
กิตติชัย ไกรก่อกิจบริหารธุรกิจด้วย..."กาลามสูตร"
กิตติชัย ไกรก่อกิจบริหารธุรกิจด้วย..."กาลามสูตร" : พระเครื่องคนดัง เรื่อง / ภาพ ไตรเทพ ไกรงู
“กาลามสูตร” แปลว่า พระสูตรที่พระพุทธเจ้าทรงแสดงแก่ชาวกาลามะ หมู่บ้านเกสปุตติยนิคม แคว้นโกศล เรียกว่า เกสปุตตสูตร เป็นหลักแห่งความเชื่อที่พระพุทธองค์ทรงวางไว้ให้แก่พุทธศาสนิกชน ไม่ให้เชื่อสิ่งใดๆ อย่างงมงายโดยไม่ใช้ปัญญาพิจารณาให้เห็นจริงถึงคุณโทษหรือดีไม่ดีก่อนเชื่อ มีอยู่ ๑๐ ประการคือ
๑.อย่าเชื่อโดยฟังตามกันมา ๒.อย่าเชื่อโดยเหตุสักว่าตามสืบๆ กันมา ๓.อย่าเชื่อโดยตื่นข่าว ๔.อย่าเชื่อโดยอ้างปิฎก ๕.อย่าเชื่อโดยนึกเดาเอาเอง ๖.อย่าเชื่อโดยคาดคะเน ๗.อย่าเชื่อโดยการตรึกตรองตามอาการ ๘.อย่าเชื่อโดยเห็นว่าถูกตามลัทธิของตน ๙.อย่าเชื่อโดยเห็นว่าผู้พูดควรเชื่อได้ และ ๑๐.อย่าเชื่อโดยถือว่า สมณะนี้เป็นครูของเรา
ปัจจุบันได้เกิดแนวคิดและหลักสูตรโดยใช้ให้คนมีเหตุผล ไม่หลงเชื่องมงาย ในทำนองเดียวกับหลักกาลามสูตรซึ่งเป็นคำสอนของพระพุทธองค์ เมื่อ ๒๕๐๐ ปีก่อนบรรจุไว้ในกระบวนการเรียนรู้ใน ประเทศพัฒนาแล้ว เรียกว่า "การคิดเชิงวิจารณ์" (Critical thinking)
"พระพุทธเจ้าทรงสอนว่า จงอย่าเชื่ออย่างงมงายโดยไม่ใช้ปัญญา ฉะนั้นจึงต้องใช้สติพิจารณาให้เห็นคุณ เห็นโทษ หรือดีไม่ดี ก่อนที่จะเชื่อ ซึ่งผมนำหลักคำสอนของพระพุทธองค์มาปรับใช้ หมายความว่าถ้าคุณทำอะไรแล้วไม่กระทบคนอื่น และไม่กระทบตัวเองก็ถือว่า win win ที่ว่าจะทำอะไรก็ตามต้องได้ประโยชน์ร่วมกัน ซึ่งปีหนึ่งๆ สิ่งที่สร้างขวัญและกำลังใจให้ตัวแทนจำหน่าย คือ การให้ทุนการศึกษาพนักงานที่เป็นลูกจ้างของตัวแทนจำหน่ายประมาณปีละ ๙๐๐ ทุน โดยแจกติดต่อกันมากว่า ๑๐ ปี แล้ว"
นี่เป็นคำยืนยันของนายกิตติชัย ไกรก่อกิจ กรรมการผู้จัดการ บริษัท โสสุโก้ แอนด์ กรุ๊ป (2008) จำกัด ผู้นำธุรกิจด้านการตลาดและการขายผลิตภัณฑ์กระเบื้องปูพื้นและบุผนัง เหมือนจะเป็นผู้คร่ำหวอดในวงการการตลาดกระเบื้องเซรามิกปูพื้นและบุผนัง ทั้งนี้ เพราะเขาอยู่ในยุทธจักรนี้มากว่า ๓๐ ปี
นายกิตติชัย บอกว่า ธรรมะของพระพุทธเจ้า ถ้านักธุรกิจนำมาใช้บริหารธุรกิจรับรองว่าธุรกิจรุ่งเรืองเจริญเติบโตขึ้นอย่างแน่นอน หลักสูตรบริหารธุรกิจที่ฝรั่งต่างชาตินำมาสอนเป็นธรรมะของพระพุทธเจ้าทั้งสิ้น จริงๆ แล้วหลักบริหารธุรกิจใดๆ ก็ไม่สู้หลักธรรมของพระพุทธจ้า หลักบริหารธุรกิจที่เราบินข้ามน้ำข้ามทะเลไปเรียนถึงเมืองนอก ไม่ได้วิเศษหรือนอกเหนือจากหลักธรรมของพระพุทธเจ้าที่สอนมากว่า ๒,๕๐๐ ปีแล้ว ปัจจุบันพระไตรปิฎก ได้มีการแปลให้อ่านง่ายเข้าใจง่าย คนที่อ่านและทำความเข้าใจพระไตรปิฎกย่อมนำมาใช้บริหารธุรกิจได้อย่างแน่นอน
ปกติแล้วหากเว้นว่างจากการทำงานประจำก็กราบไหว้ขอพรหลวงพ่อทองคำวัดไตรมิตร แต่ถ้าเป็นวันเกิด รวมทั้งทำบุญบริษัทก็จะนิมนต์พระจากวัดอาวุธ เพราะเป็นวัดใกล้บ้านท่านเดินทางสะดวก แต่เมื่อครั้งทำบุญเปิดบริษัทที่ริมถนนรัชดาได้นิมนต์พระสงฆ์จาก ๙ ชาติ ซึ่งพระสงฆ์เหล่านี้ท่านเดินทางมาประชุมพุทธศาสนาโลก และนับจากนั้นเป็นต้นมาธุรกิจส่งออกก็ดีขึ้นอย่างต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบันนี้
นอกจากนี้แล้วบุญอย่างหนึ่งที่ทำมากว่า ๑๐ ปี คือ พิมพ์หนังสือธรรมแจกเป็นธรรมทานรวมแล้วหลายหมื่นเล่ม ทั้งนี้ เมื่อเห็นธรรมะของพระรูปใดที่อ่านแล้วเข้าใจง่าย เป็นประโยชน์ และท่านไม่สงวนลิขสิทธิ์ โดยเฉพาะเล่มที่ ๑๑ ไม่รู้จักพระผู้เขียนว่าท่านเป็นใคร แต่ท่านเขียนไว้ว่าไม่สงวนลิขสิทธิ์หากพิมพ์เป็นธรรมทาน จึงมาพิมพ์แจกเลย
เมื่อถามถึงปาฏิหาริย์ นายกิตติชัยบอกว่า ได้สัมผัสมากับตัวเองนับครั้งไม่ถ้วน โดยครั้งหนึ่งเคยพาพนังงานและตัวแทนจำหน่ายไปเที่ยวฮ่องกงและเกาะลันเตา เพื่อไปกราบไหว้พระพุทธรูปองค์ใหญ่บนภูเขา โดยในวันนั้นเมฆหมอกปกคลุมมองไม่เห็นพระพักตร์ขององค์พระเพื่อชมบารมี ระหว่างเดินสวดมนต์ ๙ รอบ พร้อมๆ กับอธิษฐานจิตว่า ขอให้เมฆหมอกหมดไปเพื่อชมพระพักตร์ ซึ่งไม่น่าเชื่อเลยว่าหลังเดินครบ ๙ รอบ เมฆหมอกก็หายไปให้ทุกคนได้ถ่ายรูปกันนานถึง ๕ นาที
สำหรับพระเครื่องที่แขวนติดตัวเป็นปะจำนั้น นายกิตติชัย บอกว่า ปกติเป็นคนไม่แขวนพระ แต่มีเพื่อนคนหนึ่งให้พระมา ๒ องค์ โดยไม่ได้บอกให้รู้ว่าเป็นพระอะไร เพียงบอกสั้นๆ ว่า “เป็นพระดี เป็นพระเก่า แขวนแล้วจะมีสิ่งดีๆ เข้ามาในชีวิต” นอกจากนี้แล้วสิ่งหนึ่งที่ทำอยู่เป็นประจำ คือ สวดคาถาชินบัญชร อิติปิโสฯ รวมทั้งคาถาเงินล้าน ของหลวงพ่อฤาษีลิงดำ แห่งวัดท่าซุง โดยจะสวดทุกครั้งที่นึกได้
เทศมหาชาติศิษย์เก่าวัดไตรมิตร
นายกิตติชัย บอกว่า ในฐานะที่เป็นนายกสมาคมนักเรียนเก่าสามจีน-ไตรมิตรวิทยาลัย ระหว่างวันที่ ๒๑-๒๒ พฤศจิกายน ๒๕๕๔ คณะกรรมการสถานศึกษาขึ้นพื้นฐานโรงเรียนวัดไตรมิตรวิทยาลัย สมาคมผู้ปกครองและครูโรงเรียนไตรมิตรวิทยาลัย เครือข่ายผู้ปกครองและครูโรงเรียนวัดไตรมิตรวิทยาลัย ผู้บริหาร ครู และนักเรียนวัดไตรมิตรวิทยาลัย จะจัดงานเทศน์มหาชาติขึ้น ณ ใต้พระมหามณฑปวัดไตรมิตรวิทยารามวรวิหาร
งานเทศน์มหาชาติ เพื่อเป็นมหากุศลเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสเฉลิมพระชนมพรรษา ๕๔ พรรษา และทรงครองสิริราชสมบัติ ๖๕ โดยได้รับความเมตตาจากพระพรหมเวที เจ้าอาวาสวัดไตรมิตรวิทยารามวรวิหาร เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ และได้รับเกียรติจาก ฯพณฯ พล.อ.พิจิตร กุลละวณิชย์ องคมนตรี เป็นประธานฝ่ายฆราวาส และในวันที่ ๒๖ พฤศจิกายน ๒๕๕๔ จะมีจัดงาน ๑๑๕ ปี ราตรีดอกพุดตาน ของสมาคมนักเรียนเก่าสามจีน-ไตรมิตรวิทยาลัย เวลา ๑๘.๐๐ น. ณ โรงเรียนไตรมิตรวิทยาลัย
มีคติความเชื่อว่าอานิสงส์การฟังเทศน์มหาชาติ การตั้งใจฟังเทศน์มหาชาติให้จบเพียงวันเดียวครบบริบูรณ์ ทั้ง ๑๓ กัณฑ์จะเป็นเหตุให้สำเร็จความปรารถนาทุกประการดังนี้ ๑.เมื่อตายจากโลกนี้แล้ว จะได้สมบัติ ๓ ประการ คือจะได้มนุษย์สมบัติ สวรรค์สมบัติ และนิพพานสมบัติ ๒.เมื่อตายไปแล้วจะไปเกิดในสุคติโลกสวรรค์ ๓.เมื่อตายไปแล้วรับประกันได้ว่าจะไม่ตกลงไปในอบาย หรือที่เราเรียกกันว่าจะไม่ตกนรก และ ๔.เมื่อถึงยุคพระพุทธเจ้าพระนามว่า ศรีอริยเมตไตรย เทพบุตร เทพธิดา ที่เคยฟังเทศน์มหาชาติเหล่านั้น จักได้จุติลงไปเกิดเป็นมนุษย์ พร้อมด้วย ลาภ ยศ พบแต่ความสุขนิจนิรันดร์" นายกิตติชัยกล่าว