พระเครื่อง

'หัวใจพระสีวลี'หรือพระคาถาข่ายเพชรพระพุทธเจ้า

'หัวใจพระสีวลี'หรือพระคาถาข่ายเพชรพระพุทธเจ้า

06 ก.ย. 2554

"หัวใจพระสีวลี"หรือพระคาถาข่ายเพชรพระพุทธเจ้า : ชั่วโมงเซียน อ.โสภณ

           เกียรติคุณและบารมีของ “พระครูธรรมพลาธร” หรือที่ชาวบ้านเรียกขานกันติดปากว่า “พ่อท่านพรหม ธัมมธีโร” แห่งวัดพลานุภาพ ต.ทุ่งพลา อ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี เริ่มโด่งดังมากยิ่งขึ้น สืบเนื่องจากวัตถุมงคลที่แจกให้ชาวบ้าน ทหาร ตำรวจ และข้าราชการที่ปฏิบัติหน้าที่ใน ๓ จังหวัดชายแดนภาคใต้ มีประสบการณ์ประจักษ์ในหลายๆ ด้าน เช่น ยิงไม่เข้า ยิงไม่ออก บางรายโดนขว้างระเบิดใส่ แต่ก็ไม่ได้รับบาดเจ็บใดๆ เลย

            เมื่อว่างเว้นจากการปฏิบัติศาสนกิจแล้ว “พ่อท่านพรหม” จะลงมือพัฒนาอาณาบริเวณวัดด้วยตัวเอง รวมไปถึงการบริกรรมคาถา และปลุกเสกวัตถุมงคลในโบสถ์มหาอุดของวัด เพื่อมอบให้พลเรือน ตำรวจ ทหาร ในพื้นที่ ๓ จังหวัดไว้เป็นขวัญกำลังใจ ทหารตำรวจที่ลงไปปฏิบัติหน้าที่ หากมีเวลาว่างก็จะเดินทางไปขอรับวัตถุมงคลจากท่าน

            แม้ว่าวัดจะตั้งอยู่ใน ๓ จังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งเป็นพื้นที่สีแดง แต่ท่านไม่คิดจะไปไหน โดยท่านมักพูดให้ลูกศิษย์ฟังเสมอว่า "ลมหายใจทั้งหมดของชีวิตที่มีขออุทิศให้ประเทศชาติ พระพุทธศาสนา และพระมหากษัตริย์ จะยืนหยัดสืบสานให้คำสอนของพระพุทธองค์ให้คงประจักษ์อยู่ในแดนดินแห่งนี้ ไม่ว่าสถานการณ์จะเป็นอย่างไร"

            วัตถุมงคลของท่าน ที่ได้ปลุกเสกอธิษฐานจิตเดี่ยว เมื่อมีชาวบ้าน เจ้าหน้าที่ข้าราชการ ที่ได้รับแจก เมื่อได้นำติดตัวไปใช้ ต่างก็เกิดมีประสบการณ์ ให้เห็นเป็นที่ประจักษ์ ในทุกๆ ด้าน ทหารหลายคนที่มีวัตถุมงคลของท่านต่างก็พูดเป็นเสียงเดียวกันว่า "มีความมั่นใจในการออกปฏิบัติหน้าที่" สำหรับบางคนก็ได้รับโชคลาภ ค้าขายดี จนปัจจุบันนี้ พุทธศาสนิกชนทั้งใกล้และไกลต่างก็หลั่งไหลไปที่วัดพลานุภาพทุกวัน ตลอดจนชาวต่างประเทศ มาเลเซีย สิงคโปร์ ต่างก็เดินทางมากราบนมัสการขอพรท่าน อย่างสม่ำเสมอ ทุกวันมิได้ขาด

            สำหรับพุทธคุณวัตถุมงคลของพ่อท่านพรหม เกิดจากหลายๆ ส่วนรวมกัน ทั้งนี้ต้องยอมรับว่า ส่วนหนึ่งเกิดจากอักขระเลขยันต์ที่ลงบนวัตถุมงคล ฉบับนี้จึงขอหยิบยันต์ ที่ปรากฏบนวัตถุมงคลพ่อท่านพรหม รุ่นบารมีพรหม ประกอบด้วย เหรียญเม็ดแตงพ่อท่านพรหม รูปหล่อพิมพ์หล่อโบราณ ล็อกเกตรูปไข่พ่อท่านพรหมเต็มองค์ (พิมพ์สี่เหลี่ยม และพิมพ์ไข่ปลาใหญ่) กำไล ผ้ายันต์มหาเศรษฐี กุมารพรหม เพื่อหาปัจจัยสมทบทุนจัดสร้างวิหารสำหรับประดิษฐานรูปเหมือนหลวงปู่ทวดเนื้อโลหะขนาดเท่าองค์จริง รวมทั้งเพื่อใช้เป็นทุนในการจัดงานบุญงานกุศลของวัด

            ยันต์ที่เขียนลงบนล็อกเกตทั้งสี่เหลี่ยมและรูปไข่ รอบๆ องค์หลวงหลวงพ่อ คือ หัวใจพระฉิม หรือ หัวใจพระสีวลี ที่ว่า “นะชาลีติ” แต่เขียนควงกันป็นกลบท ๓ รอบ ไล่จากหัวเข่าด้านซ้ายของหลวงพ่อ อ่านได้ดังนี้ “นะ ชา ลี ติ ติ นะ ชา ลี  ชา ลี ติ นะ” การเขียนควงเพื่อให้เกิดสมาธิในการภาวนา เพราะการเรียงตัวง่าย แต่ถ้าเป็นการอ่านควงจะต้องใช้สมาธิมากกว่าปกติ ซึ่งพบในการเขียนยันต์อื่นๆ เช่น

            “นะ โม พุท ธา ยะ” เขียนควงได้หลายแบบ ยะ ธา พุท โม นะ, โม พุท ธา ยะ มะ, และ พุท ธา ยะ นะ โม
            “จะ พะ กะ สะ” เขียนควงได้หลายแบบ สะ กะ พะ จะ สะ, พะ กะ จะ และ กะ สะ จะ พะ
            "มะ อะ อุ” เขียนควงได้หลายแบบ มะ อุ อะ, อุ อะ มะ, อุ มะ อะ, อะ มะ อุ และ อะ อุ มะ

            คาถาพระฉิม หรือ หัวใจพระสีวลี เป็นคาที่พระพุทธเจ้าพระราชทานแก่พระอานนท์ ที่เรียกกันว่า พระคาถาข่ายเพชรพระพุทธเจ้าที่ว่า “ชาโล มหาชาโล ชาลัง มหาชาลัง ชาลิเต มหาชาลิเต ชาลิตัง มหาชาลิตัง มุตเต มุตเต มุตตัง สัมปัตตัง สุตัง คะมิติ สุตัง มัคคะยีติ ทิฎฐิลา ทัณฑะลา มัณฑะลา โรคิลา ริตติ ริตติ กิตติ กิตติ มิตติ มิตติ จิตติ จิตติ มุตติ มุตติ จุตติ จุตติ ธาระณี ธาระณีติ อิทัง ธาระณะ ประริตตัง ฯ”

            คาถาหัวใจพระสีวลี มีอุปเท่ห์การใช้ได้ครอบจักรวาล ซึ่งปกติแล้วคนทั่วๆ ไปจะเข้าใจว่ามีพุทธทางค้าขายโชคลาภเท่านั้น แต่ความจริงยังมีพุทธคุณ ด้านแคล้วคลาด ป้องกันภัยด้วย เพราะเป็น "คาถาที่สมเด็จสัมมาสัมพุทธเจ้าพระราชทานให้แก่พระอานนท์มหาเถระ เมื่อได้ท่องคาถานี้จะพ้นจากความทุกข์ยาก หมู่เทพยดามาประชุมกันรักษาป้องกันสรรพภัยอันตราย"

            ส่วนยนต์ที่ลงไว้ระหว่างชื่อ “พ่อท่านพรหม" คือ ยันต์หัวใจพระไตรปิฎก ที่ว่า “มะ อะ อุ”

            นอกจากนี้ยังมียันต์ที่อยู่ใต้ตัวเฑาะว์ อุณาโลม คือ หัวใจฤาษีที่ว่า “รึ รือ ลึ ลือ” (ฤ ฤา ฎ ฎา)

            ในส่วนของยันต์ที่ลงกำไล ยันต์รอบองค์หลวงพ่อ คือหัวใจพระฉิม หรือ หัวใจพระสีวลี ที่ว่า “นะชาลีติ” ด้านในลงยันต์ พะเจ้า ๕ พระองค์ ที่ว่า นะ โม พุท ธา ยะ เป็นการเขียนเพื่อความสวยงาม ในลักษณะซ้อนกัน หรือที่เรียกว่า การเขียนแบบยันต์ตลก สุดแล้วแต่พระเกจิรูปใดจะประดิษฐ์ขึ้นมา มีอุปเท่ห์ว่า เขียนปิดทุกตัวจะเน้นพุทธคุณด้านมหาอุด ถ้าเขียนเปิดใช้ทางแคล้วคลาด

            รวมทั้ง ลูกกรอก ยันต์ที่ปรากฏด้านหลัง คือ “ชา ลี” หัวไหล่ ขวา “นะ” หัวไหล่ซ้าย “ติ” ด้านหน้า คือ ยันต์ “นะ อุณาโลม”


ยันต์แม่ธาตุใหญ่


            เหรียญรูปไข่ คือ ด้านหลังเป็นยันต์พระเจ้า ๕ พระองค์ ซึ่งถือว่าเป็นยันต์แม่ธาตุใหญ่ ที่ว่า นะ โม พุท ธา ยะ เป็นการเขียนเพื่อความสวยงาม ในลักษณะซ้อนกัน หรือที่เรียกว่า การเขียนแบบยันต์ตลก สุดแล้วแต่พระเกจิรูปใดจะประดิษฐ์ขึ้นมา มีอุปเท่ห์ว่า เขียนปิดทุกตัวจะเน้นพุทธคุณด้านมหาอุด ถ้าเขียนเปิดใช้ทางแคล้วคลาด

            พระพุทธรูปพระพุทธเจ้า ๕ พระองค์ หมายถึงพระพุทธเจ้า ๕ พระองค์ที่ตรัสรู้ในภัทรกัปปัจจุบันนี้ คือ พระกกุสันธะ พระโกนาคมนะ พระกัสสปะ พระโคตมะ และพระเมตเตยยะ หรือพระศรีอริยเมตไตรย

            ที่มาของ พระคาถาพระเจ้า ๕ พระองค์ เป็นการเขียนโดยใช้ตัวย่อนามพระพุทธเจ้าแต่ละพระองค์ คือ


 นะ หมายถึง พระกุกกุสันโธ ใช้เขียนแทน ธาตุน้ำ ซึ่งเรียกว่า อาโปธาตุ มีกำลังเท่ากับ ๑๒
 โม หมายถึง พระโกนาคม ใช้เขียนแทน ธาตุดิน ซึ่งเรียกว่า ปฐวีธาตุ มีกำลังเท่ากับ ๒๑
 พุท หมายถึง พระกัสสปะ ใช้เขียนแทน ธาตุไฟ ซึ่งเรียกว่า เดโชธาตุ มีกำลังเท่ากับ ๖
 ธา หมายถึง พระสมณะโคดม (พระพุทธเจ้าองค์ปัจจุบัน) ใช้เขียนแทน ธาตุลม ซึ่งเรียกว่า วาโยธาตุ มีกำลังเท่ากับ ๗

            ยะ หมายถึง พระศรีอริยเมตไตรย (พระพุทธเจ้าองค์ถัดไป หลัง พ.ศ.๕๐๐๐) ใช้เขียนแทน อากาศธาตุ มีกำลังเท่ากับ ๑๐ เมื่อรวมกำลังธาตุทั้ง ๕ ก็จะเป็นคุณพระพุทธเจ้า ๕๖

            คาถาพระเจ้า ๕ พระองค์ เป็นคาถาที่นิยมใช้กันมาก เพื่อความเป็นสิริมงคล ป้องกันสิ่งไม่ดีต่างๆ ซึ่งเป็นที่นิยมสวดกันมากที่สุด คือ พระคาถาพระเจ้า ๕ พระองค์ ของหลวงพ่อโสธร จ.ฉะเชิงเทรา ดังนี้

            ตั้งนะโม ๓ จบ "นะ ทรงฟ้า โม ทรงดิน พุทธ ทรงสินธุ์ ธา ทรงสมุทร ยะ ทรงอากาศ พุทธังแคล้วคลาด ธัมมังแคล้วคลาด สังฆังแคล้วคลาด ศัตรูภัยพาล วินาศสันติ นะกาโร กุกกุสันโธ สิโรมัชเฌ โมกาโร โกนาคะมะโน นานาจิตเต พุทธกาโร กัสสะโป พุทโธ จะ ทะเวเนเต ธา กาโร ศรีศากะยะมุนี โคตะโม ยะกันเน ยะกาโร อะริยะ เมตตรัยโย ชิวหาทีเต ปัญจะพุทธา นะมามิหัง"