พระเครื่อง

คณะศิษย์'เข็มทองคะนองฤทธิ์'ร่วมพิธีไหว้ครู

คณะศิษย์'เข็มทองคะนองฤทธิ์'ร่วมพิธีไหว้ครู

01 ก.ย. 2554

คณะศิษย์'เข็มทองคะนองฤทธิ์'ร่วมพิธี 'ไหว้ครู' อย่างเนืองแน่น : ศิษย์กวง

           การไหว้ครู ถือเป็นเอกลักษณ์ทางประเพณีของคนไทย เป็นการแสดงออกถึงการให้ความเคารพเทิดทูนคุณครูบาอาจารย์ ผู้ถ่ายทอดสรรพวิชาความรู้ให้ศิษย์ ด้วยความรัก ความเมตตา และปรารถนาดี ถึงแม้กาลเวลาจะเคลื่อนผ่านไปนานเพียงใดก็ตาม คนไทยและวัฒนธรรมไทยก็ยังคงให้ความสำคัญกับประเพณีนี้อยู่ โดยถือเป็นคุณธรรมที่สำคัญอย่างสูง

            การไหว้ครู นอกจากจะเป็นการแสดงให้เห็นถึงการรู้จักบุญคุณของผู้ให้ความรู้แล้ว ยังเชื่อกันว่า ผลของการที่ได้ชื่อว่าเป็นผู้ที่รู้จักการตอบแทนบุญคุณก็จะส่งผลเกื้อหนุนให้ผู้นั้นมีแต่ความเจริญรุ่งเรือง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง กับศาสตร์เร้นลับต่างๆ เช่น ไสยศาสตร์ โหราศาสตร์ ฯลฯ ถือเป็นเรื่องสำคัญและต้องปฏิบัติเป็นอันดับต้นๆ กันเลยทีเดียว

            วิชาเข็มทองคะนองฤทธิ์ ในแง่มุมหนึ่งถือเป็นศาสตร์เร้นลับ เพราะเป็นการฝังเข็มประกอบอาคม ส่วนในอีกมุมหนึ่งถือเป็นภูมิปัญญาในการรักษาตนให้มีสติของคนไทยในอดีต ความเข้มแข็งและความขลังของการฝังเข็มประกอบอาคมนี้ ได้ถูกรับรองด้วยประสบการณ์ เช่น ช่วยให้เกิดสง่าราศีกับตนเอง ช่วยเตือนภัยเวลามีเหตุร้าย ร่วมไปถึงในเรื่องของคงกระพันชาตรี ที่มีมาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน

            เมื่อวันอาทิตย์ที่ ๒๑ สิงหาคม ๒๕๕๔ คณะศิษย์เข็มทองคะนองฤทธิ์ ได้จัดให้มี พิธีบูชาครูบูรพาจารย์ ๕๔ ขึ้น ณ วัดบางแวก ถนนจรัญสนิทวงศ์ ซอย ๑๓ (ซอยพาณิชยการธนบุรี) เขตภาษีเจริญ กทม. โดยมี พระครูสรพาจน์โฆษิต (พระอาจารย์มนตรี ฐิตโสภโน) วัดบางแวก เป็นหัวเรียวหัวแรงในการจัดงาน รวมทั้งได้นิมนต์ หลวงพ่ออภิญญา คณุตตโม วัดบางพระ จ.นครปฐม มาร่วมงานเพื่อความเป็นสิริมงคล และที่สำคัญ คือ อาจารย์ประคอง รุ่นเจริญ เป็นประธานในพิธีฝังเข็มทองให้กับผู้มีจิตศรัทธาเลื่อมใสโดยทั่วหน้ากัน

            การจัดงานในครั้งนี้ ได้รับความสนใจจากลูกศิษย์และผู้สนใจจำนวนมาก สังเกตได้จากปริมาณของผู้เข้าร่วมพิธีที่แน่นวัด และจำนวนร้านอาหารที่มาร่วมตั้งโรงทาน คอยบริการอาหารและเครื่องดีฟรี แก่ผู้คนที่มีมากขึ้นกว่าทุกปีที่ผ่านมา บางคนมาร่วมงานในฐานะลูกศิษย์เก่า ที่เคยได้รับการฝังเข็มไปแล้ว ในขณะที่บางคนมาร่วมงานเพราะได้รับรู้ถึงคุณประโยชน์ของการฝังเข็ม ฯลฯ

            ในงานไหว้ครูดังกล่าว นอกจากจะมีการฝังเข็มทอง ๑๐๘ ชุดแล้ว พระอาจารย์หนุ่ม ยังได้จัดให้มีการฝัง "ตะกรุดมอญสารพัดดี" ตำรับ ปู่วร ก้อนใบ "ตะกรุดดรุณีใจอ่อน" ตำรับ หลวงพ่อไสว วัดปรีดาราม และ "ตะกรุดร้อยเยาวมาลย์" ตำรับ เสด็จในกรมหลวงชุมพรฯ อีกอย่างละ ๑๐๘ ชุด เพื่อให้เกิดการกระจาย และทั่วถึงแก่ผู้เข้าร่วมพิธีทุกคน

            คุณสุชิต หนึ่งในผู้เข้าร่วมพิธีเล่าว่า "ผมเดินทางมาจาก จ.ตราด เมื่อปีที่แล้วได้เข้าร่วมงานและได้รับการฝังเข็มทองจาก อ.ประคอง เมื่อกลับไปบ้านได้ปฏิบัติตามคำสั่งของครูบาอาจารย์ และทดสอบอานุภาพของเข็มทองด้วยตนเอง โดยใช้วิธีเรียกเข็มทองให้เคลื่อนที่ไปมา เมื่อเห็นว่า สามารถทำได้จริง ในปีนี้จึงได้เดินทางมาร่วมงานอีก โดยมาถึงวัดบางแวกประมาณเที่ยงคืน ได้นอนพักที่ศาลาของวัด เพื่อรอรับบัตรคิวในตอนเช้า เดิมคิดว่า ผมคงเป็นผู้ที่เดินทางมาไกลที่สุด แต่เท่าที่คุยกับคนที่นอนพักในศาลาด้วยกัน ปรากฏว่า มีบางคนมาจากหาดใหญ่ เชียงใหม่ บุรีรัมย์ ในปีนี้ทราบว่า อ.ประคอง ได้จัดทำ เข็มครู ซึ่งเป็นเข็มทองที่มีขนาดใหญ่กว่าเข็มทองปกติ จึงได้อธิษฐานของบารมีจาก หลวงปู่พิมพ์มาลัย ขอให้ได้รับบัตรคิวเข็มครู ซึ่งเมื่อจับฉลากแล้วปรากฏว่าได้รับเข็มครูตามที่อธิษฐานไว้จริงๆ"

            คุณสุชิต ยังได้กล่าวอีกว่า อ.ประคอง ท่านสอนว่า การฝังเข็มทองเป็นกุศโลบายเพื่อนำคนให้เข้าสู่องค์ภาวนา คือ พุทโธ การภาวนามากๆ นอกจากจะทำให้เข็มทองมีฤทธิ์แล้ว ยังเป็นการส่งเสริมบุญกุศลให้กับตนเองอีกด้วย 

            ขณะเดียวกัน คุณหลุยส์ นักศึกษาไทยจากประเทศจีน เป็นอีกคนหนึ่งที่เข้าร่วมพิธีไหว้ครูครั้งนี้ เล่าว่า "ผมสนใจในเรื่องไสยศาสตร์นี้มาก แต่ไม่มีความเข้าใจจริง ได้ศึกษาจากการอ่านหนังสือและอาศัยดูตามเว็บไซต์ต่างๆ จนเมื่อมาอ่านพบข่าวในเว็บไซต์ของ นสพ.คม ชัด ลึก จึงได้ตัดสินใจเดินทางมาจากเมืองจีน เพื่อเข้ารับการฝังเข็มทอง แต่บัตรหมด จึงได้แต่ให้อาจารย์ครอบเศียรครูให้อย่างเดียว อ.ประคอง ท่านใจดีและน่ารักมาก ผมดูท่านนั่งครอบเศียรครูตั้งแต่เช้าจนถึงเย็น โดยไม่มีการบ่นหรือลุกขึ้นไปไหน ใครเข้ามาขอให้ทำอะไรเพิ่มเติม เช่น เป่าทอง ท่านก็จะทำให้ด้วยความเต็มใจ และยิ้มแย้มแจ่มใสเสมอ ท่านเป็นผู้ที่มีจิตใจดี สมกับเป็นครูบาอาจารย์จริงๆ ส่วนพระอาจารย์หนุ่ม ก็ใจดีมากเช่นกัน" 

            คุณหลุยส์ กล่าวต่ออีกว่า ถึงตนเองจะไม่ได้ฝังเข็มทองตามที่ตั้งใจ แต่ก็ไม่ได้รู้สึกผิดหวังอะไรมากนัก เพราะคนที่มาถึงวัดก่อนตน ก็ยังไม่ได้ แต่ก็ยังโชคดีที่ระหว่างนั่งดู อ.ประคอง ครอบเศียรครู ได้พบคุณสุชิต และเมื่อได้คุยกันก็ถูกอัธยาศัยกันดี คุณสุชิตจึงได้เสียสละบัตรคิวฝังตะกรุดมอญสารพัดดีให้ อ.ประคอง สอนว่า ฝังตะกรุดไปแล้วก็ต้องหมั่นทำตัวให้ดีด้วย เพราะถ้าเราทำตัวดี ถึงจะไม่มีเข็ม เราก็จะไม่มีอันตราย แต่ถ้าเรามีเข็ม และไปทำตัวไม่ดี เราก็อาจตายได้ คำสอนของอาจารย์ จะไม่บอกให้ลูกศิษย์เชื่อมั่นอะไรมากไปกว่า คำสั่งสอนของพระพุทธเจ้า เพราะท่านบอกว่า ให้ทุกคนมี 'พุทโธ' ไว้ในใจตลอดเวลา

            สำหรับ ปัจจัยต่างๆ ที่ได้รับจากค่าขันครู ค่าทำบุญตะกรุด และที่ศิษย์ทั้งหลายได้มีจิตศรัทธาร่วมทำบุญกับ อ.ประคอง ในครั้งนี้ อ.ประคอง ได้นำไปบริจาคให้กับโรงพยาบาลสงฆ์ พญาไท ในวันรุ่งขึ้น เหมือนเช่นทุกปีที่ผ่านมา สำหรับปีนี้ได้รับเงินบริจาคทั้งสิ้น ๒ แสนบาท รวมกับของปีก่อนๆ แล้วได้ยอดเงินทั้งหมด ๑.๒ ล้านบาท