คอลัมนิสต์

7 ความจริง พปชร. ยึดพรรคต่อหรือรอพรรคแตก?

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

7 ความจริง พปชร. ยึดพรรคต่อหรือรอพรรคแตก?

ปัญหาภายใน หรือที่เรียกกันว่า "ศึกใน" ของพรรคพลังประชารัฐที่เกิดขึ้นล่าสุด ถูกมองว่าเป็นการปั่นกระแสทางการเมืองของบางกลุ่มบางพวกเพื่อ "ต่อรองเก้าอี้รัฐมนตรี" แต่คำถามที่น่าคิดก็คือ พรรคแกนนำรัฐบาลพรรคนี้ ไม่ได้มีปัญหาภายในจนกระทบต่อเสถียรภาพของรัฐบาลจริงๆ หรือ

             

                                                 7 ความจริง พปชร. ยึดพรรคต่อหรือรอพรรคแตก?

 

 

 

 

 

 

หากจับสัญญาณการเคลื่อนไหวของ "บิ๊กป้อม" พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และประธานยุทธศาสตร์พรรคพลังประชารัฐ ผ่านการบอกเล่าจากคนใกล้ชิด จะได้ข้อมูลอีกด้านหนึ่งว่า ปัญหาภายในพรรคนั้นมีอยู่จริง การทำงานในรัฐบาลมีปัญหาขัดแย้งกันเอง และเตะตัดขากัน จนหลายๆ ครั้งกระทบกับงานในภาพรวม หากปล่อยไว้อาจถึงขั้นพรรคแตก จึงมีการกรุยทางเพื่อเข้าไปแก้ไขปัญหา แต่ไม่ใช่การยึดพรรค 

ทีมข่าวไล่เรียงลำดับเหตุการณ์แบบคร่าวๆ เพื่อสะท้อนปัญหาที่แท้จริงภายในพรรคพลังประชารัฐ 

1. ปัญหาภายในมีแน่ ตั้งแต่เริ่มตั้งรัฐบาล ถึงขั้นที่ พล.อ.ประวิตร ต้องเข้าไปเป็นประธานยุทธศาสตร์พรรค หลังไปเปิดตัวที่งานเลี้ยงพรรคที่จัดกันที่การ์มองเต้ รีสอร์ท วังน้ำเขียว เมื่อเดือนกรกฎาคมปีที่แล้ว 

2. ปัญหาไม่ได้มีแค่การทำงานในรัฐบาล แต่ในสภาก็มีปัญหา องค์ประชุมล่มหลายครั้งจนต้องมีการเรียกประชุมคาดโทษและติวเข้ม โดย "บิ๊กป้อม" ต้องออกโรงเอง

3. ข่าวการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างพรรคมีมาหลายครั้งแล้ว ตั้งแต่หลังเลือกตั้งที่มีข่าว พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี จะเข้ามานั่งเป็นหัวหน้าพรรคเอง จากนั้นก็มีการส่ง "บิ๊กป้อม" เข้าไปแก้ไขปัญหาในฐานะประธานยุทธศาสตร์ มีการตั้ง นายสุชาติ ชมกลิ่น หรือ "เสี่ยเฮ้ง" เข้าไปเป็นประธาน ส.ส. 

 

 

 

 

 

ต่อมาก็มีข่าวเปลี่ยนตัวเลขาธิการพรรค นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ บรรยากาศคล้ายๆ ปัจจุบัน คือมี ส.ส.แสดงความไม่พอใจการทำหน้าที่ของนายสนธิรัตน์ และมีการจุดพลุเสนอ ส.ส.ที่มีบารมีสูงกว่า และดูแลเพื่อนสมาชิกได้ดี เข้าไปทำหน้าที่แทน เช่น นายอนุชา นาคาศัย ส.ส.ชัยนาท แต่แล้วข่าวก็เงียบหายไป กระทั่งล่าสุดที่มีข่าวเปลี่ยนหัวหน้าและกรรมการบริหารพรรคยกชุด 

4. ที่พีคที่สุดและเป็นหลักฐานยืนยันว่าพรรคนี้มีปัญหาจริงๆ ก็คือการเปลี่ยนโลโก้พรรค จากรูปหกเหลี่ยม เป็นรูปวงกลม เพื่อแก้เคล็ดไม่ให้กลุ่มก๊วนต่างๆ ภายในพรรคขบเหลี่ยมหรือทิ่มแทงกันเอง

5. ที่ทำการใหม่ของพรรคพลังประชารัฐ ตรงข้ามศาลอาญา รัชดาภิเษก มีข่าวว่าเป็นอาคารของ นายสันติ พรัอมพัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ที่มีข่าวว่าจะมาเป็นเลขาธิการพรรค หาก "บิ๊กป้อม" ขึ้นเป็นหัวหน้าพรรค โดยมีข่าวว่า "บิ๊กป้อม" เตรียมห้องทำงานของตนเอง และของนายกฯเอาไว้ด้วย แสดงถึงความพร้อมในการเข้าไปทำหน้าที่ 

6. ความขัดแย้งระหว่างนายกฯกับ "บิ๊กป้อม" ไม่เป็นความจริง เพราะนายกฯรักและเคารพ "บิ๊กป้อม" มาก ในฐานะอดีตผู้บังคับบัญชาที่ดูแลกันมาตั้งแต่เป็นนายทหารเด็กๆ ขณะทื่นายกฯก็เชื่อใจ เชื่อมือ "พี่ใหญ่บูรพาพยัคฆ์" อย่างเต็มหัวใจ  

7. ข่าวโผครม.ที่ออกมา เป็นคนละเรื่องกับการปรับเปลี่ยนโครงสร้างพรรคเพื่อลดความขัดแย้ง แต่ถูกจับมาผูกโยงเป็นเรื่องเดียวกัน และยังมีการใส่ชื่อบางคนที่มีประวัติไม่ค่อยดี หรือไม่มีความเหมาะสมเข้าไป เพื่อดิสเครดิต ทำให้ ส.ส.ในพรรคบางส่วน และประชาชนที่ไม่ทราบข้อมูลตื้นลึกหนาบาง ออกมาคัดค้านการเปลี่ยนแปลง ทั้งๆ ที่การปรับ ครม.ก็เป็นเรื่องหนึ่ง และยังไม่มีการปรับในช่วงเวลานี้ เนื่องจากรัฐบาลมีภารกิจต่อสู้กับโควิด-19 

 

ส่วนการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างพรรค หรือรื้อกรรมการบริหารพรรคยกชุด สามารถทำได้ทันที เพื่อให้พรรคมีความพร้อม เดินหน้าสู้ศึกการเมืองหลังหมดโควิด

 

 

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ