ใกล้จบ ‘พิธา’ ผิดธรรมชาติ ‘คลุมถุงชน’ สองพรรครักนั้นไม่นิรันดร

ใกล้ฉากอวสาน พิธา โอกาสถึงฝั่งฝันรางเลือน อุ๊งอิ๊ง ทายาทนายใหญ่ รอเวลาปิดฉากละครคลุมถุงชน เพื่อไทยย้ำชัดให้ทดลองอีกครั้งเดียว

ความรักของเพื่อไทย-ก้าวไกล เริ่มจากคลุมถุงชน อ้างมติมหาชน 25 ล้านเสียงบีบให้รักกัน ผิดธรรมชาติการเมืองไทย จึงไม่ใช่รักนั้นนิรันดร

ก่อนจะเข้าการโหวตนายกฯ รอบที่สอง พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ประกาศเปิดทางเพื่อไทย เป็นแกนนำตั้งรัฐบาล แต่เงื่อนไข 8 พรรคร่วมรัฐบาล ต้องเปิด 2 สมรภูมิคู่ขนานกันไปคือ เสนอชื่อ พิธา เข้าสู่การโหวตนายกฯ ควบคู่กับการแก้ไขรัฐธรรมนูญ มาตรา 272 ตัดอำนาจ สว.

ถ้าลุย 2 สมรภูมินี้ไปจนสุดทางแล้ว ก้าวไกลจะเปิดทางให้เพื่อไทย เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล อาจเสนอชื่อ เศรษฐา ทวีสิน หรือ แพทองธาร ชินวัตร เป็นนายกฯ

ประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรคเพื่อไทย พูดถึง 2 สมรภูมิที่จำเป็นต้องต่อสู้หลังจากนี้ว่า การแก้ไข ม.272 ไม่ได้อยู่ในข้อตกลงเอ็มโอยู และประเด็นนี้พรรคก้าวไกลก็ไม่ได้หารือกับพรรคร่วมทั้ง 8 พรรค 

เลขาธิการพรรคเพื่อไทยย้ำว่า เรื่องเร่งด่วนคือการจัดตั้งรัฐบาล อยากให้พรรคก้าวไกลโฟกัสตรงนี้ จึงอยากได้ความชัดเจนจากพรรคก้าวไกล ก่อนโหวตนายกฯ รอบสอง วันที่ 19 ก.ค. 2566

ท่าทีของพรรคเพื่อไทยในช่วงเวลาที่ผ่านมา มีเสียงสะท้อนเกี่ยวกับเรื่องคลุมถุงชนอยู่บ่อยครั้ง เหมือนว่า ก้าวไกล-เพื่อไทย เริ่มมีความเห็นต่างกันมากขึ้น แต่ก็แยกจากกันไม่ได้ เพราะคำว่า ฝ่ายประชาธิปไตย และมติมหาชน 25 ล้านเสียง เลือกสองพรรคนี้ให้เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล

 

 

ชิงรุกเชิงสัญลักษณ์
หลัง พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ พ่ายศึกโหวตนายกฯ รอบแรก ได้เสียงสนับสนุนไม่ได้ 376 เสียง ก้าวไกลก็ไม่ยอมแพ้ ขอสู้ต่ออีกยก เพราะกติกาเปิดช่องไว้ให้โหวตนายกฯ ไม่จำกัดว่าจะกี่ครั้ง

ผู้นำทางจิตวิญญาณด้อมส้ม ปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการคณะก้าวหน้า เสนอแนะให้แก้รัฐธรรมนูญมาตรา 272 ปิดสวิตช์ สว. โดยพรรคก้าวไกล ยื่นเข้าสภาฯโดยทันที และใช้เวลา 4 เดือน ถ้าไม่ผ่าน ก็ถอยมาเป็นผู้นำฝ่ายค้าน 

จากนั้น ชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรคก้าวไกล นำทีม สส.หนังสือร่างกฎหมายแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา 272 เพื่อยกเลิกอำนาจ สว.ในการเลือกนายกฯ ต่อประธานสภาฯ 

นี่คือ กลยุทธ์คู่ขนาน เสนอแก้ไข ม.272 ปิดสวิตช์ สว.กับการโหวตนายกฯ    

แกนนำเพื่อไทย รู้เหลี่ยมรู้ทางก้าวไกล จึงออกมาดักคอทันควัน ภูมิธรรม เวชยชัย รองหัวหน้าพรรค พูดชัดว่า การแก้ไข ม.272 ของก้าวไกล เป็นแค่เกมเชิงสัญลักษณ์ 

เนื่องจากเมื่อ 4 ปีที่แล้ว พรรคเพื่อไทย เสนอแก้ไข ม.272 ต่อรัฐสภา 2 ครั้ง แต่ไม่สำเร็จ เพราะต้องได้เสียงจากรัฐสภา, เสียงฝ่ายค้าน 20% และที่สำคัญจาก สว. 86 เสียง ซึ่งแกนนำก้าวไกลรู้เรื่องนี้ดี แต่เลือกที่จะเล่นเกมนี้ เพื่อยื้อเวลา

“เราจะให้คุณพิธา ได้ทดลอง ถ้าอีกรอบ เสียงไม่ได้แตกต่างไปจากเดิม ก็ชัดเจนแล้วว่าไปไม่ได้ คงต้องมีการเปลี่ยนแปลง” ภูมิธรรม สำทับแบบตรงไปตรงมา

 

 

 

 

ขาใหญ่ไล่บี้เด็ก
ลูกสาวนายใหญ่ อุ๊งอิ๊ง แพทองธาร ชินวัตร เลือกที่จะสงบนิ่ง ปล่อยให้ขุนพลระดับหัวแถวสายตรงทักษิณ ออกมาถล่มก้าวไกลแบบนิ่มๆ

ด้วยสถานการณ์รักแบบคลุมถุงชน เพื่อไทยจึงจำยอมเล่นเกมฝ่ายประชาธิปไตยไปจนสุดทาง เมื่อ พิธา ติดกับดัก สว. จนสังคมเชื่อว่าไปต่อไม่ได้แล้ว เพื่อไทยจะอ้างความชอบธรรมในการเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลได้

อย่างไรก็ตาม เพื่อไทยเองก็ต้องชั่งน้ำหนักว่า สูตรรัฐบาลใหม่ ได้หรือเสีย ระหว่างสูตรหนีบก้าวไกลไปตายดาบหน้า ชู เศรษฐา เป็นนายกฯ และสูตรพลิกขั้ว จับมือขั้ว 188 ชู อุ๊งอิ๊ง เป็นนายกฯ

นอกจากนี้ ยังมีสูตรพิสดาร ขั้ว 188 จัดตั้งรัฐบาล ชู ลุงป้อม เป็นนายกฯ และเชิญเพื่อไทยมาเป็นพรรคร่วมรัฐบาล

เพื่อไทยจะปล่อยให้ก้าวไกล ลากเกมโหวตนายกฯ ต่อไปเรื่อยๆ คงไม่ได้แล้ว และสองพรรคนี้ จะผูกกันเป็นมัดข้าวต้ม จนเป็นพรรคฝ่ายค้านร่วมกัน ก็ยิ่งเป็นความฝันอันเลื่อนลอยของด้อมส้ม