คอลัมนิสต์

หนังม้วนเก่า ‘ฮุนเซน’ เปิดบ้านรับ ‘อุ๊งอิ๊ง’ คนหน้าเดิมจุดไฟชาตินิยม

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

สัมพันธ์รัก ฮุนเซน-ทักษิณ ส่งผลให้ อุ๊งอิ๊ง เยือนกัมพูชา จับตาปมพิพาทเรื่องขุมทรัพย์ในเขตทับซ้อนทางทะเล คปท.จุดไฟชาตินิยม

ดีลรัก ฮุนเซน-ทักษิณ ตามด้วย อุ๊งอิ๊ง ประมุขเพื่อไทยเยือนกัมพูชา คปท.รุกปลุกชาตินิยม ปมขุมทรัพย์ใต้เขตทับซ้อนทางทะเล


22 ปีแห่งความว่างเปล่า ไทย-กัมพูชา เจรจาแบ่งปันผลประโยชน์ในเขตทับซ้อนไม่คืบหน้า เพราะต่างฝ่ายต่างไม่ยอมเรื่องเขตแดน


หลังกลับจากบ้านจันทร์ส่องหล้า สมเด็จฮุนเซน ก็เข้าคูหาเลือกตั้งสมาชิกวุฒิสภา และผลการเลือกตั้งสภาสูงกัมพูชา เป็นไปตามความคาดหมาย พรรคประชาชนกัมพูชากวาดเก้าอี้ สว.ไปทั้งสภาฯ
 

เดือน เม.ย.2567 พรรคประชาชนกัมพูชา จะเสนอชื่อสมเด็จฮุนเซน ขึ้นเป็นประธานวุฒิสภา ซึ่งเป็นตำแหน่งเจ้าหน้าที่ที่เปรียบเสมือนประมุขแห่งรัฐ เท่ากับว่าฮุนเซนหวนกลับสู่เวทีการเมืองอีกครั้ง


ช่วงวันที่ 18-19 ก.พ. 2567 อุ๊งอิ๊ง-แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย จะได้นำทีมกรรมการบริหารไปเยือนกัมพูชา ตามคำเชิญของสมเด็จฮุนเซน ในฐานะประธานพรรคประชาชนกัมพูชา


พลันที่มีข่าวอุ๊งอิ๊ง ลูกสาวคนเล็กของทักษิณ ชินวัตร จะไปพบสมเด็จฮุนเซน และฮุนมาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ประเด็นการแบ่งผลประโยชน์ในพื้นที่ทับซ้อนทางทะเล ก็ถูกพูดถึงมากขึ้น และมีความพยายามจะขยายเป็นเรื่องการเมืองระหว่างประเทศ


ประเด็นเรื่องเขตแดนไทย-กัมพูชา ก็เป็นเรื่องพิพาทมานานกว่า 22 ปี ก็ไม่มีใครตอบได้ว่า จะจบลงเมื่อใด


เมื่อวันที่ 28 ก.พ. 2567 พิชิต ไชยมงคล ตัวแทนเครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศไทย (คปท.) นำพลพรรคกองทัพธรรมไปยื่นหนังสือให้กับผู้บัญชาการทหารเรือ เรื่องขอให้ยึดมั่นในการปกป้องดินแดนประเทศไทย โดยระบุถึงการลากเส้นเขตแดนทางทะเล (เส้นเขตไหล่ทวีป) ที่จัดทำโดยประเทศกัมพูชาแต่เพียงฝ่ายเดียว ที่ลากผ่านกึ่งกลางของเกาะกูด จ.ตราด ซึ่งเป็นพื้นที่ของประเทศไทย

 

ส้มพันธ์รัก ทักษิณ-สมเด็จฮุนเซน อาจนำไปสู่ความขัดแย้งแบบปี 2553-2554

 


จากการเคลื่อนไหวม็อบ คปท. ทำให้นึกถึงช่วงปี 2553-2554 แนวร่วมเครือข่ายคนไทยหัวใจรักชาติ เคลื่อนไหวกรณีปราสาทพระวิหาร และตามมาด้วยการสู้รบตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา
 

การเมืองเรื่องเขตแดน
นับแต่การลงนามในบันทึกความเข้าใจว่าด้วยพื้นที่ทับซ้อนทางทะเลระหว่างไทยและกัมพูชาเมื่อปี 2544 สมัยรัฐบาลทักษิณ จนถึงรัฐบาลเศรษฐา เป็นเวลากว่า 22 ปี ไม่มีอะไรคืบหน้าเลย


การเจรจาตามกรอบ MOU44 ดังกล่าวมี 2 เรื่องคือ การแบ่งเขตทางทะเล และระบอบการพัฒนาร่วม


ระบอบการพัฒนาร่วมหมายถึงการเจรจาเพื่อแบ่งปันผลประโยชน์ในพื้นที่อ้างสิทธิทับซ้อนกัน(OCA) เนื้อที่ 26,000 ตารางกิโลเมตรในอ่าวไทย ซึ่งคาดว่ามีปิโตรเลียมในปริมาณและมูลค่ามากมายมหาศาลรอการขุดค้นขึ้นมาใช้ประโยชน์


การแบ่งเขตแดนเป็นเรื่องละเอียดอ่อนสำหรับคนไทย เมื่อกัมพูชาลากเส้นเขตลงมาผ่านเกาะกูด เพื่ออ้างสิทธิในทะเล ขณะที่ไทยอ้างถึงการใช้หลักกฎหมายทางทะเลระหว่างประเทศ ลากอ้อมเกาะกูด


ดังนั้น ความยืดเยื้อของการเจรจาแบ่งปันผลประโยน์ในพื้นที่ทับซ้อนทางทะเลที่ไม่จบ เพราะประเด็นเขตแดนทางทะเล


เมื่อไม่นานมานี้ ปานปรีย์ พหิทธานุกร รมว.ต่างประเทศ แถลงเรื่องการเจรจาเรื่องพื้นที่ทับซ้อนไทยกับกัมพูชาว่าจะต้องให้ได้ผลประโยชน์ในทรัพยากรปิโตรเลียมมากที่สุด โดยที่ไม่ต้องเสียดินแดนไปแม้แต่ตาราง นิ้วเดียว

 

 

อดีตรักหวานชื่น
กรณีอุ๊งอิ๊ง แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย เตรียมยกทีมไปพบสมเด็จฮุนเซน ประธานพรรคประชาชนกัมพูชา ในช่วงวันที่ 18-19 ก.พ.นี้ ทำให้คนเพื่อไทยนึกถึงฟุตบอลมิตรภาพไทย-กัมพูชา เมื่อปลาย ปี 2554


ฟุตบอลมิตรภาพไทย-กัมพูชา พ.ศ.นั้น เป็นการแข่งขันระหว่างทีมวีไอพีเขมร นำโดยสมเด็จฮุนเซน กับทีม นปช. ที่มี สมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกฯ นำทีมแกนนำเสื้อแดง และ สส.เพื่อไทย ลงเตะในสนามกีฬาแห่งชาติโอลิมปิก กรุงพนมเปญ เมื่อ 24 ก.ย. 2554


นั่นคือบรรยากาศการเมืองไทย-กัมพูชา ยุครัฐบาลยิ่งลักษณ์ ซึ่งผู้นำสองประเทศมีความสัมพันธ์อันแนบแน่นและลึกซึ้ง จึงมีความพยายามเปิดการเจรจาในพื้นที่ทับซ้อนทางทะเลอีกครั้ง โดยคาดหวังจะประสบความสำเร็จ


สุดท้ายความขัดแย้งทางการเมืองในประเทศไทย ทำให้เกิดการรัฐประหารล้มรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ปมพิพาทพื้นที่ทับซ้อนทางทะเลก็ลากยาวมาจนถึงวันนี้ 


 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ