
ธรรมะกล้วยๆของ...หลวงพ่อกล้วยวัดป่าธรรมอุทยาน
ธรรมะกล้วยๆของ...หลวงพ่อกล้วยวัดป่าธรรมอุทยาน : เยือนถิ่นเรือนธรรม โดยไตรเทพ ไกรงู
วัดป่าธรรมอุทยาน ตั้งอยู่ที่ป่าช้าของหมู่บ้านสำราญและบ้านเพี้ยฟาน ต.สำราญ อ.เมือง จ.ขอนแก่น เน้นการปฏิบัติธรรมแนวการเจริญสติ-ดูจิต โดยมีพระอาจารย์สำราญ ธมฺมธุโร หรือ หลวงพ่อกล้วย เป็นเจ้าอาวาสและเป็นพระวิปัสสนาจารย์ ท่านเมตตาสั่งสอนศิษย์มาก ติดขัดตรงไหนท่านจะแนะนำให้ บรรยากาศภายในวัดมีความสงบเงียบ ร่มเย็น มีต้นไผ่ขึ้นเป็นกอใหญ่หลายๆ กอ ทำให้ครึ้มร่มรื่น สัปปายะ เหมาะแก่การปฏิบัติธรรม เจริญจิตภาวนา เป็นอย่างยิ่ง สะดวกในการเข้าพักปฏิบัติธรรม อีกทั้งมีหลุมศพไว้ให้เราพิจารณามรณานุสสติและดูจิตตัวเอง
ใครที่เข้ามาที่วัดนี้ ถึงจะแปลกแตกต่างไปจากที่อื่นอยู่ ตั้งแต่ปากทางเข้ามา แม้แต่ป้ายวัด ทางการเขาก็มาติดให้ เขาสงสาร เขาหาว่ายาก ก็เลยมาติดให้ พวกท่านถึงได้เห็นป้ายวัด ป้ายวัดก็เล็กนิดเดียว เข้าก็ไม่มีเขียนข้อวัตรปฏิบัติต่างๆ เอาไว้ให้ แล้วก็ไม่เห็นพากันไปนั่งเดิน ไปฝึกปฏิบัติ อะไรเลย
รูปแบบการจัดอบรมทางวัดไม่มีการจัดอบรมเป็นคอร์ส ผู้ที่เข้ามาฝึกสามารถปฏิบัติอย่างมีอิสระ ไม่มีรูปแบบตายตัว แต่ให้รู้จักฝึกฝนตนเอง มีความรับผิดชอบ เสียสละ มีความอดทน มีเมตตาไม่มีตารางการปฏิบัติเป็นกำหนดเวลา ที่วัดถือว่าทุกคนมีข้อวัตรปฏิบัติในตัว จึงไม่มีข้อบังคับ หรือกฎเกณฑ์ ผู้สนใจสามารถมาได้ตลอดเวลา ทั้งนี้หลวงพ่อจะมีการเทศน์ก่อนฉันเช้าประมาณเวลา ๐๖.๔๕ น.
สำหรับที่นี่ ทุกคนเข้ามาก็ให้รู้สึกว่ามาที่นี่เหมือนกับอยู่บ้าน ซึ่งแต่ก่อนยังไม่ได้มา ก็เคยไปคิดว่า เราจะไปอยู่ยังไง เราจะไปกินยังไง ไปนั่งยังไง ไปฝึกยังไง มันหลอกเราเสียแล้ว พอมาเข้าจริงๆ มารู้ความจริง มาที่นี่ก็สบายนะ ใครๆ ก็เหมือนกับพี่กับน้อง มีอะไรก็คอยช่วยเหลือ ซึ่งกันและกัน ความวิตกกังวลก็คลายไป โดยไม่รู้ตัว มันคลายไปเปราะใหญ่ จิตใจก็เลยสบาย
หลวงพ่อกล้วย บอกว่า การเจริญสติ ก็เพื่อที่จะเข้าไป สะสางกิเลสออกจากจิต จากใจของเรา การรักษาศีล การเจริญสติรักษาศีล สร้างสติ สร้างสมาธิ ก็เพื่อที่จะไปทำความเข้าใจ และก็ละความหลง คลายความหลง และก็ละกิเลสออกจากจิต จากใจของเราให้หมด
แม้แต่ความอยากเล็กๆ น้อยๆ อยากจะรู้ธรรม อยากเข้าถึงธรรม เราก็ต้องทำ แต่การกระทำคือ การสังเกต การวิเคราะห์ สังเกตไม่ทัน เราก็ต้องใช้สมถะเข้าไปดับ เราอาจกำหนดอยู่กับลมหายใจบ้าง สร้างความรู้สึกอยู่ที่การหายใจเข้า ออกบ้าง
เรียกว่าสร้างความรู้สึก อยู่ที่การเคลื่อนไหว ของกายบ้าง แล้วแต่ความถนัด ของแต่ละบุคคล ที่จะเดินให้ถึง การฝึกหัดปฏิบัติจิต เราต้องค่อยเป็นค่อยไป อย่าไปวู่วาม คือค่อยเป็นค่อยไป ตั้งจิตไม่ทัน เราก็เริ่มใหม่ ทำความเข้าใจ เราก็เริ่มใหม่อยู่ตลอดเวลา ตั้งแต่ตื่นขึ้นมา
ทั้งนี้ หลวงพ่อกล้วย พูดทิ้งท้ายไว้อย่างน่าคิดว่า "วัดเปรียบดังแผนที่ ที่จะพาสู่จุดมุ่งหมายปลายทาง พวกเรามีโอกาสโชคดี ก็อย่าปล่อยโอกาสทิ้ง หมั่นสำรวจ ตรวจตราดู ตลอดเวลา สร้างผู้บริหารใหม่ให้เข้มแข็ง คือมาเจริญสตินั่นแหละ ให้เข้มแข็งอยู่ตลอดเวลา อันไหนเป็นจิต ลักษณะของจิต การก่อตัวของจิต การก่อตัวของขันธ์ ๕ เป็นอย่างไร จิตของเรา อารมณ์ของเรานั่นแหละสำคัญ พิจารณาให้ดี การที่มาวัด เราก็มาสร้างประสบการณ์ หรือมาหาแผนที่ หาแนวทาง นั่นแหละ พวกเราจะเดินตามหรือไม่ ก็ขึ้นอยู่กับตัวของคุณเอง พยายามเดินให้ถึงจุดหมายปลายทาง มันก็ไม่มีอะไรมาก"
การเตรียมตัวไม่จำเป็นต้องชุดขาว เตรียมเครื่องใช้ส่วนตัวมาให้พร้อม (เช่น เสื้อผ้า สบู่ ยาสระผม แปรงสีฟัน ยาสีฟัน ไฟฉาย ยากันยุง ฯลฯ) ห้องพักมีจำกัด (ถ้ามีเต็นท์ควรนำมาด้วย ที่วัดมีไม่เพียงพอ) ที่อยู่-การติดต่อวัดป่าธรรมอุทยาน โทร.๐๘๖-๘๕๘-๘๙๖๘ หรือ "www.samrandham.org"