คอลัมนิสต์

ส่องชายแดนใต้ ‘เศรษฐา’ ขายทัวร์ไม่ฟื้นแบรนด์ ‘ทักษิณ’ ติดลบยาว

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

ส่องสมรภูมิปลายด้ามขวาน เศรษฐา พาทีมขายทัวร์ชายแดนใต้ เพื่อไทยส่อไม่ฟื้น แบรนด์ทักษิณติดลบยาว แบรนด์บ้านใหญ่ยังไปต่อ

แหวกม่านการเมือง เศรษฐา พาทีมขายทัวร์ชายแดนใต้ เพื่อไทยส่อไม่ฟื้น แบรนด์ทักษิณติดลบ เปิดทางแบรนด์บ้านใหญ่ยังไปต่อ


สมรภูมิปลายด้ามขวานในอนาคต พรรคก้าวไกลจะเป็นคู่ต่อสู้ที่สำคัญของพรรคประชาชาติ พลังก้าวหน้าปะทะพลังท้องถิ่นพหุวัฒนธรรม 


ช่วงวันที่ 27-29 ก.พ. 2567 เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี นำทีมรัฐมนตรี ประกอบด้วย สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.คมนาคม, สุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รมว.ท่องเที่ยวฯ และทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม เข้าร่วมกิจกรรมเที่ยวใต้สุดใจ ในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนใต้คือ ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส 
 

นักวิชาการในมหาวิทยาลัยชื่อดังภาคใต้ประเมินว่า นายกฯเศรษฐา มาเปิดกิจกรรมเที่ยวใต้สุดใจ น่าจะไม่ตอบโจทย์คนปลายด้ามขวาน เนื่องจากประเด็นสันติภาพที่ชายแดนใต้ ยังไม่มีความคืบหน้า


ดังนั้น นักวิชาการคนนี้จึงมองว่า การทัวร์ชายแดนใต้เที่ยวนี้ นายกฯเศรษฐา ต้องการหลบกระแสทักษิณ ศูนย์อำนาจใหม่มากกว่า


ในมิติทางการเมือง พรรคเพื่อไทยแทบจะไม่ได้อยู่ในกระดานการเลือก ตั้ง 3 จังหวัดชายแดนใต้ มาตั้งแต่ปี 2562 

 

นายกฯเศรษฐา นำทีมรัฐมนตรี ขายทัวร์เที่ยวใต้สุดใจ

 


แม้จะมีการส่งผู้สมัคร สส.ในบางพื้นที่ และมีแกนนำพรรคเพื่อไทยมาจัดกิจกรรมในชายแดนใต้บ้าง แต่ก็ไม่มีพลัง ไม่มีผู้ให้ความสนใจมากนัก


บาดแผลไฟใต้สมัยรัฐบาลทักษิณ ชินวัตร ฝังลึกอยู่ในความทรงจำของคนมุสลิมจนยากที่จะลืมเลือน ส่งผลให้แบรนด์ทักษิณ แทบจะติดลบไปตลอดกาลในพื้นที่นี้


การเลือกตั้ง สส.ในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนใต้(ยะลา นราธิวาส ปัตตานี)ปี 2566 มีเพียง 5 พรรคที่ได้เก้าอี้ สส.คือ พรรคประชาชาติ, พรรคพลังประชารัฐ, พรรครวมไทยสร้างชาติ, พรรคภูมิใจไทย และพรรคประชาธิปัตย์  


โดยประชาชาติ 7 ที่นั่ง พลังประชารัฐ 3 ที่นั่ง รวมไทยสร้างชาติ 1 ที่นั่ง ภูมิใจไทย 1 ที่นั่ง และประชาธิปัตย์ 1 ที่นั่ง รวมทั้งหมด 13 ที่นั่ง

นอมินีนายใหญ่
ก่อนการเลือกตั้งปี 2562 วันมูหะมัดนอร์ มะทา นักการเมืองอาวุโสแห่งยะลา ได้ตัดสินทิ้งแบรนด์วาดะห์ และอำลาพรรคเพื่อไทย มาก่อร่างสร้างพรรคใหม่ 


อาจารย์วันนอร์ ร่วมกับ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง อดีตเลขาธิการ ศอ.บต. สมัยรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ระดมสรรพกำลังจากทุกภาคส่วน ทั้งนักการเมืองต่างสีต่างขั้ว กลุ่มทุน กลุ่มข้าราชการ นักการเมือง และภาคประชาสังคม ขับเคลื่อนพรรคประชาชาติ จนประสบความสำเร็จ


เนื่องจากแบรนด์วาดะห์ ในช่วงหลัง ติดพันกับทักษิณ ชินวัตร และรัฐบาลไทยรักไทย จึงได้รับการปฏิเสธจากคน 3 จังหวัด


เมื่อพลิกเกมสร้างแบรนด์ใหม่-ประชาชาติ พรรคพหุวัฒนธรรม บวกการจุดกระแสไม่เอารัฐบาล คสช. วันนอร์-ทวี จึงขยับมาเป็นผู้นำการเมืองชายแดนใต้ทันที


คู่แข่งหลักของพรรคประชาชาติ ในการเลือกตั้งสมัยหน้า ก็คงจะเป็นพรรคก้าวไกล ซึ่งการเลือกตั้งที่ผ่านมา พรรคสีส้มไม่ได้ สส.แม้แต่คนเดียว แต่คะแนน สส.บัญชีรายชื่อ ก็ได้อันดับ 2 รองจากพรรคประชาชาติทั้ง 3 จังหวัด


นอกจากนี้ กรณีอาจารย์วันนอร์ ขึ้นเป็นประธานสภาฯตามแผนดีลลับ และพรรคประชาชาติ เข้าร่วมรัฐบาลข้ามขั้ว ก็เป็นจุดอ่อนที่จะทำให้พรรคก้าวไกล มาโจมตีในพื้นที่ปลายด้ามขวาน

 

 

บ้านใหญ่ยังไปต่อ
ลักษณะพิเศษประการหนึ่งในการเมือง 3 จังหวัดชายแดนใต้ ระบบอุปถัมภ์ท้องถิ่น หรือระบบบ้านใหญ่ ยังมีผลต่อการตัดสินใจของโหวตเตอร์ 


ดังนั้น การเลือกตั้งนายก อบจ.ใน 3 จังหวัดชายแดนใต้ ผู้ที่ได้รับชัยชนะยังเป็นตัวแทนบ้านใหญ่ 


อย่างเช่น เศรษฐ์ อัลยุฟรี นายก อบจ.ปัตตานี ก็เป็นนายก อบจ. มาหลายสมัยแล้ว และในการเมืองระดับชาติ นายกฯเศรษฐ์ คบค้าสมาคมกับทุกพรรค


มุขตาร์ มะทา นายก อบจ.ยะลา 4 สมัย เป็นน้องชาย วันมูหะมัดนอร์ มะทา และตัวแทนบ้านใหญ่ศรียะลา สมัยที่แล้ว ก็เอาชนะคู่แข่งด้วยผลคะแนนที่ทิ้งห่างกันเป็นแสนคะแนน


กูเซ็ง ยาวอหะซัน นายก อบจ.นราธิวาส 5 สมัย ถือว่าเป็นซูเปอร์บ้านใหญ่เมืองนรา บิดาของ วัชระ ยาวอหะซัน สส.นราธิวาส พรรครวมไทยสร้างชาติ


แม้สมัยหน้า พรรคก้าวไกลจะส่งผู้สมัครนายก อบจ.ลงในพื้นที่ 3 จังหวัด ก็คงสู้พลังบ้านใหญ่ชายแดนใต้ไม่ได้

 

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ