
'หลวงพ่อซวง' วัดชีปะขาว จ.สิงห์บุรี ผู้ทรงวิทยาคุณทางด้านไสยศาสตร์
หลวงพ่อซวง อภโย วัดชีปะขาว ต.พระงาม อ.พรหมบุรี จ.สิงห์บุรี เป็นพระคณาจารย์ผู้ทรงวิทยาคุณทางด้านไสยศาสตร์ ผู้เพียบพร้อมด้วยศีลาจารวัตร และความเมตตาที่มีให้แก่ศิษยานุศิษย์ และชาวบ้านทั่วไปโดยไม่เลือกชั้นวรรณะ เช่น การรับกิจนิมนต์ การรดน้ำมนต์ การแจกวัตถุมงค
แม้จะเหนื่อยยากเพียงใด ท่านก็ไม่เคยปริปากบ่นเลยแม้แต่น้อย ชาวบ้านแถบวัดชีปะขาว และบ้านใกล้เรือนเคียงต่างให้ความเคารพศรัทธานับถือ และยกย่องหลวงพ่อ เปรียบเสมือนบิดาของพวกเขา โดยจะเรียกหลวงพ่อด้วยความเทิดทูนว่า “พ่อใหญ่” จนติดปาก และชาวสิงห์บุรีบางคนถึงกับให้สมญานามท่านว่า “เทพเจ้าแห่งเมืองสิงห์”
หลวงพ่อซวง เป็นพระคณาจารย์ที่มั่นคงในพระธรรมวินัย เน้นการปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐาน มีฌานอันบริสุทธิ์ และพลังจิตอันแก่กล้า จนสำเร็จอภิญญาสมาบัติ สามารถล่วงรู้วาระจิตใจของผู้อื่น สามารถรู้เหตุการณ์ล่วงหน้า และสามารถแสดงฤทธิ์ต่างๆ ได้อย่างน่าอัศจรรย์ เช่น การร่นระยะทาง เป็นต้น
ดังเช่นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อประมาณ พ.ศ.๒๕๐๐ นายวิเชียร ลูกศิษย์วัดชีปะขาว ได้รับคำสั่งจากหลวงพ่อซวงให้ขี่จักรยานพาท่านไปร่วมงานทำบุญบ้านของชาวบ้านแถบคลองกระทุ่มโพรง ซึ่งอยู่ห่างจากวัดชีปะขาวไปทางทิศเหนือประมาณ ๕ กม. นายวิเชียรได้รับหลวงพ่อซวงซ้อนท้ายจักรยาน และขี่ไปตามถนนเลียบคันคลองชลประทานสายสิงห์บุรี-อ่างทอง ซึ่งสมัยนั้นยังเป็นถนนลูกรัง ไม่ได้ลาดยางเหมือนเช่นทุกวันนี้
หลังจากหลวงพ่อซวงได้ปฏิบัติภารกิจเสร็จสิ้นเรียบร้อยแล้ว เจ้าภาพได้ถวายอาหารใส่ปิ่นโตให้แก่หลวงพ่อ เพื่อให้นำไปฉันเพลที่วัด นายวิเชียรได้รับหลวงพ่อซวงซ้อนท้ายจักรยานเพื่อกลับมายังวัดชีปะขาวตามเส้นทางเดิม ขณะที่นายวิเชียรขี่จักรยานห่างจากบ้านงานประมาณ 1 กม. ช่วงที่อยู่หลังวัดทุ่ง หลวงพ่อสังเกตเห็นนายวิเชียรมีอาการเหนื่อยล้า จึงบอกนายวิเชียรให้หยุดรถจักรยาน ท่านจะแวะที่วัดทุ่งสักครู่ เพื่อสนทนากิจธุระบางอย่างกับเจ้าอาวาส ให้นายวิเชียรขี่จักรยานนำปิ่นโตไปไว้ที่กุฏิของท่าน ส่วนตัวท่านเมื่อเสร็จกิจธุระแล้วจะเดินกลับวัดชีปะขาวเอง
หลังจากรับคำสั่งจากหลวงพ่อแล้ว นายวิเชียรได้ขี่จักรยานกลับถึงวัดชีปะขาวทันที โดยไม่ได้แวะที่ใดเลย เมื่อนำปิ่นโตไปเก็บไว้ที่กุฏิของหลวงพ่อแล้ว จะได้กลับไปพักผ่อน เมื่อนายวิเชียรขี่จักรยานถึงวัดชีปะขาวแล้ว ได้หิ้วปิ่นโตเพื่อนำไปเก็บที่กุฏิของหลวงพ่อ ทันใดนั้นนายวิเชียรถึงกับผงะ รู้สึกฉงนสนเท่ห์เป็นอย่างมาก เนื่องจากเห็นหลวงพ่อนั่งสงบอยู่หน้ากุฏิของท่าน จึงถามหลวงพ่อด้วยความฉงนว่า “หลวงพ่อมาถึงวัดก่อนผมได้อย่างไร?”
หลวงพ่อไม่ตอบ ได้แต่อมยิ้มด้วยใบหน้าที่แสดงความเมตตาปรานี นายวิเชียรเชื่ออย่างสนิทใจว่า หลวงพ่อซวงสามารถแสดงฤทธิ์ ร่นระยะทางได้อย่างแน่นอน เนื่องจากไม่มีทางที่หลวงพ่อซวงจะเดินด้วยเท้าได้รวดเร็วกว่าการขี่จักรยานของเขา
สมัยที่ หลวงพ่อซวงยังมีชีวิตอยู่ ท่านได้สร้างวัตถุมงคลไว้หลายประเภท ทั้งเนื้อโลหะ ผง ภาพถ่าย แต่ละประเภทสร้างจำนวนน้อย จึงเสาะหากันค่อนข้างยาก ใครมีไว้ต่างก็หวงแหน เนื่องจากเปี่ยมล้นด้วยพุทธคุณในทุกๆ ด้าน แล้วแต่จะอธิษฐานเอา ถ้าจะเช่าหากันก็ต้องจ่ายเงินค่อนข้างสูง วัตถุมงคลของท่านที่รู้จักกันดีได้แก่ รูปหล่อโบราณ เหรียญหล่อใบเสมา พระลีลาหล่อ เป็นต้น
หลวงพ่อซวง ชาตะเมื่อวันที่ ๑๘ มิถุนายน ๒๔๔๒ และมรณภาพเมื่อวันที่ ๑๘ กรกฎาคม ๒๕๑๐ สิริรวมอายุได้ ๖๙ ปี พรรษา ๔๔ เหลือไว้แต่คุณธรรมความดีงาม ตลอดจนความศักดิ์สิทธิ์ในวัตถุมงคลของท่าน ให้แก่ศิษยานุศิษย์ และศรัทธาญาติโยมชาวบ้านทั้งหลาย ที่มีความเคารพศรัทธาเลื่อมใสหลวงพ่อตลอดมา
อย่างไรก็ตาม ในวันอังคารที่ ๑๒ กรกฎาคม ๒๕๕๔ นี้ตรงกับวันขึ้น ๑๒ ค่ำ เดือน ๗ ทางวัดชีปะขาวจะจัดงานยกช่อฟ้ามณฑป และทำบุญคล้ายวันมรณภาพของหลวงพ่อซวง พร้อมทั้งจัดงานทอดผ้าป่าสามัคคีขึ้น เพื่อนำปัจจัยที่ได้บูรณะพื้นศาลาการเปรียญและโรงครัว ซึ่งชำรุดทรุดโทรมมาก จึงขอบอกบุญมายังพุทธศาสนิกชน และศรัทธาญาติโยมทั้งหลาย ที่เคารพศรัทธาเลื่อมใส หลวงพ่อซวง ไปร่วมงานในวันดังกล่าวโดยพร้อมเพรียงกัน
0 ไพศาล ถิระศุภะ 0