
'ประยูรเดช'ทายาทผู้สร้างหลวงพ่อทวดรุ่นแรก
ประยูรเดช คณานุรักษ์ทายาทตระกูลผู้สร้างพระหลวงพ่อทวดรุ่นแรก : สรณะคนดัง เรื่อง / ภาพ สุพิชฌาย์ รัตนะ ศูนย์ข่าวภาคใต้
วัดช้างให้ มัสยิดกรือเซะ และศาลเจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยว ศาสนสถาน ๓ แห่ง ถือเป็นสัญลักษณ์อันสำคัญของ จ.ปัตตานี ซึ่งย้ำให้เห็นถึงความหลากหลายทางวัฒนธรรม ต่างศาสนา และชาติพันธุ์ ที่อยู่ร่วมกันอย่างสันติสุขมาเนิ่นนาน นับแต่อดีตมาจวบจนปัจจุบัน
“คณานุรักษ์” คือหนึ่งในตระกูลเก่าแก่ที่บรรพบุรุษเดินทางมาจากแผ่นใหญ่และตั้งรกรากถิ่นฐานในดินแดนปลายคาบสมุทรแหลมมลายูแห่งนี้ นับแต่เมื่อครั้งสมัยล้นเกล้ารัชกาลที่ ๓ โดยได้ทำมาหากินมีลูกเต็มบ้านมีหลานเต็มเมืองมาจนถึงปัจจุบัน
นอกจากบทบาทอันสำคัญทางด้านเศรษฐกิจต่อพื้นที่เมืองปัตตานี ในฐานะนายด่านภาษี ดูแลและเก็บภาษีคนจีนในตลาดจีนที่อาเนาะรู (ตำบลหนึ่งของอำเภอเมืองปัตตานีปัจจุบัน) จนได้รับพระราชทานบรรดาศักดิ์ให้เป็น “หลวงสำเร็จกิจกร จางวางเมืองปัตตานี” และยังเป็นส่วนสำคัญหน้าหนึ่งของตำนานอันสำคัญแห่งปฐมบทของการสร้าง “พระหลวงพ่อทวด” ครั้งแรกในอดีตอีกด้วย
นายประยูรเดช คณานุรักษ์ รองนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) ปัตตานี ในฐานะลูกหลานพระจีนสายคณานุรักษ์ บอกว่า นับตั้งแต่รุ่นบรรพบุรุษมาจนถึงรุ่นลูกรุ่นหลาน ทุกคนล้วนมีความผูกพันกับ “วัดช้างให้" เป็นอย่างมาก ด้วยประการแรกเป็นศาสนสถานที่ตั้งอยู่ใกล้บ้าน และในยุคอดีตปู่ ย่า ตา ยาย ได้ร่วมทำนุบำรุงพระพุทธศาสนาด้วยการบูรณะวัดแห่งนี้ร่วมกับ “พระอาจารย์ทิม ธัมมธโร” เจ้าอาวาสวัดช้างให้ ในขณะนั้น ที่สำคัญคือ ในการสร้างพระหลวงพ่อทวด เนื้อว่าน รุ่นแรก แห่งวัดช้างให้ เมื่อ พ.ศ.๒๔๙๗ กรรมการฝ่ายฆราวาส มีนายอนันต์ คณานุรักษ์ นายชาติ สิมสิริ นายกวี จิตกุล นายวิศิษฐ์ คณานุรักษ์ นายวิทยา คณานุรักษ์ นายสุนันท์ คณานุรักษ์ และนายจำรูญ คณานุรักษ์ เห็นได้ว่าเกือบทั้งหมดล้วนมาจากครอบครัวตระกูล “คณานุรักษ์”
ไม่เพียงเท่านั้น ส่วนประกอบหลักๆ หรือ “มวลสาร” ที่สำคัญหลายประการ ในการสร้างพระหลวงพ่อทวด เนื้อว่าน รุ่นนี้ ครอบครัวตระกูลคณานุรักษ์ ก็ได้ให้การสนับสนุน ไม่ว่าจะเป็นดิน ว่าน แร่ ที่โรยด้านหลังพระหลวงพ่อทวด ส่วนใหญ่นำมาจากพื้นที่สัมปทานทำเหมืองแร่ใน จ.ยะลา ของ “พระจีน” ผู้เป็นบรรพบุรุษของตระกูล
และปรากฏการณ์อันเป็นที่อัศจรรย์ใจที่ได้ปรากฏตั้งแต่ครั้งรุ่นปู่ คือ เมื่อ “อนันต์ คณานุรักษ์” ได้เห็นภาพนิมิต “หลวงพ่อทวด” ก่อนนำไปปรึกษาและสนทนาธรรมกับ “พระอาจารย์ทิม ธัมมธโร” จนนำไปสู่การจัดสร้างพระหลวงพ่อทวดรุ่นแรก เนื้อว่าน เพื่อแจกญาติโยมที่ร่วมบุญสร้างอุโบสถ วัดช้างให้ ในเวลานั้น
สำหรับเรื่องราวความอัศจรรย์จากหลวงพ่อทวดนั้น “ประยูรเดช” เล่าว่า หลายปีก่อนได้เกิดอาการเลือดกำเดาไหลไม่หยุด ต้องเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลใน จ.ปัตตานี แต่ก็ไม่สามารถระงับเลือดได้ จึงถูกส่งตัวไปยังโรงพยาบาลที่หาดใหญ่ แม้จะถึงมือแพทย์ที่หาดใหญ่ แต่อาการก็ยังไม่ดีขึ้น โดยพยาบาลพยายามห้ามเลือดก็ไม่ยอมหยุด จนรู้สึกว่าร่างกายอ่อนเพลียมาก จึงอธิษฐานจิตขอให้หลวงพ่อทวดช่วยด้วย เพราะชีวิตยังมีภาระข้างหน้าอีกมากมาย จะตายในเวลานี้ไม่ได้
ปรากฏว่า มีภาพใบหน้าพระภิกษุคล้ายกับหลวงพ่อทวด ขนาดบูชา พ.ศ. ๒๕๐๒ ห่มจีวรเป็นผ้าแพรไหมสีเข้ม มาบ้วนน้ำหมากให้ และอีกไม่นานเลือดกำเดาหยุดไหล ร่ายกายก็ฟื้น และลุกขึ้นจากเตียงได้ชนิดเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ท่ามกลางความตกตะลึงของหมอ
ไม่เพียงเท่านั้น ย้อนกลับไปในยุคที่ “ประยูรเดช” ทำหน้าที่ทนายความ ระหว่างเดินทางไปพบลูกความที่ อ.เบตง ในช่วงค่ำ ปรากฏว่า ฝนตกหนัก และเกิดเหตุดินสไลด์ตรงหน้า ทำให้ต้องบังคับพวงมาลัยรถเพื่อหักเลี้ยวหลบดิน และหินที่ร่วงจากหน้าผา จนรถเสียหลักเบรกไม่อยู่ แต่จู่ๆ รถเกิดดับ จอดนิ่งสนิทข้างทาง เมื่อลงจากรถพบว่า ยานพาหนะจอดอยู่ปากเหวลึก ซึ่งขณะนั้นในคอมีเพียง “หลวงพ่อทวด หลังเตารีด” เพียงองค์เดียว
ปัจจุบัน ประยูรเดช นิมนต์พระหลวงพ่อทวด หลังเตารีด ปี ๒๕๐๕ ติดตัวตลอดเวลา ส่วนพระหลวงพ่อทวด เนื้อว่าน รุ่นแรก ปี ๒๔๙๗ นั้น นอกจากแจกจ่ายให้ญาติพี่น้องในครอบครัวจนหมดแล้ว ในยุคนั้นยังมอบให้เพื่อนฝูงและคนรู้จัก เพื่อให้ได้รับบุญบารมีและความศักดิ์สิทธิ์จากหลวงพ่อทวดไปคุ้มครองโดยทั่วหน้ากัน
พร้อมกันนี้ ประยูรเดช พูดทิ้งท้ายไว้อย่างน่าคิดว่า “สมัยเด็กจำได้ว่า ผมแขวนพระหลวงพ่อทวด เนื้อว่าน รุ่นแรก แทบทุกพิมพ์ เพราะไปหาพระอาจารย์ทิม ครั้งใดก็จะได้รับมอบพระหลวงพ่อทวดเสมอ บางครั้งพ่อก็นำมาจากวัดใส่ขันหมากมาแจกชาวบ้าน จนกระทั่งโตขึ้นมา พระรุ่นดังกล่าวก็ไปอยู่กับญาติพี่น้องและเพื่อนๆ กันหมด ทั้งนี้หากเราตั้งมั่น และศรัทธาในพระหลวงพ่อทวด วัดช้างให้ ขอให้ตั้งมั่นอยู่ในกรอบของความดี หมั่นสวดมนต์เจริญจิตภาวนา เชื่อว่าไม่ว่าจะแขวนพระหลวงพ่อทวดรุ่นใด ก็จะสัมผัสได้ถึงพุทธคุณ และความศักดิ์สิทธิ์ได้เป็นแน่แท้ เฉกเช่นเดียวกับเมื่อยามเผชิญภาวะคับขัน ผมจะระลึกถึงหลวงพ่อทวดเสมอ เหตุการณ์ร้ายก็ผ่านพ้นไปทุกครั้ง”
พิพิธภัณฑ์พระเครื่องหลวงพ่อทวด
เรื่องราวของหลวงพ่อทวด และพระอาจารย์ทิม ไม่ใช่แค่สิ่งที่อยู่ในความสนใจของคนในพื้นที่เท่านั้น แต่ปัจจุบันคนภูมิภาคอื่น รวมถึงชาวต่างชาติที่แวะเวียนมายังวัดช้างให้ ต่างใฝ่รู้ สนใจ ใฝ่ศึกษา ดังนั้นความตั้งใจที่จะสร้างพิพิธภัณฑ์พระเครื่องหลวงพ่อทวด นอกจากจะเป็นหนึ่งในความตั้งใจอันสำคัญแล้ว ยังเป็นหนึ่งในภารกิจที่สำคัญในฐานะลูกหลานตระกูล "คณานุรักษ์" ในการร่วมทำนุบำรุงวัดแห่งนี้ ที่บรรพบุรุษได้ให้การสนับสนุนและส่งเสริมมาโดยตลอด
นายประยูรเดช บอกว่า พิพิธภัณฑ์พระเครื่องหลวงพ่อทวด และอัตชีวประวัติพระอาจารย์ทิม เป็นแนวคิดจะดำเนินการสร้างของตน ทั้งนี้ได้ปรึกษาหารือกับเจ้าอาวาสวัดช้างให้ รูปปัจจุบัน โดยอยู่ในระหว่างการศึกษา และเตรียมงาน ทั้งนี้จะบรรจุเรื่องของพระหลวงพ่อทวด ที่วัดช้างให้ สร้างขึ้น โดยจะมีข้อมูลอย่างละเอียด ซึ่งจะได้รับการสนับสนุนจากเพื่อนพ้อง และญาติพี่น้องในพื้นที่ ในการรวบรวมข้อมูลเรื่องราวทั้งหมด เพื่อให้ประชาชนที่เคารพศรัทธา ที่เดินทางมากราบสักการะรูปเหมือนหลวงพ่อทวดแล้วจะได้มีโอกาสศึกษา และเรียนรู้เรื่องราวของพระหลวงพ่อทวดอีกด้วย
“ช่วงที่พระอาจารย์ทิมอาพาธ ผมเป็นเด็ก ยังได้ช่วยกระเตงย่ามพร้อมติดสอยห้อยตามคุณพ่อที่เป็นผู้ขับรถพาท่านไปรับการตรวจรักษาอาการถึงโรงพยาบาลยะลา อยู่เป็นประจำ และที่สำคัญ ได้เห็นวัตรปฏิบัติปฏิปทาของท่าน ทำให้รู้สึกว่ามีเรื่องราวอีกมากมายที่ต้องการสะท้อนให้คนรุ่นหลังได้รับรู้” ประยูรเดช กล่าว