คอลัมนิสต์

ส่อง "ชูพงศ์" แดงสาย 112 หลบโควิดที่ปารีส

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

โควิดไม่เป็นอุปสรรค สำหรับแดงสาย 112 "จรัล" นัดจิบไวน์ "ชูพงศ์ เปลี่ยนระบอบ" 

 

++
บังเอิญมีข่าวสารจากเมืองไทย เมื่อวันที่ 27 พ.ค.2564 กรณีกระทรวงดีอีเอส แจ้งความเอาผิด สมศักดิ์ เจียมธีรสกุล ผู้ต้องหาคดีมาตรา 112 ซึ่งกระทรวงการต่างประเทศ ได้ประสานงานเรื่องนี้กับทางการฝรั่งเศสอยู่

 

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง... แดงพเนจร "ชูพงศ์" หนีโควิด เผ่นเข้ายุโรป
 

 

ส่อง \"ชูพงศ์\" แดงสาย 112 หลบโควิดที่ปารีส

จรัล และชูพงศ์ ในปารีส
    

วันเดียวกัน ในเฟซบุ๊ก Jaran Ditapichai อดีตกรรมการสิทธิมนุษยชน จรัล ดิษฐาอภิชัย อัพสเตตัส Paris Restaurant Italian พร้อมโพสต์ภาพตัวเขาเอง นั่งรับประทานอาหารกับ ชูพงศ์ ถี่ถ้วน อยู่ในร้านอาหารแห่งหนึ่งในนครปารีส 
    

“จรัล” บอกว่า หลังสถานการณ์โควิดในฝรั่งเศสคลี่คลาย ความคึกคักก็มาเยือนปารีส โดยตัวเขาได้โพสต์ภาพชีวิตคนฝรั่งเศสที่ออกมาใช้ชีวิตกันตามปกติ
    

ทั้งจรัลกับชูพงศ์ ต่างก็เป็นคนใต้ และศรัทธาในแนวทางการปฏิวัติประเทศไทย แต่ช่วงหนึ่ง เขาทั้งสองต่างแยกกันต่อสู้ตามความเชื่อ ก่อนจะโคจรมาพบกันใน พ.ศ.นี้


++
หลวงตาชูพงศ์
++
คนเสื้อแดงสายฮาร์ดคอร์จะรู้จัก ชูพงศ์ ถี่ถ้วน หรือ “หลวงตาชูพงศ์” หรือ “ชูพงศ์ เปลี่ยนระบอบ” มานานกว่าสิบปีแล้ว
    

“ชูพงศ์” เป็นคนใต้ เติบโตจากสายแรงงานปฏิวัติ และเคยเป็นประธานสหภาพแรงงานประปาส่วนภูมิภาค ในยุคซ้ายครองเมืองปี 2517-2525 ชูพงศ์กับจรัล เดินทางคนละเส้น เนื่องจากชูพงศ์เป็นศิษย์สำนักซอยศาสนา ของประเสริฐ ทรัพย์สุนทร จึงศรัทธาในลัทธิปฏิวัติประชาธิปไตย และถูกมองว่าเป็น “ลัทธิแก้”
    

ขณะที่ “จรัล” เลือกเข้าร่วมการต่อสู้ด้วยอาวุธ ภายใต้ร่มธงพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย (พคท.) แต่การปฏิวัติไทยล้มเหลว จรัลออกจากป่าคืนเมือง และได้มีโอกาสไปเรียนหนังสือต่อที่ประเทศฝรั่งเศส
    

ส่อง \"ชูพงศ์\" แดงสาย 112 หลบโควิดที่ปารีส

สองสหาย ในปารีส

 

 

ปี 2542-44 ชูพงศ์ ลงพื้นที่แถวอีสาน ช่วยงานจัดตั้งมวลชนให้กับพรรคความหวังใหม่

 

ปี 2548 มีรัฐมนตรีอีสานใต้ ในรัฐบาลทักษิณ ได้ให้ ชินวัฒน์ หาบุญพาด นายกสมาคมผู้พิทักษ์ผลประโยชน์ผู้ขับรถแท็กซี่ จัดตั้งเวทีคนรักทักษิณ ที่สถานีขนส่งหมอชิต เพื่อต่อต้านกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย
    

ชูพงศ์ ขอไปขึ้นเวทีปราศรัยโจมตีคนเสื้อเหลือง และประกาศจัดตั้งสมาพันธ์พิทักษ์ประชาธิปไตย หลังรัฐประหาร 2549 อดีตซ้ายไทยก็ปรากฏตัวที่สนามหลวง อาทิ ชูชีพ ชีวสุทธิ์, ชูพงศ์ ถี่ถ้วน และสุรชัย แซ่ด่าน
    

ปลายปี 2551 “ขาใหญ่บุรีรัมย์” ทรยศ “นายทักษิณ” จึงเกิดการแตกแยกภายในองค์กรแท็กซี่หมอชิต “ชินวัฒน์” เลือกเดินไปกับกลุ่ม นปช. ส่วนแกนนำแท็กซี่อีกปีกหนึ่งไปสังกัดพรรคสีน้ำเงิน จัดตั้งวิทยุชุมชนรักชาติ ศาสน์ กษัตริย์
    

ปี 2552 ชูพงศ์ ปลีกวิเวก แยกตัวไปก่อตั้งสถานีวิทยุชุมชนคนรู้ใจ แถวเมืองนนท์ เปิดแนวรบ “แดงตาสว่าง” จนต้องหลบหนีคดี 112 จากเมืองไทยไปปักหลักที่ฟิลิปปินส์ จัดรายการวิทยุใต้ดิน ผ่านช่องยูทูบ และปีที่แล้ว ชูพงศ์ทำเรื่องผ่านองค์การสิทธิมนุษยชน ขอลี้ภัยในฝรั่งเศส 
    

ชูพงศ์ พูดเรื่องการปฏิวัติประเทศไทยมา 10 กว่าปีแล้ว แต่แนวทางปฏิวัติของเขา ก็ต่างจากสุรชัย แซ่ด่าน 
    

เมื่อวันที่ 22 มี.ค.2564 ชูพงศ์ ได้โพสต์เฟซบุ๊คเรื่องปัญหาขบวนการปฏิวัติในประเทศไทย โดยชี้ให้เห็นจุดอ่อนการปฏิวัติไทย
    

“ทำไมขบวนการปฏิวัติในประเทศไทยจึงไม่แข็งแรง  ปัญหาของขบวนการปฏิวัติอยู่ที่ พรรคการเมือง และนักการเมืองฝ่ายประชาธิปไตย ที่ยังยอมรับการทำงานในสภาเผด็จการอยู่ ขณะที่นอกสภา ขบวนของนักศึกษา เยาวชนเรียกร้องถึงขั้นปฏิวัติไปแล้ว จึงทำให้ขบวนขาดพลัง ปล่อยให้ขบวนการต่อสู้ของนักศึกษาต้องสู้อย่างโดดเดี่ยว”
    

ชูพงศ์ยังวิจารณ์ขบวนคนเสื้อแดงว่า “..การเคลื่อนไหวของมวลชนเสื้อแดง ที่ได้รับการสนับสนุนจากพรรคการเมืองฝ่ายประชาธิปไตย ในปี 2553 มีพลังมากกว่าปัจจุบันมาก แต่ยุทธศาสตร์ในเวลานั้นก็ต่ำกว่าปัจจุบัน และก็เป็นยุทธศาสตร์ที่ผิดด้วย  ทำให้การต่อสู้พ่ายแพ้  และสูญเสียไปโดยเปล่าประโยชน์”
    

แนวคิดของชูพงศ์ มักจะถูกวิจารณ์ว่า เพ้อฝัน เลื่อนลอย เป็นนักพูดมากกว่านักปฏิบัติ และไม่ต่างจาก “แดงพเนจร” คนอื่นๆ อาศัยพ่อยกแม่ยกหล่อเลี้ยงชีวิตในต่างแดน

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ