
ความมหัศจรรย์ใน'บารมีธรรม'จาก...หลวงพ่อชาถึง...หลวงพ่อคูณ
ความมหัศจรรย์ใน'บารมีธรรม'จาก...หลวงพ่อชาถึง...หลวงพ่อคูณ : โดย ศิษย์กวง
เมื่อปี ๒๕๓๖ คุณพิเชษฐ วิมุกตายน ได้นิมนต์ หลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ มาทำบุญและจำวัดที่บ้านพัก เมืองพัทยา จ.ชลบุรี ผู้เขียนเป็นเพื่อนสนิทกับคุณเฉลิมวัฒน์ ซึ่งเป็นลูกชายเจ้าของบ้าน ได้มีโอกาสเข้าไปกราบไหว้หลวงพ่อคูณอย่างใกล้ชิด แต่ไม่ได้พูดคุยอะไร เนื่องจากในวันดังกล่าวได้มีบรรดานายทหารชั้นผู้ใหญ่ไปรอกราบหลวงพ่ออีกมากมาย จนบ้านพักขนาดใหญ่ ต้องคับแคบไปถนัดตา
หลังจากนั้นอีกไม่กี่วัน คุณเฉลิมวัฒน์ได้ชวนให้ผู้เขียนไปดูดอกไม้ที่บ้าน พร้อมกับเล่าว่า ในช่วงเช้าก่อนที่หลวงพ่อคูณจะเดินทางกลับวัดบ้านไร่ ท่านได้ออกมาเดินบริเวณสนามหญ้าหน้าบ้าน และได้หยุดมองต้นไม้ต้นหนึ่ง พร้อมกับตบเบาๆ ที่ลำต้นของต้นไม้นั้น
คุณพิเชษฐ จึงกราบเรียนท่านว่า “ซื้อมาปลูกหลายปีแล้ว ไม่เคยออกดอกเลย”
ท่านพยักหน้ายิ้มๆ แต่ก็ไม่พูดอะไร ต่อมาต้นไม้ต้นนี้ได้ออกดอกเต็มต้น หลังจากหลวงพ่อคูณ ได้กลับวัดบ้านไร่ไปแล้ว ๒ วัน
คุณพิเชษฐ เห็นความมหัศจรรย์ในบารมีธรรมของหลวงพ่อคูณ จึงได้ชักชวนบรรดาเพื่อนนายทหาร และเพื่อนๆ ของลูกชาย ไปกราบนมัสการหลวงพ่อคูณที่วัดบ้านไร่ พร้อมกับได้ฝังตะกรุดที่ท้องแขนทุกคน ในวันเสาร์ ๕ ของปี ๒๕๓๖
หลายปีต่อมา ผู้เขียนได้สนทนากับนักปฏิบัติธรรมมืออาชีพท่านหนึ่ง เรื่องนี้ได้ถูกยกขึ้นมากล่าวขานด้วยความเห็นส่วนตัวว่า เป็นเรื่องแปลก และไม่น่าจะเป็นไปได้
นักปฏิบัติธรรมท่านนี้มีความเห็นว่า ไม่แปลก และเป็นไปได้เสมอ โดยเฉพาะกับพระบริสุทธิสงฆ์ผู้ทรงธรรม โดยยกตัวอย่างของ หลวงพ่อชา วัดหนองป่าพง ที่หลังจากเสร็จสิ้นการผ่าตัดสมอง หลวงพ่อชาได้มาพักฟื้นที่บ้านของลูกศิษย์ในกรุงเทพ
ที่บ้านนี้มีต้นพวงชมพู ที่ไม่เคยออกดอกก็กลับออกดอกได้อย่างน่าอัศจรรย์ใจ ผู้เขียนฟังแล้วก็อดนึกไปถึงเรื่องราวในพระพุทธศาสนาไม่ได้ว่า
เมื่อครั้งที่พระพุทธเจ้าทรงประทับ ณ เชตวันวิหาร กรุงสาวัตถี ในยามนั้นท้าวสักกะจอมเทพ ได้เสด็จไปเข้าเฝ้า และตรัสถามพระพุทธเจ้าว่า “สถานที่เช่นใดหนอ เป็นภูมิสถานอันน่ารื่นรมย์”
พระพุทธเจ้าทรงตรัสตอบว่า “พระอรหันต์ทั้งหลาย อยู่ในที่ใด เป็นบ้านหรือป่าก็ตาม เป็นที่ลุ่มหรือที่ดอนก็ตาม ที่นั้นเป็นภูมิสถานอันน่ารื่นรมย์”
หลวงพ่อชา วัดหนองป่าพง ท่านจะสำเร็จเป็นพระอรหันต์หรือไม่ ผู้เขียนก็มิอาจทราบได้ แต่โดยส่วนตัวแล้ว เชื่อว่าท่านสำเร็จจริงๆ ดังที่มีครูบาอาจารย์ในสายกรรมฐานหลายท่านกล่าวรับรอง
ในกรณีของ หลวงพ่อคูณ ก็เช่นกัน ผู้เขียนมิอาจทราบว่า ท่านได้สำเร็จเป็นพระอรหันต์หรือไม่ อีกทั้งยังไม่เคยทราบว่า มีครูบาอาจารย์ผู้ทรงธรรมท่านใดกล่าวคำรับรอง เพียงแต่ผู้เขียนเชื่อมั่นอย่างหนึ่งว่า พระบริสุทธิสงฆ์ผู้มากไปด้วยเมตตาบารมีอย่าง หลวงพ่อคูณ อยู่ที่ไหน ที่นั่นก็น่ารื่นรมย์อยู่แล้ว เพราะทุกวันนี้ ยังไม่เคยเห็นลูกศิษย์คนไหนปลดวัตถุมงคลของท่านออกจากคอเลย