ย้อนรอยความขัดแย้ง พปชร. ระเบิดเวลาลูกใหญ่รอทำงาน

         นายสิระ เจนจาคะ ส.ส.กทม. พรรคพลังประชารัฐ และสมาชิกกลุ่มสามมิตร  ให้สัมภาษณ์ว่า วันพรุ่งนี้(2 ก.ค.62 ) เสนอญัตติให้ขับ นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ ออกจากตำแหน่งเลขาธิการพรรค เพราะเป็นบุคคลอันตราย เป็นภัยความมั่นคงของพรรค ส.ส.พึ่งพาไม่ได้ ไม่เคยอยู่ ตามตัวไม่เจอ

         แม้แต่สถานการณ์ที่เกิดขึ้นต่อพรรคขณะนี้ ปรากฎว่า นายสนธิรัตน์ ซึ่งมีหน้าที่เป็นแม่บ้านพรรคยังเดินทางไปต่างประเทศ อย่างไรก็ตามโลกนี้แคบ ถ้าได้ยินเสียงครั้งนี้ให้รีบเดินทางกลับมาก่อนบ่ายสามโมงเย็นของวันพรุ่งนี้( 2 ก.ค.62 ) เพื่อตอบข้อสงสัยของ ส.ส.ในพรรค นอกจากนั้นยังเห็นว่า นายสนธิรัตน์ ควรเสียสละไม่รับตำแหน่งรัฐมนตรีในครั้งนี้ เพื่อแสดงให้เห็นถึงภาวะผู้นำ

         "ที่ผมออกมาขับคุณสนธิรัตน์ ไม่ได้ทำในนามส่วนตัว แต่ทำในนามของส.ส.หลายคนที่รู้สึกเหมือนกับผม โดยเฉพาะส.ส.ภาคอีสานที่นายสนธิรัตน์ ไม่เคยให้ความสนใจเลย แม้แต่นโยบายพรรคเคยหาเสียงไว้จะขอคำปรึกษา ก็หาตัวไม่เจอ " นายสิระ กล่าว  นายสิระ ให้สัมภาษณ์เอาไว้เมื่อวันที่ 1กรกฎาคม2562 

 

         วันนี้มีกระแสข่าวไล่ สนธิรัตน์ อีกแล้ว ไม่ใช่แค่ สนธิรัตน์ คนเดียว แต่ไล่ทั้ง อุตตมะ สาวนายน หัวหน้าพรรคด้วย ตามข่าวคนไล่ไม่ใช่ สิระ แต่เป็นแกนนำคนสำคัญคือ พล.อ.ประวิตร วงศ์สุวรรณ ประธานยุทธศาสตร์พรรคพลังประชารัฐเอง

 

         แม้ว่า พล.อ.ประวิตร จะให้สัมภาษณ์แล้วว่า ไม่มีอะไร จบแล้ว ไม่เปลี่ยน(หมายถึงตัวหัวหน้าและเลขาธิการพรรค) แต่ว่าการปฏิเสธของ พล.อ.ประวิตร ในหลายครั้งมักตรงกันข้าม

 

          อย่างการเข้ารับตำแหน่งประธานยุทธศาสตร์พรรค พล.อ.ประวิตร ก็ปฏิเสธ สุดท้ายก็เป็นข่าวจริง และเรื่องนี้ก็เช่นเดียวกัน มีแหล่งข่าวที่เชื่อถือได้บอกกับ”คมชัดลึก ออนไลน์” ยืนยันว่า พล.อ.ประวิตร ได้คุยกับ นายอุตตมะ เรียบร้อย และนายอุตตมะ ก็รับปากเรียบร้อย แต่ที่ไม่เรียบร้อยเพราะมีคนเอาข่าวไปปล่อย

 

         วกกลับมาในวันที่มีการบวงสรวงศาลพระภูมิ ที่ตั้งที่ทำการพรรคพลังประชารัฐ แห่งใหม่ ตรงข้ามศาลอาญารัชดา อันเป็นที่ดินและตึกของ สันติ พร้อมพัฒน์ ว่าที่เลขาธิการพรรค วันนั้นมีการพูดคุยกันเรียบร้อย แต่หลังจากนั้น มีการเรียก นายุตตมะ มาตกลงอีก แต่นายอุตตมะ ไม่มา

 

         “เมื่อขอกันดีๆไม่ได้ อาจจะต้องออกมาไล่กันอีก รอให้โควิดซาๆก่อน “ แหล่งข่าวใกล้ชิดพล.อ.ประวิตร ระบุกับคมชัดลึกออนไลน์

 

         ย้อนกลับไปวันที่ สิระ ออกมาไล่สนธิรัตน์ มีคำพูดคำหนึ่งที่สส.หลายคนสงสัยคือ เป็นภัยต่อความมั่นคงของพรรค ความหมายคืออย่างไร 

 

         มาวันนี้ สส.หลายคนเริ่มเข้าใจคำพูดของ สิระ ว่าภัยต่อความมั่นคงของพรรค คืออะไรแล้ว สถานการณ์วันนี้ เหตุผลไม่ได้แตกต่างจากอดีตที่ผ่านมาเลยคือ หัวหน้ากัลป์เลขาธิการพรรค ถูกสส.ในพรรคกล่าวหาว่า ไม่ได้เข้ามาช่วยดูแลพรรคและดูแล สส. 

 

         ทั้งๆที่บรรดา 4 กุมาร ได้เป็นรัฐมนตรีถึง 3 คน รวมทั้ง สุวิทย์ เมษิณทรีย์ ด้วย มีเพียง กอบศักดิ์ ภูตระกูล เท่านั้นที่ไม่ได้เป็น ถือว่าได้โควตากลางไปมากกว่าโควตาสัดส่วนของภาคอื่น 

 

          ขณะที่การจัดสรรการดูแลสส.ของแต่ละกลุ่มแต่ละภาค มีพี่ใหญ่อย่าง พล.อ.ประวิตร เป็นคนดำเนินการทั้งหมด ซึ่งเป็นที่ทราบกันดีว่า สิ้นเดือน สส.ไปรับซองเงินเดือนที่สภาแล้ว ไปรับซองเงินเดือนของพรรคอีกคนละ2แสนต่อที่สโมสรทหารแห่งหนึ่ง ใครเป็นคนจ่ายไม่ต้องบอกก็ทราบๆกันอยู่

 

          นี่เลยเป็นเหตุผลสำคัญให้มีการเปลี่ยนตัวหัวหน้าและเลขาธิการพรรคเพราะไม่ได้ช่วยพรรคเลย แต่กระแสช่วงนี้มีปัญหาโควิด เลยถูกสั่งให้เงียบเอาไว้ก่อน รอให้โควิดซาๆ จะมีก๊อกสองออกมา

 

           แหล่งข่าวระบุว่า บางกระทรวงอาจมีข้อมูลเรื่องการทุจริตคอรัปชั่น สส.ในพรรคอาจจะเปิดเผยข้อมูลเรื่องนี้เอง หากปัญหาของพรรคไม่จบตามที่ พล.อ.ประวิตร ต้องการ 

 

           จับตาดูให้ดี งานนี้จะมี สิระ รอบสองหรือไม่ หากมี สิระ จะมีทีเด็ดทีขาดอะไรออกมา เพราะการไล่ครั้งแล้วไม่ประสบความสำเร็จ สนธิรัตน์ จะโทรศัพท์หา สิระ จนได้เห็นภาพ สิระ  กับ สนธิรัตน์ จูบปากกันอีกหรือไม่

            นี่คือระเบิดเวลาลูกใหญ่ที่ซุกอยู่ในพรรคพปชร.และพร้อมจะระเบิดตูมในอีกเดือนสองเดือนนี้แน่นอน.