ประดาบก็เลือดเดือด เปิดปม 'หุ้น itv' รับผลทันที แดงทั้งกระดาน

ข้อห้ามมิให้เป็นเจ้าของหรือผู้ถือหุ้นในกิจการหนังสือพิมพ์หรือสื่อมวลชนใด ๆ หากจะสมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร มาตรา 42 (3) ตาม
พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร 2561ถือเป็นปฐมบท หุ้น itv ของ พิธา ลิ้มเจริญรัตน์

อัตราโทษกำหนดไว้ในมาตรา 151 ว่า ผู้ใดรู้อยู่แล้วว่าตนไม่มีสิทธิแต่ไปสมัครรับเลือกตั้งหรือทําหนังสือยินยอมให้พรรคการเมืองเสนอรายชื่อเพื่อสมัครรับเลือกตั้งแบบบัญชีรายชื่อ ต้องระวางโทษจําคุกตั้งแต่หนึ่งปีถึงสิบปี และปรับตั้งแต่สองหมื่นบาทถึงสองแสนบาท

และให้ศาลสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งของผู้นั้นมีกําหนดยี่สิบปี นี่เป็นข้อกล่าวหาที่สาหัส สำหรับ แคนดิเดตนายกฯจากพรรคก้าวไกล

มองด้านหนึ่ง itv มีความจำเป็นต้องดำรงอยู่จนถึงปัจจุบันนี้ เพราะยังเป็นคู่ความกับสำนักปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ที่บอกเลิกสัญญา  รอวันชี้ชะตาจากศาลปกครองสูงสุด   แม้ไม่ได้ประกอบกิจการ แต่ความเป็นสื่อยังคงดำรงอยู่ ตามหนังสือบริคณฑ์สนธิ  

มองด้านนี้ itv ก็มีความหวัง เพราะศาลปกครองกลางสั่งให้ชนะคดีมาแล้ว  แต่มองด้านของ พิธา ก็มีความพยายาม ที่จะหาเหตุผลว่า itv ยังมีการประกอบกิจการสื่ออยู่หรือไม่ มาเป็นแนวทางในการต่อสู้

ลักษณะต้องห้ามมิให้สมัครรับเลือกตั้ง เป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เริ่มต้นและถูกประทับตรามาตั้งแต่ต้น และจะส่งผลต่อไปในอนาคต เนื่องจากทั้งตำแหน่งรัฐมนตรีและนายกรัฐมนตรี ล้วนอิงอาศัยข้อห้ามนี้ต่อเนื่องกันไป และส่งผลให้ดำเนินการถอดถอนได้ ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 82

นิกม์ แสงศิรินาวิน อดีตผู้สมัคร สส.พรรคอนาคตใหม่ ซึ่งปัจจุบันสังกัดพรรคภูมิใจไทยยอมรับว่า เป็นผู้เปิดประเด็นดังกล่าว และบอกอีกว่าการพิสูจน์ เรื่องการถือหุ้นสื่อควรพิสูจน์กันในชั้นศาล  ถ้าพลาดเพราะถือหุ้นจริงก็ควรยอมรับความจริง

แม้ท่าทีของ กกต. ส่อว่า จะปล่อยผ่าน ให้พิธา เข้าไปทดสอบด่านในสภา และหากฝ่าด่านไปได้ เรื่องนี้ก็ยังเป็นปัญหาต่อไป เพราะนักกฎหมาย มองว่า ความผิดสำเร็จตั้งแต่มีการถือหุ้น โดยมิต้องสืบต่อว่า สื่อนั้นยังประกอบกิจการหรือไม่ ตราบใดที่ยังไม่จดทะเบียน ยกเลิกบริษัท

ปมหุ้น itv จะส่งผลทางการเมืองอย่างไร ยังไม่มีคำตอบ แต่เรื่องเดียวกันนี้ ส่งผลต่อธุรกิจแล้วอย่างเห็นได้ชัด เมื่อมีรายงานว่า กรณีคำตอบประธานที่ประชุม และ เอกสารรายงานการประชุมไม่ตรงกันทำให้หุ้น INTUCH ติดลบ 2% เมื่อเช้าวันที่ 12 มิ.ย. 2566  

INTUCH เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ ใน itv 52.92% และ GULF ที่เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ใน INTUCH 41.19% ก็ปรับตัวลงด้วย -2%เช่นเดียวกัน ตามรายงานของเพจลงทุนแมน