ผู้รับเหมาให้คนงานกลุ่มหนึ่งขุดหลุมเพื่อเทเสาคอนกรีต กรรมกรหญิงคนหนึ่งได้ขุดหลุมลึกลงไปราว ๑ ศอกเศษ ได้พบแผ่นอิฐเรียงกันสวยงาม จึงได้ใช้ชะแลงขุดแผ่นอิฐนั้นออกมา หลังจากนำแผ่นอิฐออกจนหมดแล้ว ก็ขุดลึกลงไปอีก คราวนี้พบกับสิ่งที่สะดุดสายตาเป็นครั้งแรก คือ ไหกลมๆ หรือผอบ ขนาดใหญ่กว่ากะลา มีฝาปิดสนิท พอทุบไหแตกพบกระดูกอยู่ภายในไห ทำให้กรรมกรหญิงคนนี้ตกใจกลัว ทิ้งงานเลิกขุดหลุมที่พบกระดูกทันที 
 
              ต่อมากรรมกรซึ่งเป็นสามีภรรยาคู่หนึ่ง ได้รับมอบหมายให้ขุดหลุมต่อไป เมื่อขุดลึกลงไปอีกไม่มากนัก ได้พบพระยืนห้ามญาติ ๑ องค์ สูงกว่า ๑ ศอก เป็นพระศิลปะสมัยลพบุรี
 
              ครั้นขุดลึกลงไปอีกเล็กน้อย ได้พบไหเคลือบสี่หู สีน้ำตาล และสีเขียวปนกัน เหมือนโอ่งมังกร เป็นเนื้อสังคโลกใบใหญ่มาก ผู้เป็นสามีจึงใช้ด้ามชะแลงกระแทกไหนั้นให้แตก ขณะนั้นเป็นช่วงเย็นพอดี นักเรียนเลิกเรียน กรรมกรเริ่มจะเก็บข้าวของกลับบ้านกันแล้ว เมื่อไหแตกก็เห็นว่าภายในไหนั้นมีวัตถุสีขาวเต็มไห จึงหยิบขึ้นมาดู วัตถุดังกล่าวนั้นอ่อนนุ่มนิ่มคล้ายดินเปียกๆ เมื่อก้อนดินเปียกถูกอากาศก็ค่อยๆ เริ่มแข็งตัวขึ้นเป็นลำดับ จึงได้นำออกจากไหมาวางผึ่งบนขอบหลุม ได้จำนวนมากมายเกินกว่า ๑ บุ้งกี๋ใหญ่ ประมาณล้นออกมาเต็มพูน 
 
              เมื่อนักเรียนและกรรมกรทั้งหมดเห็น และทราบว่าเป็น พระกรุ ที่ขุดได้เท่านั้น ก็เกิดการแย่งกันขึ้นมา พระที่ได้ครั้งนี้จึงกระจายแบ่งปันกันไป เป็นพระเนื้อชินเงินจำนวนมากกว่า โดยมีพระเนื้อชินตะกั่วสนิมแดงบ้างพอสมควร องค์พระมีลักษณะต่างๆ กัน ในการขุดพบได้ครั้งแรกนี้ คือ
 
              พระร่วงยืน เนื้อชินเงิน มีไม่เกินกว่า ๑๐ องค์ ด้านข้างตอกสกัดด้วยสิ่ว หรือของมีคมทั้งหมดทุกองค์ ไม่ว่าองค์เล็กหรือองค์ใหญ่ ลักษณะของพระร่วงยืนเนื้อชินเงินนี้ เหมือนกับ พระร่วงยืน วัดพระศรีรัตนมหาธาตุ จ.ลพบุรี ทุกอย่าง สำหรับผิวชินจะมีสีของปรอท แลดูเหมือนของที่เทใหม่ๆ คนที่ดูไม่เป็น หรือดูไม่ออก จะคิดว่าเป็นของใหม่ นอกจากนี้ยังมี พระร่วงนั่ง พิมพ์สามเหลี่ยมเล็กๆ และ พระพิมพ์ซุ้มนครโกษา เป็นส่วนใหญ่
 
              พระร่วงนั่ง พิมพ์สามเหลี่ยมเล็ก มีชื่อเรียกในวงการพระว่า พระร่วงนั่ง กรุช่างกล ขนาดเล็กกะทัดรัด องค์พระกว้าง ๒.๒๐ ซม. สูง ๒.๗๐ ซม. เป็นพระเนื้อชินเงิน อาบผิวปรอท เป็นเงามันวาววับสวยงามมาก
 
              พุทธลักษณะ องค์พระประทับนั่งปางมารวิชัย บนฐานตรง บริเวณฐานประดับด้วยเส้นลายขีดแนวตั้ง เรียงเป็นแถว องค์พระสวมหมวกชีโบ พระพักตร์คมชัดเจน พระเนตรขวาโตกว่าพระเนตรซ้าย พระกรรณทั้ง ๒ ข้าง ยาวย้อยจรดพระอังสา องค์พระประดับด้วยเครื่องทรงครบสมบูรณ์
 
              สำหรับ ด้านหลัง ส่วนมากเป็นลายผ้ากด เหมือนรอยลายผ้าใย ไม่ละเอียดเกินไปนัก ลายหยาบๆ เต็มบริเวณด้านหลังทุกองค์
 
              พระร่วงนั่ง กรุช่างกล สนนราคาสภาพพอใช้ อยู่ที่หลักหมื่นกว่าบาท ถ้าสภาพขาวสมบูรณ์สวยแชมป์ ราคาจะอยู่ที่หลักหมื่นกลางขึ้นไป
 
              สำหรับ พระพิมพ์ซุ้มนครโกษา กรุช่างกล เนื้อสนิมแดง ลักษณะเหมือนกันหลายวัด เช่น กรุวัดพระศรีรัตนมหาธาตุ จ.ลพบุรี, กรุตาพุ่ม ต.บ้านกล้วย จ.กำแพงเพชร และ กรุโคกยายมาก อ.อินทร์บุรี จ.สิงห์บุรี
 
              ซึ่งพระทั้ง ๓ เมือง รวม ๔ กรุเหล่านี้ เป็นพระพิมพ์ชนิดเดียวกัน และเป็นพระในยุคสมัยเดียวกัน แต่มีสนิมแตกต่างกัน คือ พระกรุโคกยายมาก มีสนิมจัดมากกว่ากรุอื่นๆ เหตุที่แดงกว่า เพราะว่า พระกรุโคกยายมาก เป็นสถานที่ ที่น้ำท่วมกรุ นั่นเอง
 
              ส่วนการขุดกรุพบพระครั้งที่ ๒ พ.ศ.๒๕๑๕ ขุดพบที่ด้านหน้าวิทยาลัยเทคนิค บริเวณระหว่างฟุตบาท เพื่อวางท่อระบายน้ำ กรรมกรเป็นผู้ขุดพบพระพิมพ์พระร่วงยืน เนื้อสนิมแดงทั้งหมด ไม่มีเนื้อชินเงินปนอยู่เลย พระส่วนมากมีความสมบูรณ์เกือบ ๑๐๐%
 
              พระร่วงยืน กรุช่างกล มีพุทธลักษณะเหมือนกับ พระร่วงยืน กรุต่างๆ อาทิ กรุถ้ำพุพระ จ.กาญจนบุรี, กรุศรีโสฬส จ.สิงห์บุรี, กรุวัดพระศรีรัตนมหาธาตุ จ.ลพบุรี ฯลฯ พระพิมพ์นี้ขุดพบได้จำนวนน้อยมาก ราคาเช่าหาสูงมาก อยู่ที่หลักหลายแสนขึ้นไป ตามสภาพความสมบูรณ์ของพระแต่ละองค์
 
              สำหรับเรื่อง พุทธคุณ เชื่อกันว่า พระเมืองลพบุรี ทุกพิมพ์ทุกกรุ มีอานุภาพในด้านมหาอุด และคงกระพันชาตรีอันวิเศษยิ่ง อีกทั้งโดดเด่นทางแคล้วคลาด ให้ผู้บูชาปลอดภัย ปราศจากภยันตรายทั้งหลายทั้งปวง