ไลฟ์สไตล์

การลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ ปี 2560

การลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ ปี 2560

19 มี.ค. 2560

...

นายพรชัย ฐีระเวช รองผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง รักษาการในตำแหน่งที่ปรึกษา   ด้านเศรษฐกิจการเงิน ในฐานะรองโฆษกกระทรวงการคลัง  เปิดเผยว่า โครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ ซึ่งจะเปิดลงทะเบียนระหว่างวันที่ 3 เมษายน ถึงวันที่ 15 พฤษภาคม 2560 มีสาระสำคัญสรุปได้ ดังนี้

 

       1. ผู้ลงทะเบียนต้องมีคุณสมบัติ ดังนี้

          1) มีสัญชาติไทย

          2) มีอายุตั้งแต่ 18 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป (ต้องเกิดก่อนวันที่ 16 พฤษภาคม 2542)

          3) ว่างงานหรือมีรายได้ที่เกิดขึ้นในปี 2559 ทั้งสิ้นไม่เกิน 100,000 บาท

          4) ไม่มีทรัพย์สินทางการเงิน ได้แก่ เงินฝากธนาคาร สลากออมสิน สลาก ธ.ก.ส. พันธบัตรรัฐบาล และตราสารหนี้ หรือถ้ามีทรัพย์สินทางการเงินดังกล่าว จะต้องมีจำนวนรวมทั้งสิ้นไม่เกิน 100,000 บาท ณ เวลาใดเวลาหนึ่ง

          5) ไม่เป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ในอสังหาริมทรัพย์ตามกฎหมายหรือถ้าเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ดังกล่าว จะต้องเป็นไปตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไข ดังนี้

 

(5.1) ที่อยู่อาศัยที่เป็นที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง (บ้านพร้อมที่ดิน)

(5.2) ที่ดิน

กรณีอยู่อาศัยอย่างเดียว

   - บ้านหรือทาวเฮ้าส์ต้องมีพื้นที่ ไม่เกิน 25 ตารางวา

   - ห้องชุดต้องมีพื้นที่ไม่เกิน 35 ตารางเมตร

กรณีที่ใช้ประโยชน์จากที่ดิน

   - เพื่อการเกษตรต้องมีพื้นที่ไม่เกิน 10 ไร่

   - เพื่อการอื่นที่ไม่ใช่การเกษตรต้องมีพื้นที่ไม่เกิน 1 ไร่

กรณีเป็นที่อยู่อาศัยและใช้ประโยชน์จากที่ดิน

   - เพื่อการเกษตรต้องมีพื้นที่ไม่เกิน 10 ไร่

   - เพื่อการอื่นที่ไม่ใช่การเกษตรต้องมีพื้นที่ไม่เกิน 1 ไร่

 

2. การขอและดาวน์โหลดแบบฟอร์มลงทะเบียน

ผู้ลงทะเบียนในโครงการฯ สามารถขอแบบฟอร์มลงทะเบียนได้ที่ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ทุกสาขา  ธนาคารออมสินทุกสาขา  ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) ทุกสาขา  คลังจังหวัด  ทุกจังหวัด  และสำนักงานเขตกรุงเทพมหานครฯ ทุกเขต รวมทั้งสิ้น 3,669 หน่วยรับลงทะเบียน ได้ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป หรือสามารถดาวน์โหลดแบบฟอร์มได้จากเว็บไซต์ของกระทรวงการคลัง www.mof.go.th, สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง www.fpo.go.th, www.epayment.go.th และเว็บไซต์ของหน่วยรับลงทะเบียนทั้ง 5 หน่วยงานข้างต้น

 

3. การทำความเข้าใจและกรอกแบบฟอร์ม

ผู้ลงทะเบียนควรศึกษาแบบฟอร์มให้เข้าใจ และเตรียมเอกสารหลักฐานที่จำเป็นต้องใช้ในการกรอกแบบฟอร์มให้พร้อม เช่น บัตรประจำตัวประชาชนของตนเอง เลขบัตรประจำตัวประชาชนของบิดา มารดา และบุตร สมุดทะเบียนบ้าน ทะเบียนผู้พิการ ทะเบียนเกษตรกร เลขที่บัญชีเงินฝาก นอกจากนี้ ต้องสำรวจว่าตนมีรายได้ เงินฝาก และหนี้สินเท่าใด เป็นต้น หลังจากนั้น ให้กรอกแบบฟอร์มให้ครบถ้วน ชัดเจน และถูกต้องตามความเป็นจริง และผู้ลงทะเบียนควรตรวจสอบความถูกต้องก่อนลงนามรับรองความถูกต้องและยินยอมให้เปิดเผยและตรวจสอบ

 

4. การมาลงทะเบียน

  • โดยการยื่นแบบฟอร์มที่กรอกครบถ้วนถูกต้องแล้วพร้อมกับบัตรประจำตัวประชาชน และเอกสารอื่นๆ ที่จำเป็น เพื่อยืนยันตัวตนและข้อมูลที่กรอกให้ทางราชการ ในกรณี ผู้พิการและผู้สูงอายุที่ไม่สามารถเดินทางได้ ต้องมีใบมอบอำนาจมาแสดงในวันลงทะเบียน หลังจากนั้น เจ้าหน้าที่จะกรอกข้อมูลของผู้มาลงทะเบียนเข้าระบบ หลังจากลงทะเบียนเสร็จแล้ว ผู้ลงทะเบียนต้องรับเอกสารหลักฐาน (ส่วนท้ายของแบบฟอร์ม) กลับไป เพื่อเป็นหลักฐานยืนยันว่าการลงทะเบียนเสร็จสมบูรณ์