
'รอดตายได้ด้วยบารมี หลวงพ่อแฉ่ง วัดบางพัง'เต่า พระเครื่อง-อนุทัศน์ อนันต์ศิริขจร จากนักธุรกิจสู่ 'เซียนพระ'
'รอดตายได้ด้วยบารมี หลวงพ่อแฉ่ง วัดบางพัง'เต่า พระเครื่อง-อนุทัศน์ อนันต์ศิริขจร จากนักธุรกิจสู่ 'เซียนพระ': เส้นทางนักพระเครื่อง โดยตาล ตันหยง
วงการพระเครื่อง นับเป็นศูนย์รวมของผู้คนที่มาจากหลากหลายอาชีพ เมื่อเข้ามาแล้วก็ยากที่ถอนตัวออกไปอย่างง่ายดาย ด้วยมนต์เสน่ห์ของวงการพระที่หลายคนยอมรับว่า เป็นวงการที่น่าสนใจอย่างยิ่ง ไม่ว่าจะยึดทำเป็นอาชีพหลัก หรือเป็นนักสะสมพระเครื่องด้วยใจรักชอบก็ตาม
เช่นเดียวกับ อนุทัศน์ อนันต์ศิริขจร หรือที่ผู้คนในวงการพระเครื่อง รู้จักกันในนาม เต่า พระเครื่อง นักสะสมพระกริ่ง รูปหล่อ เหรียญ พระเนื้อผง พระเนื้อดิน และพระทุกประเภทที่วงการนิยมกันทั่วไป อาศัยว่าเป็นผู้มีพื้นฐานด้านการเงินสูง จึงสามารถเช่าหาพระเครื่องราคาแพงๆ ได้อย่างสะดวกสบายมาโดยตลอด
คุณเต่า เล่าย้อนอดีตที่ผ่านมาว่า "ก่อนจะเข้าสู่วงการพระเครื่อง ผมได้ทำธุรกิจด้านเครื่องเสียงรถยนต์มาก่อน เป็น ๑ ใน ๓ ของผู้สั่งเครื่องเสียงชั้นนำจากทั่วโลกมาจำหน่ายในเมืองไทย โดยมียอดขายแต่ละปีอยู่ในระดับแนวหน้าของภูมิภาคนี้ก็ว่าได้ ทำให้ผมต้องเดินทางไปต่างประเทศบ่อยๆ ปีละหลายครั้ง ทั้งในยุโรป,อเมริกา และญี่ปุ่น ต่อมาผมได้ทำธุรกิจด้านรถยนต์นำเข้า ซึ่งส่วนใหญ่เป็นรถหรูราคาคันละหลายล้านขึ้นไป ต่อมาได้ทำรถยนต์มือสองทั้งของยุโรป อเมริกา และญี่ปุ่น ตลอดเวลาที่ผ่านมานี้ ผมได้ให้ความสนใจสะสมพระเครื่องด้วย โดยเช่าเก็บอย่างเดียว เมื่อกว่า ๑๕ ปีก่อน ส่วนใหญ่ผมจะเช่าจากเฮียเสริฐ ท่าพระจันทร์ ที่อยู่กับเฮียตี๋เหล้า รวมทั้งเซียนพระดังๆ ในสนามพระท่าพระจันทร์ ซึ่งผมรู้จักและคบหาสมาคมทุกคน"
ต่อมาเมื่อหลายปีก่อน คุณเต่า ได้เข้าสนามพระ ชมรมพระเครื่องมรดกไทย ชั้น ๓ ห้างพันธุ์ทิพย์ งามวงศ์วาน ได้รู้จักกับ คุณเกี๊ยก ทวีทรัพย์ ผู้ชำนาญด้านพระกริ่งและรูปหล่อโบราณ จึงได้เช่าพระกริ่งและรูปหล่อพระเกจิอาจารย์ดังๆ ยุคเก่าจากคุณเกี๊ยกเป็นประจำ นับเป็นการจุดประกายให้สนใจสะสมพระสายนี้อย่างจริงจัง ทั้งนี้ โดยได้รับคำแนะนำในการดูพระกริ่งและรูปหล่อโบราณจากคุณเกี๊ยกมาโดยตลอด เรียกได้ว่าเป็น "ครูคนแรก" ในการสอนให้ดูพระสายนี้ก็ได้
จากการที่ได้สะสมพระหลักยอดนิยมเอาไว้มากมาย จนเป็นรู้กันดีในหมู่นักธุรกิจเครื่องเสียงรถยนต์ รวมทั้งวงการรถยนต์ และวงการก่อสร้าง ที่คุณเต่าได้บริหารร่วมกับคุณพ่อมาก่อน ทำให้พรรคพวกเพื่อนฝูงในวงการต่างๆ เหล่านั้น เมื่อสนใจอยากได้พระดีๆ ไว้ใช้ ก็มักจะมาขอแบ่งปันจากคุณเต่าเสมอ บางคนให้คุณเต่าเป็นคนจัดหาพระตามที่ต้องการให้ก็มี
ตรงจุดนี้ทำให้เรื่องพระเครื่องกลายเป็นธุรกิจขนาดย่อมของคุณเต่าขึ้นมาโดยปริยาย จนต่อมาได้ขยายแวดวงกว้างออกไปเรื่อยๆ จนในที่สุดคุณเต่าก็ได้เปิดเป็นร้านพระเครื่อง ขึ้นในชมรมพระเครื่องมรดกไทย เมื่อ ๖ ปีก่อน จนถึงทุกวันนี้ โดยใช้ชื่อร้านอย่างง่ายๆ ว่า "เต่า พระเครื่อง"
"การที่พรรคพวกเพื่อนฝูงในวงการธุรกิจต่างๆ นิยมมาเช่าพระจากผม ก็เพราะผมสรรหาแต่พระแท้สวยดูง่ายให้เขาไปเสมอ เมื่อเอาไปให้ใครดูก็ไม่เคยมีปัญหากันเลย จะมีปัญหาได้อย่างไร ในเมื่อพระทุกองค์ผมจะซื้อจากเซียนพระสายตรงผู้ชำนาญในพระสายนั้นๆ พระทุกองค์จึงมีการรับประกันเป็นพระแท้เต็มร้อยอยู่แล้ว ที่ผ่านมาผมจะไม่ซื้อพระอย่างสะเปะสะปะ เพราะผมรู้ตัวเองดีว่ายังดูพระไม่เก่ง จึงต้องซื้อพระจากคนที่เชื่อถือได้เท่านั้น ทำให้ไม่มีปัญหาเรื่องพระเก๊แต่อย่างใด ผมยอมซื้อพระในราคาที่สูงกว่าทั่วๆ ไป ก็ไม่เป็นไร ขอให้เป็นพระแท้สวยดูง่ายก็พอใจแล้ว เพราะเชื่อว่า พระที่ซื้อมานั้นเก็บเอาไว้ไม่นานราคาที่ว่าสูงก็จะกลายเป็นพระราคาถูกลงทันที เพราะทุกวันนี้ราคาพระแท้พระสวยจะเพิ่มค่าขึ้นเรื่อยๆ ไม่หยุดอยู่กับที่อย่างแน่นอน" คุณเต่า กล่าว
ขณะเดียวกันเมื่อได้พระอะไรมาก็ตาม คุณเต่าจะเอาพระองค์นั้นขึ้นมาส่องดูอย่างตั้งอกตั้งใจ เป็นเวลานานๆ เพราะเป็นพระแท้องค์ครู การศึกษาพิจารณาพิมพ์ทรงองค์พระ และเนื้อหามวลสารจากองค์พระ จึงย่อมได้ข้อมูลที่ถูกต้องเสมอ และจะต้องจดจำให้ได้อย่างแม่นยำที่สุด เมื่อไปพบเห็นพระองค์อื่นๆ ที่เป็นพระพิมพ์เดียวกันรุ่นเดียวกัน ก็สามารถชี้ขาดได้ว่า เป็นพระแท้ หรือพระปลอม ถ้าเราให้คำตอบที่ถูกต้อง แสดงว่าสอบผ่านในพระพิมพ์นั้นๆ
อย่างไรก็ตาม คุณเต่า กล่าวด้วยว่า การเรียนรู้ในการดูพระเครื่องต่างๆ ซึ่งมีอยู่อย่างมากมายนั้น ย่อมมีไม่สิ้นสุด เรียนกันไม่จบ ผู้สนใจพระเครื่องจึงต้องเรียนรู้กันไปเรื่อยๆ ไม่ประมาท ไม่โลภไม่หลง สิ่งสำคัญคือ ต้องเป็นคนใจเย็น รอบคอบ และขยันในการฝึกฝนสายตาอยู่เสมอ เชื่อว่าสักวันหนึ่งจะดูพระได้เก่งเหมือนคนรุ่นพี่ๆ เช่นกัน
นอกจากนี้ คุณเต่า ยังได้เล่าเรื่องของชีวิตที่ผ่านมาว่า เคยเฉียดตายมาแล้ว ถึงขนาดได้ทำพินัยกรรมให้ลูกเมียไว้แล้ว คือ เมื่อปลายปี ๒๕๔๗ เกิดอาการไม่สบายขึ้นมาอย่างรุนแรง ส่วนของลำตัวท่อนบนร้อนผ่าวไปหมด ในขณะที่ปลายเท้ากลับเย็นเฉียบอย่างเหลือเชื่อ ได้ไปให้แพทย์ตามโรงพยาบาลดังๆ หลายแห่งตรวจรักษาก็ไม่หาย
วันหนึ่งได้ไปกราบไหว้ พระโพธิสัตว์เจ้าแม่กวนอิม ที่วัดเล่งเน่ยยี่ ขอพรกับท่านว่า หากลูกยังมีบุญอยู่ในโลกนี้ ขอให้เจ้าแม่กวนอิมบันดาลให้มีคนมาพาไปพบกับผู้มีความรู้ความสามารถที่จะรักษาอาการป่วยไข้ที่เป็นอยู่นี้ให้หายด้วย
ปรากฏว่า วันต่อมาได้มีผู้มาแนะนำให้ไปหา อาจารย์สุชาติ รัตนสุข ผู้เป็นศิษย์เอกของ หลวงพ่อแฉ่ง วัดบางพัง จ.นนทบุรี ซึ่งเป็น ครูคนแรก ที่ได้ประสิทธิประสาทวิชาทำน้ำมนต์ และรักษาโรคต่างๆ รวมทั้งการแก้คุณไสยให้แก่ อ.สุชาติ จนหมดสิ้น
คุณเต่า ได้รับการรักษาจาก อ.สุชาติ ด้วยสรรพวิชาที่ได้รับมาจากหลวงพ่อแฉ่ง โดยตรง จนอาการทั้งหลายได้หายเป็นปกติ เรียกได้ว่า ชีวิตที่รอดตายมาได้นี้ก็ด้วยบุญบารมีของหลวงพ่อแฉ่งอย่างแท้จริง ทำให้คุณเต่าเกิดความศรัทธาเลื่อมใสในบารมีของหลวงพ่อแฉ่งเป็นอย่างยิ่ง จึงได้ศึกษาประวัติของท่าน พร้อมทั้งเช่าหาพระเครื่องทุกชนิดที่ท่านปลุกเสก จนทุกวันนี้คุณเต่ามีพระเครื่องของหลวงพ่อแฉ่งจำนวนมากพอสมควร
พร้อมกันนี้ ก็ได้ไปกราบไหว้สักการะรูปหล่อของหลวงพ่อแฉ่ง ที่วัดบางพัง เป็นประจำ และได้รวบรวมเงินบริจาคจากญาติมิตรพี่น้อง เพื่อนำไปทำบุญบูรณปฏิสังขรณ์โบสถ์วิหารของวัดบางพัง จนสำเร็จเรียบร้อยทุกอย่าง และที่คุณเต่าภาคภูมิใจเป็นอย่างยิ่ง คือได้ไปบวชเทิดพระคุณถวายแด่หลวงพ่อแฉ่งที่วัดของท่านอีกด้วย
งานบุญอีกด้านหนึ่งที่คุณเต่าได้เป็นผู้มีส่วนร่วมด้วยช่วยกันอยู่ในขณะนี้ คือ โครงการก่อสร้าง พระพุทธมิ่งมงคลเอกนาคคีรี บนยอดเขานาคเกิด ต.กะรน อ.เมือง จ.ภูเก็ต ซึ่งเป็นพระพุทธรูปประจำเมืองภูเก็ต ขนาดหน้าตักกว้าง ๒๕.๔๕ เมตร ความสูง ๔๕ เมตร เป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัย ศิลปะแบบร่วมสมัย โครงสร้างคอนกรีตเสริมเหล็ก ประดับผิวด้วยหินอ่อนหยกขาวจากพม่า โดยมี คุณสุพร วนิชกุล ประธานมูลนิธิพระพุทธมิ่งมงคล ศรัทธา ๔๕ ซึ่งเป็นญาติผู้ใหญ่ของคุณเต่า เป็นประธานดำเนินงาน
ขณะเดียวกัน คุณเต่า ยังเป็นทีมงานคนหนึ่งของนิตยสาร "สปิริต" อันเป็นนิตยสารพระเครื่องชั้นนำที่ทรงคุณค่าฉบับหนึ่งของวงการพระ โดยทำหน้าที่เป็นผู้ประสานงานระหว่างกองบรรณาธิการ กับบรรดาเซียนพระในสนามท่าพระจันทร์, สนามพระชมรมพระเครื่องมรดกไทย ห้างพันธุ์ทิพย์ งามวงศ์วาน ฯลฯ โดยคุณเต่าบอกว่า ทั้งหมดนี้ทำด้วยใจรักชอบพรรคพวกเพื่อนฝูง และวงการพระอย่างแท้จริง