ก้าวข้ามประธานสภา ‘พิธา’ ไม่ผ่านกำแพง สว. จับตา ‘อุ๊งอิ๊ง’ เพื่อไทยดันสูตร 2

เดินกันไปให้สุดทาง พิธา วัดใจ อุ๊งอิ๊ง เพื่อไทย ไม่ล่มดีลใหม่ หลังก้าวไกลถอย สละตำแหน่งประธานสภา รู้ทั้งรู้เจอด่านโหดโจทย์หิน

ด้อมส้มระดับตัวพ่อ อ่านเกมข้ามช็อต เพื่อไทยดัน วันนอร์ นั่งประธานสภา หวังกุมสภาพก่อนชิงธงจัดตั้งรัฐบาล สูตร 2 เศรษฐา คว้าเก้าอี้นายกฯ
 

จบแล้วค่ำคืนอันสับสนของด้อมส้ม และติ่งแดง เมื่อแกนนำเพื่อไทย และก้าวไกล ร่วมกันแถลงข่าวเรื่องประธานสภาผู้แทนราษฎร ที่โรงแรมแลงคาสเตอร์ ย่านห้วยขวาง กทม.

เป็นไปตามกระแสข่าวที่ร่ำลือมากันทั้งวัน วันมูหะมัดนอร์ มะทา หัวหน้าพรรคประชาชาติ ขึ้นเป็นประธานสภา เพื่อแก้ปัญหาข้อขัดแย้งระหว่างสองพรรค โดยพรรคก้าวไกล จะได้ตำแหน่งรองประธานสภา คนที่ 1 ส่วนพรรคเพื่อไทย รองประธานสภา คนที่ 2

 

ปฏิกิริยาจากกรณีประธานสภาคนกลาง ทำให้ด้อมส้มออกอาการผิดหวังที่พรรคก้าวไกล มิอาจรักษาตำแหน่งประมุขนิติบัญญัติเอาไว้ได้ อย่างความเห็นของเซเลบส้มคนหนึ่งที่ว่า “..พรรคเพื่อไทยเขาไม่ได้มองไปที่เก้าอี้ประธานสภา แต่เขามองไปที่เก้าอี้นายกรัฐมนตรีคนที่ 30”
 

จับตาสูตร 2 
อุ๊งอิ๊ง-แพทองธาร ชินวัตร ได้ย้ำแล้วย้ำอีกว่า เพื่อไทยจะไม่ทิ้งพิธา ไม่ทิ้งก้าวไกล และไม่มีรัฐบาลพลิกขั้วอย่างแน่นอน แต่การเมืองไทยอะไรก็เกิดขึ้นได้

หลังจากได้ประธานสภา ก็เข้าสู่โหมดการเลือกนายกรัฐมนตรี ในชั่วโมงนี้ กลุ่ม สว.สายความมั่นคงประเมินว่า 8 พรรคร่วมรัฐบาล จะมี 2 สูตร หรือ 2 ฉากทัศน์ ในการเข้าสู่ทำเนียบ

สูตร 1 พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ นายกฯ โดยการเสนอของ 8 พรรคร่วมรัฐบาล ที่มีก้าวไกลเป็นแกนนำ

สูตร 2 เศรษฐา ทวีสิน นายกฯ ที่มีพรรคเพื่อไทย เป็นแกนนำ พร้อมกับ 7 พรรคร่วมรัฐบาล อาจดึงพรรคประชาธิปัตย์ ,พรรคชาติไทยพัฒนา และพรรคชาติพัฒนา เข้ามาเสริม 

เงื่อนไขจะเกิดสูตร 2 ก็เมื่อพิธา ถูกเสนอชื่อในที่ประชุมรัฐสภา และได้เสียงสนับสนุนไม่ครบ 376 เสียง ซึ่งอาจมีการโหวต 2-3 ครั้งแล้ว ก็ไม่ผ่าน จึงจะมีการเปลี่ยนแกนนำจัดตั้งรัฐบาลและเกิดสูตร 2 ดังข้างต้นนี้

กรณีการจะโหวตกี่ครั้งนั้น ประธานสภา จะเป็นผู้ดำเนินการ สำหรับ วันมูหะมัดนอร์ มะทา ว่าที่ประธานสภา ได้ให้สัมภาษณ์ในรายการไทยรัฐนิวส์โชว์ กรณีการเสนอชื่อพิธา ไม่ผ่านรอบแรก และควรจะให้โหวตกี่ครั้ง

“..ก็ต้องวิเคราะห์ว่า ขาดอีกเท่าไหร่ และขาดในส่วนไหน แล้วก็ต้องโหวตต่อไป สักครั้งหรือ 2 ครั้ง เพื่อให้อิงตาม MOU ที่ว่า ต้องพยายามให้คุณพิธา และ ก้าวไกล สบายใจว่า 8 พรรค อยากจะร่วมมือให้เสียงข้างมากเพื่อให้คุณพิธาได้” 

วันนอร์ ประธานสภา จึงจะเป็นผู้กำหนดว่า ควรโหวตกี่ครั้ง และหากทำจนสุดความ สามารถแล้ว หากพิธาผ่านไปไม่ได้ ก็ต้องเปลี่ยนตัวผู้เล่น 

 

กำแพงความมั่นคง
ชั่วโมงนี้ นักการเมืองเกือบทุกพรรคคงได้ข้อสรุปร่วมกันว่า พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ไม่น่าจะผ่านด่านการประชุมร่วม 2 สภาเพื่อโหวตนายกฯ เพราะ 8 พรรคร่วมรัฐบาล มีอยู่ 312 เสียง ยังขาดเสียงสมาชิกรัฐสภาอีก 65 เสียง จึงจะถึงเกณฑ์ครบ 376 เสียง

พูดง่ายๆ พิธา และก้าวไกล ต้องไปขอเสียง สว.อีก 65 เสียง มาหนุนให้เป็นนายก รัฐมนตรี และมาจนถึงตอนนี้ เสียง สว.ที่จะหนุนพิธายังไม่น่าจะมีไม่ถึง 18 คน

พล.อ.อกนิษฐ์ หมื่นสวัสดิ์ สมาชิกวุฒิสภา เพื่อนร่วมรุ่นของ พล.อ.ประยุทธ์ระบุเงื่อนไขที่จะเลือกนายกฯ มีอยู่ 3 ข้อคือ หนึ่ง-เป็นคนดี คนเก่งหรือไม่ สอง-เป็นบุคคลที่ทำอะไรก็คำนึงถึงผลประโยชน์ของชาติ บ้านเมือง ผลประโยชน์ประชาชน เป็นหลักหรือไม่ สาม-ต้องเป็นคนที่ยึดมั่นในหลัก ทำเพื่อชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

วงใน สว.กลุ่มเพื่อนประยุทธ์ ประเมินว่า ทีมสภาสูง คงตั้งมือรับกรณี พิธา และพรรคก้าวไกลเป็นหลัก เนื่องจากอุดมการณ์และแนวทางหลักพรรคก้าวไกล เป็นภัยความมั่นคง จึงต้องหาทางสกัดทุกวิถีทางที่จะไม่ให้พิธา เป็นนายกรัฐมนตรี

สำหรับกรณีสูตร 2 เพื่อไทยเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล ถ้ายังมีก้าวไกลเป็นพรรคร่วมรัฐบาล สว.สายความมั่นคง ก็จะไม่โหวตให้เศรษฐา เป็นนายกฯ เช่นกัน